sculptra

Sculptra

Sculptra เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยเรื่องงานผิวโดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการตามเทรนด์ของคนในปัจจุบัน ที่ต้องการมีผิวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ รักษาผิวที่อ่อนเยาว์ และชะลอการเกิดริ้วรอย

(Sculptra คืออะไร ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง เหมาะกับใครฉีดตำแหน่งไหนใช้กี่ CC ?)

ในบทความนี้หมอจะมาสรุปข้อควรรู้ก่อนฉีด ว่า Sculptra คืออะไร ? ตัวยาทำงานอย่างไร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ฉีดจุดไหนได้บ้าง เห็นผลมากแค่ไหน และเมื่อเทียบกับหัตถการงานผิวอื่น ๆ มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

สารบัญ Sculptra

Sculptra คืออะไร ?

Sculptra คือ สารละลายคล้ายเจล PLLA (poly-L-lactic acid) ที่ผลิตจากสารธรรมชาติ โดยสังเคราะห์มาจากพืช ไม่ตกค้างในร่างกาย เมื่อถูกดูดซึมจะออกฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen Biostimulator)

sculptra

โดย Sculptra จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน Type 1 ขึ้นตามกระบวนการธรรมชาติได้ถึง 66.5% ทำให้ผิวแน่นกระชับขึ้น อิ่มฟู ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว และยกกระชับบริเวณผิวหย่อนคล้อย รวมถึงจะช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้นได้ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี

คอลลาเจน สำคัญอย่างไร ?

Collagen เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบของผิวหนังถึง 75% คอลลาเจนในผิวหนัง มีหน้าที่ในการยกพยุงโครงสร้างผิว ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น และมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมผิวหนังหากเกิดการบาดเจ็บ แต่เมื่ออายุมากขึ้น (อายุ 25 ปีขึ้นไป) คอลลาเจนในผิวหนังจะลดลงประมาณ 1.5% ทุกปี ส่งผลต่อการแก่ของผิว

ดังนั้นในวงการความงามจึงมีผลิตภัณฑ์ และหัตถการมากมายที่ถูกคิดค้นและผลิตมาเพื่อเสริมสร้างคอลลาเจน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทดแทนคอลลาเจน หรือช่วยพยุงชั้นผิวแทน เช่น ฟิลเลอร์, เมโสหน้าใส, Rejuran หรือครีมต่าง ๆ ที่มีส่วนประกอบของไฮยาลูรอน เพราะคอลลาเจนถือเป็นคีย์หลักที่สำคัญในการชะลอความแก่ของผิว

อ่านบทความเพิ่มเติม : 10 วิธี แก้หน้าเหี่ยว ย่น วิธีไหนเห็นผลเร็ว ช่วยลดริ้วรอยได้ชัดเจน

กระบวนการทำงานของ Sculptra

ตัวยา Sculptra จะถูกผสมด้วย Sterile Water และฉีดเข้าไปในผิวชั้นใน (Subcutis) PLLA จะเข้าไปออกฤทธิ์ในเซลล์ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำโดยดึงเซลล์ Macrophages มาล้อมรอบอนุภาคของ Sculptra และทำให้ Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน เข้ามารวมตัวกันมากขึ้น กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนที่ออกมาจากเซลล์ร่างกายของเราเอง

เมื่อเวลาผ่านไป Sculptra จะค่อย ๆ สลายไป แต่การสะสมของคอลลาเจนยังคงอยู่ จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ยาวนาน ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างผิวภายใน ลดริ้วรอย ช่วยฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อย เพิ่ม Volume ให้ผิว และทำให้ผิวกลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง

Vsquare_tips

ข้อควรรู้ : sculptra เป็นสารตัวแรก ที่ได้รับการอนุมัติในการใช้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จาก USFDA ตั้งแต่ปี 1999 และใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก จึงมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง

Sculptra ของแท้ดูอย่างไร ?

