
ฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปากถือเป็นอีกหนึ่งหัตถการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์การฉีดปากกระจับ ปากสายเกา และฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ นอกจากจะมีข้อดีในเรื่องเห็นผลไว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ไม่มีรอยแผลเป็นแล้ว หลังฉีดเสร็จส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูมีเสน่ห์ น่ามองอีกด้วยครับ
สำหรับใครที่สนใจจะฉีดฟิลเลอร์ปากและกำลังหาข้อมูล ในบทความนี้หมอจะมาบอกข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก รวมไปถึงการเลือกฉีดปากอย่างไรให้ปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่าครับ


(ฟิลเลอร์ปาก 1 cc ปากทรงสวย เป็นธรรมชาติ)
ก่อนทำ ในเคสนี้มีปัญหาปากไม่เท่ากัน ไม่สมมาตร ทำให้ขาดความมั่นใจ
หลังทำทันที ส่วนที่ขาดหายถูกเติมเต็ม ปรับทรงปากให้เข้ารูปสวยและชุ่มชื้นมากขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ปาก คือการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือที่ในวงการทางแพทย์เรียกสารชนิดนี้ว่า “ฟิลเลอร์” มาฉีดบริเวณริมฝีปาก เพื่อเติมเต็มให้ปากมีความอวบอิ่ม ชุ่มชื้น เต่งตึงขึ้น นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ปากยังช่วยปรับรูปปากให้เป็นทรงต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ ช่วยแก้ปัญหาปากบาง ปากไม่เท่ากันได้

ด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่ช่วยกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น (Hydration) สามารถเติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนัง เพิ่มความยืดหยุ่น ให้ผิวเต่งตึง เรียบเนียนและช่วยลดริ้วรอย จึงทำให้นิยมนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม ช่วยตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาผิวหน้าได้อย่างครอบคลุม
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ปาก เซ็กซี่แบบธรรมชาติ ทรงปากที่เหมาะกับคนไทยมากที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์ปาก VS ผ่าตัดศัลยกรรมปาก ต่างกันอย่างไร ?

ข้อดี-ข้อเสีย | ฉีดฟิลเลอร์ปาก | ผ่าตัดปาก |
---|---|---|
การเห็นผลและการพักฟื้น | เห็นผลทันทีหลังทำ ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น | พักฟื้นนาน คนไข้จะต้องรอให้แผลสมานตัวใช้เวลานานกว่า 7-9 วัน และอาจต้องใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์กว่าที่แผลจะหายดี |
ขนาดแผล | ไม่มีแผลหลังทำ อาจมีรอยเข็มเพียงเล็กน้อย แต่สามารถหายได้ | อาจมีรอยแผลนูน หรือรอยแผลเป็นบริเวณแผลผ่าตัด |
การคงสภาพ | ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ มีตั้งแต่รุ่นที่อยู่ได้นาน 6 เดือน จนถึง 18 เดือน | คนไข้สามารถรักษารูปทรงปากนี้ไว้ได้อย่างถาวร |
ราคา | 10,000-16,000/CC ขึ้นอยู่กับคลินิกที่เลือกใช้บริการ | 15,000-25,000 ขึ้นอยู่กับคลินิกที่เลือกใช้บริการ |
การบวมช้ำ | อาจมีอาการบวม 7-14 วัน แต่อาการเหล่านี้สามารถหายได้เอง และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ | มีอาการบวมประมาณ 3 เดือน โดยจะบวมมากที่สุดในช่วง 3-4 วันแรก จากนั้นจะค่อย ๆ บวมน้อยลง |
จากข้อดี-ข้อเสีย ของ ฉีดฟิลเลอร์ปาก และ ผ่าตัดปาก ทั้งสองหัตถการจะเห็นได้ว่า การฉีดฟิลเลอร์จะมีความยืดหยุ่นมากกว่าการผ่าตัด แทบจะไม่มีผลข้างเคียงและเห็นผลชัดเจนหลังทำ ที่เราเห็นว่ามีข่าวการฉีดปากแล้วบวม แพ้ อักเสบ ส่วนใหญ่คนไข้ที่เจอปัญหานี้คือไปฉีดกับหมอที่ใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฉีดกับหมอที่ไม่มีประสบการณ์ครับ

