
Emface นวัตกรรมใหม่ยกกระชับผิวหน้า
Emface นวัตกรรมใหม่ล่าสุดในวงการความงามที่ผสมผสานเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุเพื่อปรับปรุงโครงสร้างใบหน้า โดยไม่ต้องอาศัยการศัลยกรรมหรือการฉีด เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีตัวเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาผิว ลดความหย่อนคล้อยได้
สำหรับผู้ที่สนใจ ต้องการรู้รายละเอียดของเครื่อง Emface ว่าช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? มีขั้นตอนการทำงานอย่างไร ? เหมาะกับใคร ปัญหาแบบไหน ? รวมถึง ต้องทำกี่ครั้งเห็นผล ราคาแพงไหม ? คุ้มค่าหรือไม่เมื่อเทียบกับหัตถการยกกระชับอื่น ๆ ในตลาดความงาม หมอสรุปรวมทั้งหมดมาให้แล้ว สามารถศึกษาข้อมูลเหล่านี้ก่อนตัดสินใจทำได้เลยครับ
สารบัญ Emface
Emface ราคาเทียบกับ Ulthera และ Thermage ทำอันไหนคุ้มค่า ?
- Emface ทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?
- สนใจทำ Emface ควรเตรียมตัวอย่างไร ?
- Emface เจ็บไหม ? มีขั้นตอนการทำอย่างไร ?
- แนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังทำ Emface
- สรุป Emface อีกนวัตกรรมตัวเลือกช่วยยกกระชับผิวหน้า
Emface คืออะไร ?
Emface เครื่องมือยกกระชับผิวที่พัฒนาโดยบริษัท BTL ซึ่งเป็นผู้นำด้านอุปกรณ์ความงามและการแพทย์ สามารถยกระชับผิวโดยไม่รุกล้ำ (non-invasive) ไม่มีแผล ไม่ต้องเจ็บตัว ทำงานโดยใช้พลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูง (HIFEM – High-Intensity Focused Electromagnetic Energy) ร่วมกับเทคโนโลยี Synchronized RF (Radio Frequency) ในการกระตุ้นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง โดยมีเป้าหมายเพื่อยกกระชับผิวและโครงสร้างใบหน้า ปรับรูปหน้าให้มีมิติ และช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยได้ในเครื่องเดียว

Emface ทำงานอย่างไร ?
การทำงานของ Emface จะอาศัยการปล่อยพลังงาน 2 ชนิด เพื่อทำงานร่วมกัน คือ HIFES และ Synchronized RF ผ่านการแปะหัวแอพพลิเคเตอร์ ซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นลงบนหน้า

- พลังงาน HIFEM (High-Intensity Focused Electromagnetic Energy) : ทำหน้าที่ในการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าหดตัวแบบ Supramaximal Contraction ซึ่งเป็นการหดตัวที่มากกว่าที่เกิดขึ้นได้จากการออกกำลังกายโดยธรรมชาติ สามารถช่วยเพิ่มคุณภาพของกล้ามเนื้อขึ้นถึง 30% (จากพื้นฐานเดิมของใบหน้า) และการหดตัวนี้ยังช่วยสร้างกล้ามเนื้อใหม่ (Neomuscle) และทำให้กล้ามเนื้อที่มีอยู่แข็งแรงขึ้นได้ครับ
- คลื่นความถี่วิทยุ (Synchronized RF) : ให้ความร้อนแก่ชั้นใต้ผิวหนังและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวหนังกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น โดยทั้งสอง HIFES และ Synchronized RFจะทำงานร่วมกันแบบซิงโครไนซ์ สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาโดยคลื่น RF จะทำงานที่อุณหภูมิอุ่น ๆ ไม่เกิน 42 องศา เพื่อป้องกันผิวไหม้ และยังทำให้กล้ามเนื้อตอบสนองต่อการกระตุ้น HIFEM ได้ดียิ่งขึ้นครับ ผลที่ได้คือจะช่วยสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสติน ลดริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าให้ลดลงถึง 37%
Emface ปลอดภัยแค่ไหน ?