เพื่อให้การฉีด Sculptra ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ก่อนฉีดคนไข้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า Sculptra ที่นำมาฉีดเป็นของแท้ โดยขอตรวจสอบกับทางคลินิกที่ฉีดครับ

Sculptra ปริมาณหนึ่งขวดสามารถฉีดได้ถึง 10 ซีซี สามารถกระจายไปตามจุดสำคัญที่ใช้ในการยกกระชับใบหน้าได้อย่างทั่วถึง

เปรียบเทียบ Sculptra กับวิธีอื่น ๆ

ในหมวดหัตถการที่ช่วยเรื่องงานผิวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีจุดเด่นและข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไปเมื่อเทียบ Sculptra ที่มีส่วนประกอบสำคัญเป็น PLLA หมอจะสรุปประโยชน์ของแต่ละหัตถการมาให้ดังนี้

  • ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว

เป็นการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic acid (HA) ที่มีขนาดโมเลกุลเล็ก เนื้อบาง เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณที่มีปัญหา ช่วยเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ให้ผิวได้ยาวนาน ทำให้ผิวเรียบเนียน มีน้ำมีนวล แก้ปัญหาผิวแห้ง หน้าอิ่มฟู ฉ่ำวาว และเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที เช่น ฟิลเลอร์ Belotero Revive, Juvederm Volite, Restylane Vital Light

*สาร PLLA จะรักษาปริมาตรได้ดีกว่า Hyaluronic Acid และสลายช้ากว่า ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เติมความชุ่มชื้น บำรุงผิวเปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี

  • เมโสหน้าใส

เป็นการฉีดวิตามินผิว โดยใช้สารสกัดที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิวโดยตรง จะเข้าไปบำรุง ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพและแก้ปัญหาต่าง ๆ บนผิวหน้า ทำให้ผิวชุ่มชื้น ขาวกระจ่างใสมากขึ้น ทั้งนี้เมโสหน้าใสก็มีหลายสูตรครับ ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมเช่น มาเด้คอลลาเจน ที่มีจุดเด่นเรื่องช่วยลดการอักเสบ ช่วยขับสารพิษที่สะสมและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดเมโสหน้าใส คืออะไร ? เลือกเมโสหน้าใสสูตรไหน หน้าใสเร็วกว่าการทาครีม ?

  • Rejuran

จริง ๆ แล้วรีจูรันจัดอยู่ในหมวดการฉีดเมโสหน้าใสครับ มีส่วนประกอบหลักจาก Polynucleotide (PN) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น คือสามารถเชื่อมต่อหลอดเลือดเล็ก ๆ ในเซลล์ (microvessel) จึงสามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมหรือเสียหายให้ดีขึ้น ต้านการอักเสบ กระตุ้นการหลั่ง Growth Factor และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง เพิ่มความชุ่มชื้น และสามารถลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ รวมถึงปรับสภาพให้ผิวฉ่ำวาว

อ่านบทความเพิ่มเติม : Rejuran คืออะไร ช่วยบำรุงผิวด้านใดบ้าง เหมาะกับใคร ฉีดกี่ครั้งเห็นผล ?

  • เครื่องมือในกลุ่มเครื่องยกกระชับ

เครื่องยกกระชับ เช่น Hifu, Ulthera, Thermage จะเป็นการใช้คลื่นเสียงหรือคลื่นวิทยุ ยิงเข้าไปในชั้นผิวเพื่อให้เกิดความร้อน เมื่อเนื้อเยื่อโดนความร้อนก็จะเกิดการหดตัวแน่นขึ้น กระชับขึ้น รวมถึงสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้โดยไม่ต้องฉีด หลังทำไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น ทำได้ทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัวครับ ส่วนใหญ่ที่นิยมก็จะเป็นบริเวณใบหน้า ลดแก้ม ลดเหนียง เก็บกรอบหน้า