ในกรณีที่ผ่าตัดทำปากบางมาแล้วบางเกินไป ในบางเคสสามารถใช้ฟิลเลอร์ปากแก้ให้ดีขึ้นได้ครับ แต่ก็ขึ้นกับพังผืดที่เกิดจากการผ่าตัด ถ้าพังผืดดึงรั้งมากก็จะเติมฟิลเลอร์ได้น้อยครับ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยอะไรได้บ้าง ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถช่วยแก้ไขปัญหาปากเป็นร่อง ปากบาง ปากแห้ง ให้กลับมาสวย ชุ่มชื้น ดูอวบอิ่มยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหามุมปากตก ลักษณะรูปปากที่ไม่ได้สัดส่วน ริมฝีปากบางเกินไป ริมฝีปากไม่เท่ากันได้อีกด้วย


(ฟิลเลอร์ปาก แก้ปัญหาปากแห้ง ปากตกร่องทำให้ต้องเติมลิปสติกบ่อยขึ้น)

(ฟิลเลอร์ปาก ปรับปากที่บางให้อวบอิ่มขึ้น)

(ฟิลเลอร์ปาก แก้ปัญหาปากไม่เท่ากัน)

(ฟิลเลอร์ปาก แก้ปัญหามุมปากตกให้ยกขึ้น)
นอกจากนี้รูปปากยังมีความสัมพันธ์กับช่วงเวลายิ้มและบุคลิกภาพ รูปปากแต่ละแบบจะทำให้การยิ้มของแต่ละคนเปลี่ยนแปลงไปได้ เช่น บางคนปากคว่ำมองดูแล้วไม่เป็นมิตร หน้าบึ้ง ดูมีความทุกข์หรือบางคนปากบางเกินไป เนื้อน้อย ปากไม่สมดุล ริมผีฝากบนเนื้อเยอะกว่าริมฝีปากล่าง หนาไม่เท่ากัน เวลายิ้มหรือพูดก็จะมองดูไม่สวยงามได้

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรมปาก ปรับปากบางให้หนาขึ้น เติมเต็ม ให้ปากดูเต็มอิ่ม ขอบชัด เป็นทรงกระจับ ไม่มีแผล และเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีด
สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อออกแบบ และปรับรูปทรงปากได้หลากหลาย ทั้งการเพิ่มความอวบอิ่ม ทำปากกระจับ ปากสายเกา ปากสายฝอ และการฉีดยกมุมปาก เพื่อสร้างความมั่นใจและช่วยเสริมบุคคลิกภาพสำหรับคนไข้ที่มีปัญหามุมปากตก ลักษณะรูปปากที่ไม่ได้สัดส่วน ริมฝีปากบางเกินไป ริมฝีปากไม่เท่ากัน สามารถใช้การฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ครับ
ลักษณะรูปปากที่ดี มีสัดส่วนอย่างไร ?

ลักษณะของริมฝีปากที่ดี คือ ริมฝีปากที่อวบอิ่ม มีสัดส่วนริมฝีปากบนกว้าง 1 ส่วน ริมฝีปากล่าง 1.6 ส่วน ริมฝีปากล่างต้องใหญ่กว่า เป็นรูปทรง มุมปากทั้งสองข้างตรงกัน และมีขนาดปากเหมาะสมกับขนาดของใบหน้า เช่น ใบหน้าใหญ่ ควรมีรูปปากกว้างรับกับใบหน้า ริมฝีปากบนและล่างต้องปิดสนิท มีความชุ่มชื้น เป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก แบบไหน เหมาะกับคนไทย ?