ความปลอดภัย ของEmface ถูกการันตีด้วยเทคโนโลยีที่ผ่านการรับรองโดยองค์การอาหารและยาทั้งสหรัฐอเมริกา (US FDA) และประเทศไทย (เลขที่ใบอนุญาตเครื่องมือแพทย์: 65-2-2-2-0007734) รวมถึงมีงานวิจัยรองรับกว่า 9 งานวิจัยจาก Research Center 15 แห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม Emface ก็มีข้อจำกัดและข้อควรระวังเช่นกันครับ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกาย รวมถึงผู้ที่มีปัญหาผิวอักเสบ กำลังมีการบาดแผลบริเวณที่จะทำ หรืออยู่ในเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนี้
- ผู้ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการรักษามะเร็ง เนื้องอก
- ผู้ที่มีไข้
- ผู้ที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ผู้ที่มีโรคลมชัก
ดังนั้นก่อนทำควรแจ้งประวัติด้านสุขภาพให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด เพื่อให้ประเมินความเหมาะสมในแต่ละบุคคลครับ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ Emface เพื่อความปลอดภัย
แม้ว่าข้อมูลทางการแพทย์จะระบุว่าเครื่องยกกระชับ Emface มีความปลอดภัยและผ่านการรับรอง แต่ก็ต้องอยู่ในกระบวนการทำที่เหมาะสมครับ ซึ่งหัวใจหลักสำคัญคือ การทำ Emface โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เนื่องจากการใช้เครื่อง Emface จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับกายวิภาคศาสตร์ของใบหน้า และตัวแพทย์เองต้องผ่านการฝึกอบรมการใช้เครื่องอย่างถูกต้อง แพทย์สามารถประเมินสภาพผิว และวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ยังต้องมั่นใจว่าเครื่อง Emface ที่ทำเป็นเครื่องแท้ เนื่องจากปัจจุบันมีการนำเครื่องที่มีลักษณะคล้าย Emface มาให้บริการ แต่คุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยต่างกัน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดควรเลือกใช้บริการกับคลินิกที่มีน่าเชื่อถือเท่านั้นครับ
Emface ช่วยเรื่องอะไร ?
Emface มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาความงามหลายประการ เช่น
- ยกกระชับผิวหน้าและลดการหย่อนคล้อย
- เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อใบหน้า
- ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก
- ปรับโครงสร้างใบหน้าให้มีมิติ
- เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
- กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่
- ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
จุดเด่นของ Emface ในการช่วยยกระชับผิว
จุดของเครื่อง Emface คือจะสามารถช่วยยกหน้าให้กระชับได้อย่างเห็นผล เพราะสามารถส่งพลังงาน ได้ครอบคลุมทุกชั้นผิว ตั้งแต่ ชั้นหนังกำพร้า(Epidermis), ผิวหนังแท้ (Dermis),ชั้นไขมัน (Subcutaneous), ชั้นเนื้อเยื่อ (SMAS) และชั้นกล้ามเนื้อ (Muscle) รวมถึงเส้นใยที่ยึดโยงระหว่างชั้นผิว (Connective Tissue)

ส่งผลให้หลังทำ Emface สามารถช่วยปรับผิวหน้าให้เฟิร์มกระชับ เรียบเนียน และลดริ้วรอยบนใบหน้าให้ดูอ่อนกว่าวัยได้อย่างเป็นธรรมชาติ
Emface ยกกระชับผิวบริเวณใดบ้าง ?
Emface สามารถยกกระชับผิวได้ทั่วใบหน้า และตำแหน่งต่าง ๆ ที่มีกล้ามเนื้อ โดยตำแหน่งที่ได้รับความนิยมได้แก่
- หน้าผากและคิ้ว : สามารถลดริ้วรอยหน้าผาก ทำให้คิ้วยกได้รูป แก้ปัญหาคิ้วตก และทำให้เห็นชั้นดาชัดขึ้นได้
- รอบดวงตา : ช่วยลดริ้วรอยตีนกา ฟื้นฟูผิวรอบดวงตา และเพิ่มความกระชับของเปลือกตา
- ริ้วรอยร่องน้ำหมาก หรือร่องแก้ม : ให้แก้มยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อย ผิวดูเฟิร์มขึ้น
- กรอบหน้า : ช่วย ลดเหนียง คางสองชั้น กรอบหน้าดูคมชัดขึ้น ทำให้รูปหน้าดูมีมิติ และดูเรียวขึ้น
Emface ควรทำกี่ครั้ง ถึงเห็นผลชัดเจน ?