ส่วนประกอบภายในเซลล์

หัตถการทั้ง 4 ตัวนี้ จะช่วยเรื่องผิวในส่วนที่เป็นบริเวณเซลล์ผิวหนังและแมทริกซ์ที่อยู่นอกเซลล์ (extracellular matrix) แตกต่างจาก sculptra ที่ PLLA จะเข้าไปออกฤทธิ์ในเซลล์บริเวณ Fibroblast โดยตรง ซึ่งเป็นคนละส่วนกันครับ sculptra จะช่วยกระตุ้นให้เซลล์ร่างกายผลิตคอลลาเจนออกมามากขึ้น หรือหากใครอยากทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ก็สามารถปรึกษาหมอเพิ่มเติมได้ครับ เพื่อลำดับหัตถการในการทำให้เหมาะสม และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

  • Exosome

เป็นสารชีวโมเลกุลกว่า 1,000 ชนิด เช่น Growth Factors, Peptides, Amino Acids, Coenzymes, Hyaluronic Acids และโปรตีนต่าง ๆ ที่ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิว ประโยชน์ของ exosome เช่น ช่วยเพิ่ม collagen type I 59%, เพิ่ม Hyaluronic acid บนผิว, เพิ่มไซโตไคน์ (Cytokine) และ Growth Factor สามารถลดริ้วรอย ทำให้ผิวตึงกระชับ ยับยั้งการเกิดเม็ดสี ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ลดรอยแผลเป็น รอยสิว กระชับรูขุมขน ผิวจะชุ่มชื้น อิ่มฟู ฉ่ำเด้ง ดูสุขภาพดี

อ่านบทความเพิ่มเติม : exosome คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ?

  • Gouri

เป็นสาร Liquid PCL (Polycaprolactone) มีลักษณะเป็นของเหลวที่สามารถฉีดเข้าสู่ชั้นผิวได้โดยตรง จะออกฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวดูเต่งตึงกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลง กระจ่างใสและอิ่มฟู แต่ต้องใช้ระยะเวลาให้ตัวยาออกฤทธิ์และควรฉีดต่อเนื่อง อย่างน้อย 3 ครั้ง ในช่วงแรก จุดที่นิยมจะเป็นบริเวณใบหน้า ลำคอ หลังมือ

อ่านบทความเพิ่มเติม : Gouri คืออะไร ? ดีอย่างไร ? เหมาะกับใคร ? รวมเรื่องที่ควรรู้ก่อนฉีด

Vsquare_tips

ข้อควรรู้ : หากคนไข้ต้องการทำมากกว่า 1 หัตถการ ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ก่อน และต้องแจ้งประวัติการทำหัตถการก่อนหน้าทุกครั้งครับ เพราะไม่ใช่ทุกหัตถการที่สามารถทำร่วมกันได้ สารที่อยู่ในยาแต่ละตัวอาจจะทำปฏิกิริยากัน ทำให้ออกฤทธิ์น้อยลง ออกฤทธิ์รุนแรงเกินไป หรือถ้าเกิดอาการแพ้ก็จะไม่ทราบว่ามาจากยาตัวไหนครับ

Sculptra ต่างจากสารกระตุ้นคอลลาเจนตัวอื่นอย่างไร ?

จากหัวข้อก่อนหน้านี้ Sculptra ต่างจากสารกระตุ้นคอลลาเจนอื่น ๆ ในด้านสารประกอบหลักในตัวยา กลไกในการกระตุ้นคอลลาเจน และระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า

และจากงานวิจัยพบว่า Sculptra สามารถสร้างคอลลาเจนในผิวเพิ่มขึ้นได้ถึง 66.5% ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีสารตัวไหนที่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type 1 ในผิวได้เยอะเท่านี้ครับ และยังเป็น Biostimulator ตัวแรกและตัวเดียวที่ได้รับการรับรองจาก U.S. FDA

Sculptra กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร ?