(ภาพเปรียบเทียบรูปปากทรงกระจับ (ซ้าย) กับรูปปากสายฝอ (ขวา))
ตัวอย่างเคสที่หมอเจอมากที่สุดคือคนไข้ส่วนใหญ่จะนำตัวอย่างรูปดาราฝรั่งมาเพื่อให้หมอฉีดปากตามรูปต้นแบบ คือจะมีความอวบอิ่มทั้งปากบนและปากล่าง มีความเซ็กซี่ แต่ถ้าตามความเหมาะสมแล้วทรงปากที่อวบอิ่มแบบฝรั่งนั้นอาจจะไม่เหมาะกับโครงหน้าของคนเอเชียครับ
เนื่องจากชาวตะวันตกจะมีโครงหน้าทั้งตา จมูก คาง คมชัดกว่า ทำให้เหมาะกับปากแบบหนา ส่วนใหญ่คนเอเชียจึงนิยมทำปากกระจับ จะให้รูปทรงที่เข้ากับโครงหน้าและดูเป็นธรรมชาติมากกว่าครับ สำหรับรูปทรงปากที่เหมาะสำหรับคนไทย หมอนำตัวอย่างมาให้ดูดังนี้ครับ

ทรงปากสายเกาหลี หรือที่เราเรียกว่าทรง Cherry Lips ลักษณะของปากทรงนี้จะเหมือนลูกเชอร์รี่ 2 ลูก มาประกบกันอยู่ตรงกลางริมฝีปาก โดยช่วงกลางของริมฝีปากบนและล่างจะดูอิ่มฟูกว่าด้านข้างครับ และมีการฉีดข้อดีของทรงปากที่ดูอวบอิ่ม เต็ม ฟู ยังทำให้หน้าดูเด็กลงอีกด้วยครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม :4 เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากเกาหลี อัพเดต 2022

ทรงปากสายฝอจะมีลักษณะริมฝีปากเต็มอิ่มโดยเฉพาะริมฝีปากล่าง และริมฝีปากบนจะมีความเจ่อเล็กน้อย ทรงปากสายฝอจะเน้นเซ็กซี่ อวบอิ่ม แต่จากประสบการณ์ของหมอ ทรงนี้จะไม่ค่อยเหมาะกับคนเอเชียครับเพราะโครงหน้าของฝรั่งนั้นจะชัดกว่าคนไทย ทั้งคิ้วเด่น ตาโต จมูกโด่ง คางยาว ทำให้ใบหน้ารับกับปากทรงนี้ได้ดีกว่า

ทรงปากกระจับ หรือปากปีกนก จะมีลักษณะริมฝีปากทั้งส่วนบนและส่วนล่างได้รูปสวยงามรับกับใบหน้า รูปทรงปากโค้งเรียวสวยคล้ายผลกระจับ จึงเป็นที่มาที่เรียกรูปปากทรงนี้ว่าปากกระจับครับ ปากกระจับเป็นทรงที่ทำให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น ไม่ทำให้ปากบางหรือแบนเรียบจนเกินไป
ตัวอย่างรูปทรงปากทั้ง 3 แบบที่หมอหยิบยกมาให้ดูกัน สำหรับคนไทยแล้วจะเหมาะกับทรงปากรูปกระจับมากที่สุดแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะฉีดปากทรงนี้ได้ครับ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวิเคราะห์ว่ารูปทรงปากเดิมเหมาะที่จะทำปากกระจับไหม เคยมีประวัติผ่าตัดปากมาก่อนหรือไม่ มีเนื้อปากบางเกินไปหรือปากหนาอยู่แล้ว แพทย์จะช่วยประเมินว่าคนไข้ควรใช้การผ่าตัดหรือฉีดฟิลเลอร์ปากก็เพียงพอครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดปากกระจับ ทรงปากยอดนิยม เพิ่มความอวบอิ่ม ดูเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม ?
ไม่อันตรายครับหากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ฟิลเลอร์แท้ เนื่องจากสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก Hyaluronic Acidมีความปลอดภัย สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ 100%
ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก แพทย์ที่มีประสบการณ์จะเลือกฟิลเลอร์ ชนิดที่เหมาะสมให้คนไข้แต่ละเคส ในปัจจุบันมีฟิลเลอร์อยู่ไม่กี่ยี่ห้อ ที่ได้รับการรับรองคุณภาพและมาตรฐานจาก อย. ดังนั้นก่อนเข้ารับการฉีด ควรสอบถามรายละเอียดในเรื่องของฟิลเลอร์ที่ใช้ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นของแท้ เพื่อความปลอดภัยครับ