หลังทำ Emface สามารถเห็นผลได้ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาและจำนวนครั้งที่ทำครับ ในกรณีทำครั้งแรกจะเห็นผลลัพธ์ว่าใบหน้าดูยกกระชับขึ้น ริ้วรอยบนใบหน้าลดลง โดยข้อมูลในทางการแพทย์จะแนะนำให้ทำต่อเนื่อง 4 ครั้ง (สัปดาห์ละ 1 ครั้ง)
37 % สามารถลดริ้วรอยบนใบหน้าให้จางลง
23 % ใบหน้ายกกระชับขึ้น(จากสภาพผิวเดิม)
30 % ช่วยให้กล้ามเนื้อใบหน้าแข็งแรง
หมายเหตุ : ข้อมูลผลลัพธ์เมื่อทำ Emface 4 ครั้ง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่
ระยะเวลาที่คงผลลัพธ์ของ Emface อยู่ได้นานแค่ไหน ?
ตามที่หมออธิบายไปว่า Emface ควรทำทั้งหมด 4 ครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน หากทำตามคำแนะนำ จะสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคลครับ)
ใครบ้างที่เหมาะกับนวัตกรรม Emface ?
Emface เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว ลดริ้วรอยแห่งวัย โดยที่ไม่ต้องเจ็บตัวหรือเสียเวลาพักฟื้น
✓ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยตื้นถึงปานกลาง ต้องการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
✓ เหมาะกับผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง ยกกระชับหน้า ยกเหนียง มีผิวหย่อนคล้อยเนื่องจากอายุที่มากขึ้น
✓ เหมาะกับผู้ที่กลัวเข็ม กลัวการผ่าตัด หรือไม่ต้องการมีสารแปลกปลอมอื่น ๆ
Emface เหมาะกับคนอายุเท่าไร ?
Emface สามารถทำได้ตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีริ้วรอย หรือปัญหาหย่อนคล้อย ในกรณีที่อายุมากขึ้น หรือมีปัญหาความหย่อนคล้อยที่รุนแรง อาจแนะนำให้ทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หลังทำ Emface มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
Emface เป็นการรักษาที่มีความปลอดภัยสูงและมีผลข้างเคียงน้อยมาก ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ แต่มักหายไปภายใน 24 ชั่วโมง ได้แก่
- ผิวแดงเล็กน้อย : เกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นจากความร้อนของคลื่น RF
- รู้สึกอุ่นบริเวณที่รักษา : เป็นผลจากความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษา
- รู้สึกตึงกล้ามเนื้อเล็กน้อย : เนื่องจากกล้ามเนื้อถูกกระตุ้นให้ทำงานมากกว่าปกติ
- รู้สึกกล้ามเนื้อล้า : คล้ายกับความรู้สึกหลังออกกำลังกาย
ส่วนผลข้างเคียงรุนแรงพบได้น้อยมาก และมักเกิดในผู้ที่มีข้อห้ามแต่ไม่ได้แจ้งให้แพทย์ทราบ การทำหัตถการใด ๆ ก็ตามควรแจ้งข้อมูลสุขภาพให้แพทย์ครับ และควรการเลือกใช้บริการกับคลินิกและแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น
Emface ราคาเท่าไร ? คุ้มค่าแค่ไหน ?
โดยทั่วไปทำ Emface ราคาเริ่มต้นที่ประมาณครั้งละ 15,000-30,000.- ขึ้นอยู่จำนวนครั้งและสภาพผิวของคนไข้ที่ต้องการแก้ไข
นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับโปรโมชันของแต่ละคลินิก หากทำเป็นโปรแกรมหลายครั้งตามคอร์สราคาโดยรวมก็จะถูกลงครับ
Emface ต่างจาก Ulthera และThermage อย่างไร ?