Sculptra กับ ฟิลเลอร์ ต่างกันอย่างไร

Sculptra กับ ฟิลเลอร์ แตกต่างกันอย่างไร หมอขออธิบายดังนี้ครับ

ฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid เติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกที่มีการยุบตัว ปรับโครงสร้างใบหน้า หลังทำเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที โดยฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ 6-24 เดือน

ส่วน Sculptra เป็นการฉีดสาร PLLA ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ตามธรรมชาติ ช่วยให้ผิวมีความกระชับ อิ่มฟู โครงสร้างผิวแข็งแรงยิ่งขึ้น จะได้ไม่เน้นการเติมปริมาตรเพียงอย่างเดียว หลังฉีดใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ในการเห็นผล และคงผลลัพธ์ได้นาน 2 ปี

โดยจะเห็นได้ว่าหลักการทำงานของทั้งสองไม่เหมือนกัน ฟิลเลอร์คือการ “เติมเต็ม” ส่วน Sculptra คือการ “กระตุ้น”

ถ้าต้องการเติมเต็ม ปรับรูปหน้า เพิ่ม Volume ให้ผิว การฉีดฟิลเลอร์ถือว่าตอบโจทย์ แต่หากต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน กระตุ้นคอลลาเจน Sculptra ก็ถือเป็นตัวช่วยที่ดีครับ

Sculptra เหมาะกับใคร ?

การฉีด Sculptra เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากเซลล์ ที่เป็นส่วนสำคัญของการแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ และต้องการเสริมสร้างคุณภาพผิวให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ชะลอการเกิดริ้วรอยที่เกิดจากการแก่ของผิว และรักษาใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ไว้ได้นานขึ้น

  • ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป (คอลลาเจนจะลดลงทุกปี)
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
  • ผู้ที่ผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวแห้งกร้าน
  • ผู้ที่มีริ้วรอยเป็นเส้นเล็ก ๆ (Static line) เกิดจากผิวแห้งและขาดคอลลาเจน
  • ผู้ที่ต้องการรักษาผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์

Sculptra ช่วยอะไรได้บ้าง ?

Sculptra ช่วยอะไรได้บ้าง _

ประโยชน์หลัก ๆ ของ sculptra คือ การเพิ่มเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ฟื้นฟูโครงสร้างผิวที่เริ่มเสื่อมสลายจากการที่อายุมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผิวแน่น อิ่มฟู ยกกระชับ มีความแข็งแรง ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าและเพิ่มความกระจ่างใส

Sculptra ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?

Sculptra ฉีดได้หลายตำแหน่งครับ โดยจะฉีดเน้นในจุดที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น หน้าแก้ม (Midface) ขมับ และกรอบหน้า เพื่อเติมเต็มใบหน้าให้ยกกระชับ อิ่มฟูและดูอ่อนเยาว์

  • ขมับ เป็นจุดที่หากยุบตัวลง จะทำให้ใบหน้าดูมีอายุอย่างเห็นได้ชัด การฉีด Sculptra จุดนี้จะช่วยฟื้นฟูผิวให้อิ่มฟู เต่งตึง แก้ปัญหาขมับตอบ
  • หน้าแก้ม (Midface) ช่วยเพิ่มความเต่งตึงและยกกระชับผิวแก้ม แก้ปัญหาหน้าตอบ และลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
  • กรอบหน้า ยกกระชับผิวหย่อนคล้อยบริเวณแนวกรอบหน้า

โดยการฉีด Sculptra จะใช้เทคนิคการฉีดแบบ cross-hatch ลงใต้ชั้นผิว 1.5-2 เซนติเมตร ด้วยเข็มทู่ขนาด 22-25 G ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ดีที่สุด

Sculptra ฉีดกี่ CC ?