การฉีดฟิลเลอร์ปาก มีอีกกรณีที่ควรระวังครับ สำหรับคนไข้ที่ผ่านการผ่าตัดริมฝีปากมาก่อน เส้นเลือดบางส่วนของคนไข้จะโดนรอยแผลที่เป็นพังผืดปิดกั้น แพทย์จะต้องเพิ่มความระมัดระวังในการฉีดมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันของฟิลเลอร์ครับ หรือหากฉีดแล้วมีปัญหา ก็สามารถใช้ยาฉีดสลายฟิลเลอร์แก้ไขได้ครับ
ถ้าหากฉีดฟิลเลอร์ปากปลอมจะเป็นอย่างไร ?
หากฉีดฟิลเลอร์ปากปลอม ไม่ใช่สาร HA ที่ปลอดภัย ไม่มีมาตรฐานและได้รับการรับรองจาก อย. แต่เป็นซิลิโคนเหลว, พาราฟิน หรือสารถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเลียนแบบฟิลเลอร์
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากปลอม ในระยะแรกจะยังไม่แสดงอาการ ปรับทรงปากสวย ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ร่างกายจะต่อต้านสารแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดอาการแพ้ และอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปากปลอมอื่น ๆ ตามมาได้ ดังนี้
- มีอาการแพ้ บวมแดง อักเสบ ติดเชื้อ
- คลำแล้ว ผิวไม่เรียบเนียน เป็นก้อนกดเจ็บ
- เมื่อเวลาผ่านไปจะจับแล้วเป็นก้อนแข็ง
- ไหลห้อยย้อยผิดตำแหน่ง เสียรูปทรง ปากผิดรูป
- เกิดการอุดตันภายในเส้นเลือด ทำให้เนื้อตาย ตาบอด
ในการแก้ไขนั้นมีความยุ่งยาก ต้องใช้วิธีผ่าตัดหรือขูดออกเท่านั้น ไม่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยตัวยาHyaluronidase ได้ เพราะไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้ ดังนั้นก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากจึงต้องตรวจสอบฟิลเลอร์ปาก โดยให้หมอแกะกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง และรู้วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์แท้-ฟิลเลอร์ปลอม ในเบื้องต้น ซึ่งหมอเคยเขียนอธิบายไว้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ครับ
วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้-ปลอม ดูอย่างไร ?
ฟิลเลอร์แท้จะสามารถสลายได้ 100% ภายในระยะเวลา 1-2 ปี และสามารถฉีดให้สลายด้วยเอ็นไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ได้ 100% เมื่อคนไข้ได้รับการฉีดสลายแล้ว ฟิลเลอร์จะเกิดการยุบตัวลง และละลายเป็นน้ำซึมไปตามผิวหนังได้เองทันที โดยไม่ตกค้างและไม่มีอันตราย สำหรับวิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้จะมีดังนี้ครับ
- มีฉลากภาษาไทยติดอยู่บนกล่อง พร้อมกับราคา
- ระบุมี lot number ติดอยู่
- ที่กล่องและซอง มีวันที่ผลิต วันหมดอายุชัดเจน
- สภาพกล่องต้องปิดผนึกเรียบร้อย
- มี Ref. เลขที่อ้างอิง
ตัวอย่างวิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้

(ฟิลเลอร์ Juvederm Volift)
ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra Plus

(ฟิลเลอร์ Juvederm Ultra Plus)
ฟิลเลอร์ Juvederm Volite

(ฟิลเลอร์ Juvederm Volite)
ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma

(ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma)

(ฟิลเลอร์ Restylane Vital light * lido)
ฟิลเลอร์ Restylane Volyme

(ฟิลเลอร์ Restylane Volyme)
ฟิลเลอร์ Restylane Refyne

(ฟิลเลอร์ Restylane Refyne)
อีกเรื่องที่สำคัญและหมอได้เน้นย้ำกับคนไข้เสมอว่าห้ามซื้อฟิลเลอร์เองจากอินเทอร์เน็ต แล้วนำมาให้แพทย์หรือบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ทำการฉีดให้เด็ดขาดครับ เพราะฟิลเลอร์ที่สามารถหาซื้อหาได้ง่ายจากอินเทอร์เน็ต ไม่มีการันตีความปลอดภัย เบื้องต้นให้สงสัยไว้ก่อนว่า อาจเป็นของปลอม
อ่านบทความเพิ่มเติม : วิธีเบื้องต้นในการสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ แต่ละยี่ห้อ ดูตรงไหน ต่างกันอย่างไร ?
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหาข้อมูลและเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน
- ศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้
- ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงในคลินิกนั้น ๆ
- ควรงด ยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว และการแว็ก ยาแอสไพริน ยา NSAIDs เช่น ibuprofen, diclofenac, ponstan เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนทำ
- งดวิตามิน St.John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนทำ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง หลัง ฉีดฟิลเลอร์ปาก
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
- หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่กินเป็นประจำ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ
- คนไข้ต้องตรวจสอบตัวเองว่าไม่มีประวัติแพ้สารไฮยาลูรอนิก ไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือมีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก เมื่อแพทย์ซักประวัติแล้ว คนไข้ไม่มีปัญหาอะไรสามารถเข้ารับการฉีดได้ทันที
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก

- ก่อนตัดสินใจ ฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรนัดเข้ามาปรึกษาปัญหาและให้หมอช่วยประเมินใบหน้า เพื่อเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมที่สุด
- เลือกชนิดของฟิลเลอร์และรุ่นที่เหมาะสม แพทย์จะช่วยประเมินใบหน้า และแนะนำฟิลเลอร์ว่าควรใช้รุ่นไหน ยี่ห้อไหน ให้เหมาะสมกับจุดที่ฉีด
- ทำความสะอาดใบหน้าในจุดที่ฉีด ถ้าแต่งหน้ามาก็จะมีการเช็ดเครื่องสำอางในบริเวณที่จะฉีด เพื่อความสะอาดและปลอดภัยครับ
- ก่อนเริ่มฉีดฟิลเลอร์ ตรวจสอบว่าเป็นของแท้ ควรให้หมอแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นของแท้จริง ๆ ครับ
- ฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ 5-10 ปี
- แปะยาชาและประคบน้ำแข็งก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพื่อช่วยลดความเจ็บจากเข็ม แต่ในเนื้อฟิลเลอร์บางรุ่นจะมียาชาผสมอยู่แล้วก็จะช่วยลดความเจ็บจากเข็มได้ด้วยเช่นกันครับ
- หมอแนะนำวิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ หลังจากฉีดฟิลเลอร์เรียบร้อยแล้วหมอจะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อรักษาให้ฟิลเลอร์เข้าที่และอยู่ได้นานขึ้นครับ
- หลังฉีดฟิลเลอร์มีการนัดติดตามผลหลังทำทุกเคส
ข้อห้ามและการดูแล หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

- ห้ามนวด คลึง และหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มร้อน ๆ เพราะอาจเกิดทำให้ปากเกิดอาการบวมหรืออักเสบได้ง่ายขึ้น
- งดการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังหนัก ๆ ที่จะทำให้ปากเสียรูปทรง
- ห้ามดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง
- ใน 12 ชั่วโมงแรก ควรงดการใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติกและงดสูบบุหรี่
- การดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูขึ้น และอยู่ได้นานขึ้น ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ต้องใช้กี่ CC ?

การฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องใช้ฟิลเลอร์เนื้ออ่อนที่ทนต่อการขยับได้ดี เพราะปากเป็นจุดที่มีการขยับบ่อยครับ หมอแนะนำเป็น 9 รุ่น หลัก ๆ ดังนี้
- Restylane Volyme ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีจุดเด่นที่ความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำ ดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นก้อน เหมาะฉีดมุมปาก อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Restylane Vital Light ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีจุดเด่นที่สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับบำรุงผิวชุ่มชื้น อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Restylane Refyne ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีจุดเด่นที่มีความยืดหยุ่น สามารถเติมเต็มให้ปากอวบอิ่ม เป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Kysse ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีจุดเด่นที่ความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจน ให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Volite ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีจุดเด่นที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวปากชุ่มชื้น อวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- Juvederm Volift ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีจุดเด่นที่มีความละเอียด และยืดหยุ่นสูง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Ultra Plus ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีจุดเด่นที่มีความฟูมาก เหมาะกับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm Voluma ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีจุดเด่นที่เนื้อแน่น ฟูปานกลาง อยู่ได้นานที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากอวบอิ่ม อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Belotero Volume ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีจุดเด่นที่เนื้อแน่น อยู่ทรง เพิ่ม Volume ให้ปากได้ดี เหมาะกับทรงปากสายฝอ อยู่ได้นาน 12-18 เดือน


โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ปากเติมเพียง 1 CC หลังฉีดก็เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนครับ นอกจากคนที่ปากบางมาก หรืออยากได้ทรงอวบอิ่มแบบฝรั่งก็จะเพิ่มจำนวน CC ตามความเหมาะสมครับ
จากยี่ห้อฟิลเลอร์ปากทั้ง 9 รุ่น ถ้าคนไข้อยากให้คงผลลัพธ์หลังฉีดให้อยู่ได้นาน ๆ จะมีฟิลเลอร์ปาก 2 รุ่นครับที่หมอแนะนำ คือ Restylane Volyme และ Juvederm Voluma ซึ่งอยู่ได้นานที่สุด คือ 18 เดือน แต่ทั้งนี้ต้องประเมินสภาพผิว ความต้องการ และคำนึงเรื่องของความสวยงาม ทรงปากที่สวยรับกับรูปหน้า รวมทั้งเทคนิคและความถนัดของแพทย์ในการเลือกใช้ยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่เหมาะสม
นอกจากนี้แล้ว การปฏิบัติตัวและการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานครับ อ่าน ข้อห้าม-ข้อปฎิบัติ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก และฟิลเลอร์จุดอื่น ๆ ได้ บริเวณไหนดูแลอย่างไร? เพิ่มเติมได้ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม
ฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ครับ มีตั้งแต่รุ่นที่อยู่ได้นาน 6 เดือน จนถึง 18 เดือน นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากด้วย เนื่องจากเป็นจุดที่ขยับบ่อย และโดนความร้อนได้ง่าย (เช่นการทานอาหารร้อน ๆ) จึงทำให้ฟิลเลอร์ มีโอกาสสลายเร็วกว่าจุดอื่นครับ
อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์แต่ละรุ่น อยู่ได้นานแค่ไหน

การฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อน แข็ง สังเกตเห็นได้ชัด และไม่ได้เกิดจากอาการบวมปกติหลังฉีดฟิลเลอร์นั้น เกิดได้จากสาเหตุ ดังนี้
- เกิดจากการที่แพทย์ขาดประสบการณ์ ทำให้เลือกชนิดของฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับเนื้อปาก หรือใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง เช่น บริเวณปากที่มีการขยับมากแล้วเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งก็จะทำให้ออกมาดูไม่เป็นธรรมชาติครับ
- การใช้ฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งอันตรายมากครับหากใช้ฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ใช่ HA เมื่อฉีดไปแล้วมีอาการบวมเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล ทำให้ปากไม่เป็นทรงและต้องผ่าตัดแก้ไขครับ
ฉีดฟิลเลอร์กินอะไรได้บ้าง ห้ามกินอะไร ?


- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ ยาดอง วอดก้า วิสกี้ ทั้งหมด
- งดอาหารปิ้งย่าง หรืออาหารที่ใบหน้าของเราต้องอยู่ใกล้ หรือสัมผัสกับความร้อน เช่น หมูกระทะ จิ้มจุ่ม ชาบู
- งดอาหารที่มีรสจัด โดยเฉพาะอาหารที่เผ็ดมาก ๆ เพราะจะทำให้หน้าแดง หรือเลือดสูบฉีดเยอะ
- งดอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยาย เช่น ปลาร้า มะม่วงดอง หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง
- งดอาหารที่มีรสหวานมาก ๆ เพราะจะกระตุ้นการอักเสบ
- งดอาหารที่ไม่สด อาหารดิบ อาหารที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุก เพราะมีพยาธิบางตัวที่สามารถไปเพิ่มการอักเสบหลังจากการฉีดฟิลเลอร์
อ่านบทความเพิ่มเติม : วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง ?
ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี ?

- คลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ เป็นคลินิกที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง
- แพทย์ที่มีประสบการณ์ อย่างน้อย 5-10 ปีเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัย
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่สามารถตรวจสอบได้ ก่อนฉีดหมอจะต้องเปิดขวดและผสมยาให้คนไข้ดูต่อหน้า
- ดูเคสรีวิวของแพทย์แต่ละท่าน เพื่อความสบาย สามารถขอดูรีวิวก่อนได้ครับ ทางคลินิกมีข้อมูลรีวิวที่เป็นคลิปวิดิโอก่อน-หลังทำ ก็จะช่วยให้สามารถเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจน
- ราคาสมเหตุสมผล โดยทั่วไปราคาจะไม่ต่างกันมากครับ ในแต่ละคลินิกที่ได้มาตรฐาน ถ้าราคาถูกมาก ๆ แบบครึ่งต่อครึ่ง ควรตรวจสอบดี ๆ ครับ ว่าใช้ฟิลเลอร์อะไร เป็นหมอกระเป๋าหรือไม่
หรือศึกษาเพิ่มเติมในบทความ ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี ? วิธีเลือกคลินิกต้องดูอย่างไร ? ให้ปลอดภัย ปรับรูปปากทรงสวย
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาเท่าไหร่ ?
ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคา จะขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์ครับ ซึ่งปากเป็นจุดที่ต้องใช้ประสบการณ์และเทคนิคเฉพาะ สำหรับที่ V Square Clinic ฟิลเลอร์ปากจะมีราคาดังนี้ครับ

แนะนำโปรโมชั่น
โปรโมชั่น ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อฟิลเลอร์ | ราคา | อยู่ได้นาน |
---|---|---|
Juvederm Volift (อเมริกา) | ราคา 14,000.- / 1 CC | 12 เดือน |
Juvederm Ultra Plus (อเมริกา) | ราคา 14,000.- / 1 CC | 12 เดือน |
Juvederm Voluma (อเมริกา) | ราคา 14,000.- / 1 CC | 18 เดือน |
Juvederm Volite (อเมริกา) | ราคา 14,000.- / 1 CC | 8-12 เดือน |
Restylane Vital light (สวีเดน) | ราคา 14,000.- / 1 CC | 6-12 เดือน |
Restylane Volyme (สวีเดน) | ราคา 14,000.- / 1 CC | 18 เดือน |
Restylane Refyne (สวีเดน) | ราคา 14,000.- / 1 CC | 12 เดือน |
Restylane Kysse (สวีเดน) | ราคา 16,000.- / 1 CC | 12 เดือน |
Belotero Volume (สวิตเซอร์แลนด์) | ราคา 14,000.- / 1 CC | 12-18 เดือน |
ความโดดเด่นบนใบหน้า ไม่ได้สำคัญเพียงแค่ คิ้ว จมูก ตา เท่านั้น แต่ “ปาก” หรือ รูปปาก เป็นอีกอวัยวะหนึ่งที่ช่วยให้ใบหน้าดูดี มีบุคลิกภาพที่ดีมากขึ้น คนไข้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรเลือกศึกษาข้อมูล ดูรีวิวและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจครับ
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปาก
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ V Square Cinic หมอจะประเมิน ออกแบบทรงปาก และเลือกฟิลเลอร์ชนิดที่เหมาะกับคนไข้เป็นรายบุคคลครับ
(รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทรงสวย อวบอิ่ม เป็นธรรมชาติ ที่ V Square Clinic)


(รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 CC)
ก่อนทำ ในเคสนี้คนไข้มีปัญหา ริมฝีปากบาง ปากแห้งเป็นร่อง
หลังทำทันที ฟิลเลอร์ปากจะสังเกตว่าปากได้รูปมากขึ้น ดูอวบอิ่ม มีความชุ่มชื้นทันที


(รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 CC ปรับปากบางให้หนาขึ้น อวบอิ่มเป็นทรงสวย)
ก่อนทำ ในเคสนี้คนไข้มีปัญหาปากบาง อยากปรับทรงปากให้เป็นกระจับ และอวบอิ่มขึ้น
หลังทำทันที ปากอวบอิ่ม ริมฝีปากด้านบนจะมีส่วนเว้าโค้งคมชัดเป็นกระจับ


(ฟิลเลอร์ปาก 1 cc ปากทรงสวย เป็นธรรมชาติ)
ก่อนทำ ในเคสนี้มีปัญหาปากบาง เล็ก มุมปากตก ทำให้หน้าดูบึ้งตึง ไม่สดใส
หลังทำทันที ปากมีสัดส่วนที่สมมาตร เป็นทรงสวยมากขึ้น มุมปากยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
รีวิวเพิ่มเติม : [ รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปาก ] ให้รูปปากทรงสวยอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ
ถาม-ตอบ ฉีดฟิลเลอร์ปาก
ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม ?
เนื่องจากปากเป็นจุดที่เนื้ออ่อนและบอบบาง ระหว่างฉีดก็อาจจะเจ็บเล็กน้อยครับ บางรายอาจมีอาการเจ็บ คัน แล้วแต่บุคคล ก่อนฉีดแพทย์ก็จะมีการแปะยาชาเพื่อลดการเจ็บปวดครับ ส่วนจำนวนเข็มที่ฉีดขึ้นอยู่กับความหนาของรูปปากที่ต้องการ หลังจากฉีดเสร็จ สามารถกลับบ้านได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
ฉีดฟิลเลอร์แล้วสามารถแก้ไขได้ไหม ?
แก้ไขได้ครับ โดยปกติถ้าฉีดปากด้วยฟิลเลอร์แท้ คุณสมบัติของสารฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป จะใช้เวลาในการสลายตัวเองจนหมดไปตามธรรมชาติครับ ระยะเวลาก็แล้วแต่รุ่นของฟิลเลอร์ แต่ถ้าใครฉีดไปแล้วไม่ชอบทรง อยากแก้ทรง สามารถทำได้โดย ฉีดยาสลายฟิลเลอร์ Hyaluronidase เพื่อให้สารฟิลเลอร์ค่อย ๆ สลายตัวลงจนหมดครับ
สรุป
สำหรับคนที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจ ก่อนฉีดควรรู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปากก่อนจะดีที่สุดครับ ทั้งในเรื่องข้อควรระวัง การเตรียวตัวก่อนฉีดและการดูแลตัวเองหลังฉีด ที่สำคัญคือควรรู้จักวิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้ และเลือกคลินิกที่เราไว้วางใจได้ เพื่อผลลัพธ์ออกมาดี มีความปลอดภัย ไม่เสี่ยงอันตรายครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 23 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