ปัจจุบันมีเทคนิคการยกกระชับผิวนั้นมากมายหลายรูปแบบให้ผู้เข้ารับบริการเลือกใช้ ทั้ง Ulthera กับ
Thermage และ Emface โดยเป็นนวัตกรรมยกกระชับใบหน้าโดยการส่งคลื่นพลังงานไปยังชั้นผิวเช่นกัน แต่ได้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน
เครื่องไหนเหมาะกับใคร สามารถศึกษาแพทย์ ประเมินสภาพผิวหน้า และแนะนำเครื่องมือที่เหมาะสม และคุ้มค่าให้ได้ แต่ในเบื้องต้นหมอมีข้อมูล ที่ควรรู้มาแนะนำก่อนตัดสินใจครับ
Ulthera VS Emface
Ulthera กับ Emface เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวที่มีข้อดีคล้าย ๆ กันอยู่ครับ เช่น
- ได้ทั้ง การกระชับกล้ามเนื้อ และ ยกกระชับโครงสร้างผิว
- ลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดูเด็กลงโดยไม่ต้องศัลยกรรม
- ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นและเห็นผลเร็วขึ้น
แต่ทั้ง 2 เครื่องมีเทคโนโลยี และกระบวนการที่ต่างกัน
Emface
- ใช้เทคโนโลยี HIFEM + Synchronized RF
- เน้นทั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อและการสร้างคอลลาเจน
- ไม่มีความเจ็บปวดระหว่างการทำ
- ระยะเวลาการรักษาสั้น (ประมาณ 20 นาที)
- ต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี (ประมาณ 4 ครั้ง)
Ulthera
- ใช้เทคโนโลยีอัลตร้าซาวด์แบบโฟกัส (Focused Ultrasound)
- เน้นการยกกระชับผิวและการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นลึก (SMAS)
- อาจมีความรู้สึกเจ็บ หรือปวดหน่วง ๆ ระหว่างการทำและหลังทำเล็กน้อย ต้องใช้ยาชา
- ทำเพียงครั้งเดียวแล้วผลลัพธ์คงอยู่ได้ 1ปี
Thermage VS Emface
Thermage อีกหนึ่งเครื่องมือยกกระชับผิวหน้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่เเพ้ เครื่อง Ulthera ครับ หากเปรียบเทียบระหว่าง Thermage กับ Emface และ Ulthera ทั้ง 3 เครื่อง สามารถยกกระชับผิวได้เหมือนกัน แต่ Thermage กับ Emface จะมีเทคโนโลยียกกระชับผิวที่อาจจะคล้ายกันเล็กน้อย คือ Emface มีเทคโนโลยี Synchronized RF ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ คล้าย Thermage
Thermage
- ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (RF) ที่มีความเข้มข้นสูง
- เน้นการกระชับผิวและการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวและชั้นใต้ผิวหนัง
- อาจมีความเจ็บปวดระหว่างการทำ มักต้องใช้ยาชา
- ระยะเวลาการรักษา 45-90 นาที
- ทำเพียงครั้งเดียวแล้วผลลัพธ์คงอยู่ได้ 1-2 ปี
ส่วนจะเลือกทำเครื่องไหนดี ทั้ง 3 เครื่องล้วนมีข้อดี และจุดเด่นที่ต่างกัน Emface มุ่งเน้นที่การทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้าร่วมกับการปรับปรุงผิวหนัง ในขณะที่ Ulthera และ Thermage เน้นที่การยกกระชับผิวหนัง สามารถช่วยยกระชับหน้าให้มีมิติ ให้ดูอ่อนเยาว์เป็นหลักครับ
Emface ราคาเทียบกับ Ulthera และ Thermage ทำอันไหนคุ้มค่า ?
ในด้านความคุ้มค่า ในการทำแต่ละเครื่อง ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละบุคคลเป็นหลักครับ เนื่องทั้ง 3 เครื่องล้วนมีข้อดี และจุดเด่นที่ต่างกัน Emface มุ่งเน้นที่การทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้าร่วมกับการปรับปรุงผิวหนัง ในขณะที่ Ulthera เน้นที่การยกกระชับผิวหนัง สามารถช่วยยกระชับหน้าให้มีมิติ ให้ดูอ่อนเยาว์เป็นหลัก ส่วน Thermage เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระชับผิวและลดไขมันใต้ผิว ที่ V Square Clinic มีราคาการทำ Ulthera และ Thermage ดังนี้



Emface ทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?