การคำนวณปริมาณ CC ที่ใช้ หมอจะประเมินปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ก่อนครับว่าควรฉีดกี่ CC ในคนที่มีปัญหาผิวไม่มาก แนะนำให้ฉีดครั้งละ 1 ขวดครับ (1 ขวด มี 10 CC) แต่หากมีปัญหาผิวในระดับมาก หรือในผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป แนะนำให้ฉีดครั้งละ 2 ขวด

ทั้งนี้ปริมาณ Sculptra ที่ใช้ในแต่ละตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และระดับปัญหาของแต่ละคน หมอจะประเมินเป็นรายเคสไปครับ

Sculptra ราคาเท่าไหร่ ?

Sculptra ราคาพิเศษที่ V Square Clinic พร้อมโปรโมชันของแถมที่เลือกรับได้

Landingpage_SCULPTRA_2024_TH

การเตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra

  • ควรงดยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดไหลเวียนและหยุดไหลยาก เช่น ยาในกลุ่มแอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา ฯลฯ (อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำที่อาจเกิดขึ้น)
  • 1-3 วัน ก่อนการฉีด ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • คนไข้ต้องไม่อยู่ในภาวะการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • หากมีโรคประจำตัวหรือมียาที่รับประทานประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด Sculptra

ขั้นตอนการฉีด Sculptra

  • แพทย์จะตรวจประเมินสภาพผิว ว่าเหมาะกับการทำ sculptra หรือไม่
  • แจ้งโรคประจำตัว อาการแพ้
  • แจ้งยา หรือวิตามินที่ทานประจำ
  • แจ้งประวัติการทำหัตถการอื่น ๆ
  • ก่อนฉีดจะทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะทำหัตถการ
  • แปะยาชาบริเวณที่จะทำประมาณ 30-40 นาที
  • ฉีด Sculptra ด้วยเข็มขนาดเล็ก (ระหว่างฉีดคนไข้อาจรู้สึกเล็กน้อยตอนดันยา แต่จะไม่เจ็บครับ)

หลังฉีด Sculptra ดูแลตัวอย่างไร ?

หลังฉีด sculptra สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติครับ แต่หมอจะมีข้อแนะนำในการดูแลตัวเอง เพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหนัก ๆ เช่น ออกกำลังกาย 2-3 วัน
  • อาจมีรอยช้ำหรือบวมจากการฉีดจะค่อย ๆ หายไปเอง ทายาได้
  • งดทำเลเซอร์ที่มีความร้อนสูง
  • งดแต่งหน้า 24 ชั่วโมง
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
  • งดซาวน่า 1-2 สัปดาห์
  • งดออกกำลังกายหักโหม 2-3 วัน

การนวดหน้าหลังทำ sculptra เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เต็มประสิทธิภาพ

(วิธีนวด Triple 5 (5 วัน 5 ครั้ง 5 นาที))

  • Step ที่ 1 ใช้นิ้วโป้งของเรานวดขมับทั้ง 2 ข้างแล้วใช้กำปั้นค่อย ๆ นวดเลื่อนจากหน้าผากไปขมับ
  • Step ที่ 2 ยกนิ้วโป้งขึ้น แนบไปตรงหน้าแก้ม ทั้งสองข้าง แล้วเลื่อนจากหน้าแก้มไปข้าง ๆ แก้ม
  • Stepที่ 3 ใช้อุ้งมือกดช่วงข้าง ๆ แก้ม แล้วค่อย ๆ นวดไล่จากล่างขึ้นบนไปถึงตรงโหนกแก้ม
  • Step ที่ 4 ท่าสุดท้าย ทำมือคล้าย ๆกับท่าที่สอง ยกนิ้วโป้งขึ้น เริ่มจากที่คางไล่ไปตามแนวกรามกรอบหน้าด้านข้าง

ฉีด Sculptra อันตรายไหม ?

อย่างที่หมอบอกไปครับ Sculptra เป็น PLLA ที่มีสารตั้งต้นผลิตมาจากพืช จึงไม่จำเป็นต้องทดสอบการแพ้ก่อนทำการรักษา ไม่จำเป็นต้องให้ยาเพื่อเตรียมพร้อมก่อนและหลังทำการรักษา และเมื่อเวลาผ่านไปสารออกฤทธิ์จะถูกย่อยสลายและกำจัดออกจากร่างกายอย่างสมบูรณ์ไม่มีเหลือตกค้างในร่างกาย ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) รวมถึง อย.ไทย

ข้อควรระวังการฉีด Sculptra

  • ไม่เหมาะฉีดในผู้ที่มีอาการแพ้ส่วนผสมของ sculptra (PLLA, Carboxymethylcellulose (CMC), Non-pyrogenic mannitol)
  • ไม่เหมาะฉีดในผู้ที่มีประวัติเคยแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)
  • ไม่เหมาะฉีดในผู้ที่มีโรคประจำตัวภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune, SLE) หรือใช้ยาในยากดภูมิคุ้มกัน
  • ไม่เหมาะฉีดในผู้ที่มีประวัติการเกิดคีลอยด์หรือมีแผลเป็นนูน
  • ไม่เหมาะฉีดในผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเกิดการอักเสบบริเวณผิวในตำแหน่งที่ทำ
  • ไม่เหมาะฉีดในผู้ที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีด Sculptra

หลังฉีด sculptra จะมีรอยเข็ม รอยแดง หรืออาการบวมได้เป็นปกติครับ ในช่วง 1-2 วันก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น นอกจากนี้อาจพบก้อนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง ที่เกิดจากการฉีดตัวยา แนะนำให้นวดหน้าตามคำแนะนำของแพทย์สม่ำเสมอ ทั้งนี้ผลข้างเคียงในแต่ละคนจะแตกต่างกันไปครับ

ฉีด Sculptra กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดตัวยา Sculptra ประมาณ 5 วัน PLLA จะเริ่มเข้าไปออกฤทธิ์ มีกระบวนการผลิตคอลลาเจน โดยต้องรอประมาณ 2-3 สัปดาห์ จึงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือนครับ

ฉีด Sculptra ต้องฉีดกี่ครั้ง ?

การฉีด sculptra ในช่วงแรก หมอแนะนำให้ฉีด 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะในทุก ๆ 4-6 สัปดาห์ เพื่อรักษาอัตราการสร้างคอลลาเจน และทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

ฉีด Sculptra อยู่ได้นานไหม ?

สาร PLLA ที่เข้าไปออกฤทธิ์ในเซลล์ จะให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนานมากครับ โดยสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและอัตราการสร้างคอลลาเจน รวมถึงการดูแลตัวเองของแต่ละคนร่วมด้วย

ฉีด Sculptra ที่ไหนดี ?

ฉีด Sculptra ที่ V Square Clinic
  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก และตั้งอยู่ในทำเลที่ปลอดภัย ห้องทำหัตถการกว้างขวาง สว่าง สะอาด
  • สามารถนำชื่อ-นามสกุล ของแพทย์ที่จะเป็นผู้ทำหัตถการไปตรวจสอบกับแพทยสภาได้ว่าเป็นแพทย์จริง และมีการรับรองว่าผ่านการเทรนนิ่งการฉีด sculptra
  • มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ
  • ใช้ sculptra ของแท้ ตรวจสอบได้กับบริษัทนำเข้า ก่อนฉีดหมอแกะกล่องใหม่ ผสมยาให้ดูต่อหน้า
  • มีการแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีด sculptra และการติดตามผล
  • มีช่องทางการติดต่อคลินิกที่สะดวก เช่น เบอร์โทร, Line@, Messenger หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย สามารถติดต่อแพทย์ได้

สรุป

การฉีด sculptra ถือเป็นอีกทางเลือกเพื่องานผิวสวยที่น่าสนใจครับ เป็น PLLA ที่สารตั้งต้นสกัดมาจากพืช ปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้ยังอยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปี ถือว่ามีความคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย และเป็นการแก้ไขปัญหาผิวด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่มาจากเซลล์ของเราโดยตรง ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติด้วยครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 28 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า