Emface สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ แต่ต้องจัดลำดับเวลาที่เหมาะสม
หัตถการที่สามารถทำร่วมกันได้
- การฉีดโบท็อกหรือฟิลเลอร์ : ควรทำหลังจากสิ้นสุดคอร์ส Emface แล้วอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือทำก่อน Emface อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- เลเซอร์กระชับผิว: สามารถทำร่วมกันได้ แต่ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 สัปดาห์ -1 เดือน ขึ้นอยู่กับประเภทเลเซอร์ที่ทำ
- ทรีทเมนต์บำรุงผิว : เช่น วิตามินซีเข้มข้น สามารถทำร่วมกันได้หลังจากทำ Emface แล้ว 1-2 วัน
- กานวดหน้า : ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 3-5 วันหลังทำ Emface
- ร้อยไหม (Thread Lift) : ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เดือนระหว่างการทำทั้งสองอย่าง
การพิจารณาทำ Emface ร่วมกับหัตถการอื่นควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละบุคคลครับ
สนใจทำ Emface ควรเตรียมตัวอย่างไร ?
การเตรียมตัวก่อนทำ Emface มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและป้องกันผิวจากแสงแดด เพื่อไม่ให้ผิวเกิดการอักเสบก่อนทำ
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด เช่น AHA, BHA, Retinol อย่างน้อย 3-5 วันก่อนการรักษา
- งดการทำทรีทเมนต์ที่ทำให้ผิวไวต่อแสง เช่น เลเซอร์ IPL หรือการลอกผิว ก่อนการรักษา 2 สัปดาห์
- งดการใช้ยาที่ทำให้ผิวไวต่อแสง หากเป็นไปได้และได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
- ไม่แกะ เกา บีบ ถูก หรือทำการใด ๆ ให้ผิวเกิดการระคายเคืองหรือเป็นแผล
- งดการฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการรักษา
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการรักษาและยาที่ใช้เพื่อประเมินความเหมาะสมในการรักษา
Emface เจ็บไหม ? มีขั้นตอนการทำอย่างไร ?
Emface เป็นการรักษาที่ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดและไม่ต้องใช้ยาชา โดยความรู้สึกคนไข้ส่วนใหญ่จะรู้สึกถึงความอุ่นและการกระตุ้นกล้ามเนื้อแบบเป็นจังหวะ ในขั้นตอนระหว่างทำเท่านั้น
ขั้นตอนการทำ Emface
- ขั้นตอนการเตรียมผิวด้วยการเช็ดเครื่องสำอางและสกินแคร์
- แพทย์จะเริ่มติดแผ่น Applicator ในบริเวณที่ต้องการยกกระชับ เพื่อเริ่มปล่อยพลังงานลงสู่ผิวหนังไปยังชั้นกล้ามเนื้อ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
- ทำความสะอาดผิวหลังทำหัตถการ สามารถกลับบ้านได้โดยไม่ต้องพักฟื้น หน้าไม่บวม สามารถแต่งหน้า หรือไปงานอื่น ๆ ได้ทันที
โดยทั่วไป คอร์สการรักษามาตรฐานคือ 4 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 5-10 วัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
แนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังทำ Emface
หลังทำ Emface จะไม่มีรอยเข็มหรือรอยช้ำใด ๆ จะมีเพียงอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างทำ เช่น รู้สึกตึงบริเวณใบหน้า รู้สึกถึงแรงกระตุกเบา ๆ รู้สึกเหมือนถูกนวดคลึงใบหน้า และรู้สึกอุ่นบริเวณที่เครื่องมือสัมผัสกับผิว
การดูแลตัวเองหลังทำ Emface ที่ควรปฏิบัติได้แก่
- หลีกเลี่ยงความร้อนสูง งดการอบซาวน่า อบไอน้ำ หรือการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมาก 24-48 ชั่วโมง
- งดการแต่งหน้า อย่างน้อย 6 ชั่วโมงหลังการรักษา
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยเสริมประสิทธิภาพของการรักษา
- ใช้ครีมกันแดด ทาทุกวันเพื่อป้องกันผิวหน้าจากรังสี UV
- ทำตามคำแนะนำของแพทย์ เกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีโปรตีนสูง เพื่อช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
- หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังการรักษา
- นอนหลับให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่
สรุป Emface อีกนวัตกรรมตัวเลือกช่วยยกกระชับผิวหน้า
Emface เป็นนวัตกรรมล่าสุดในการยกกระชับใบหน้า ที่เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนที่กลัวเจ็บ ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่มีระยะพักฟื้น และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอย หรือผู้ที่ต้องการป้องกันปัญหาก่อนวัย แต่ทั้งหมดนี้ ต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัย ทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น
อ้างอิง
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
