
ทำความรู้จัก Morpheus8 กับ Ulthera
Morpheus8 กับ Ulthera ต่างกันยังไง ? ปัจจุบันหัตถการความงามทั้งงานผิวและการยกกระชับใบหน้าได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ประกอบกับมีนวัตกรรมความงานทางการแพทย์ใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ โดยเครื่องที่ได้รับการพูดถึงบ่อย ๆ คือ Morpheus8 กับ Ulthera
Morpheus8 กับ Ulthera มีจุดเด่นและกลไกการทำงานที่แตกต่างกันอย่างไร ? เหมาะกับใคร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? การทำความเข้าใจถึงความแตกต่างของทั้งสองวิธีจะช่วยให้คนไข้สามารถตัดสินใจเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพผิวของตัวเองได้ครับ
สารบัญ Morpheus8 กับ Ulthera ต่างกันยังไง ?
Morpheus8 กับ Ulthera ต่างกันยังไง ?
Morpheus8 และ Ulthera เป็นเทคโนโลยีความงามแบบ (Non-invasive) ไม่ต้องผ่าตัด และมีเป้าหมายเพื่อกระชับผิว พร้อมปรับปรุงโครงสร้างผิวหน้า แต่มีกลไกการทำงานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ
- Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่าง Microneedling และ Radiofrequency (RF) Energy โดยใช้เข็มขนาดเล็กส่งพลังงานความร้อนเข้าไปยังชั้นผิวหนังส่วนลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่

- Ulthera ใช้เทคโนโลยี High-Intensity Focused Ultrasound (HIFU) ส่งพลังงานอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูงไปยังชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) เพื่อกระชับและยกกระชับใบหน้า
ปัจจุบันเครื่อง Ulthera มีให้เลือกใช้ 2 รุ่นคือ Ulthera SPT และ Ulthera Prime ทั้งสองเครื่องมีความปลอดภัยสูง เพียงแต่ Ulthera Prime เป็นรุ่นที่อัปเกรดขึ้นมาช่วยให้เจ็บสั่นลง
Morpheus8 เน้นงานผิวอิ่มฟู รูขุมขนกระชับ
Morpheus8 มีจุดเด่นในการปรับปรุงพื้นผิวผิวหน้า (Skin Texture) และกระชับรูขุมขน โดยเทคโนโลยี Microneedling RF จะส่งพลังงานความร้อนลงไปในชั้นผิวหนัง (Dermis) และชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous) ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ การรักษาแบบ Fractional จะช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
การทำงานของ Morpheus8 จะช่วยให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น และมีความอิ่มฟูมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถปรับปรุงปัญหารอยแผลเป็นจากสิว รอยย่น และจุดด่างดำได้อีกด้วย
Ulthera เน้นผิวแน่น กระชับ เฟิร์ม
Ulthera จะมุ่งเน้นไปที่การกระชับและยกกระชับใบหน้าแบบลึก โดยใช้เทคโนโลยี HIFU ส่งพลังงานอัลตราซาวด์ไปยังชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่แพทย์จะดึงกระชับในการทำศัลยกรรมยกหน้า (Facelift) พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และทำให้เนื้อเยื่อกระชับตัว
ผลลัพธ์ของการทำ Ulthera จะสามารถเห็นได้ชัดในด้านการยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอยลึก กระชับคอและคาง และปรับปรุงเส้นกรอบหน้าให้คมชัดขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย และต้องการผลลัพธ์ในการกระชับที่ชัดเจน
ตัวอย่างรีวิวทำ Ulthera ยกกระชับผิวหน้า


ข้อดี-ข้อเสีย Morpheus8
ข้อดีของ Morpheus8
- สามารถปรับปรุงพื้นผิวผิวหน้าและกระชับรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สามารถปรับระดับความลึกของการรักษาได้ตามความต้องการ
- ช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวและจุดด่างดำ
- สามารถทำได้หลายบริเวณของร่างกาย
ข้อเสียของ Morpheus8
- อาจมีอาการแดงและบวมหลังทำ 3-5 วัน
- ต้องใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์นานกว่า (1-2 เดือน)
- อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ราคาค่อนข้างสูงกว่าเครื่องยกกระชับอื่น ๆ
- ต้องดูแลผิวหลังทำอย่างระมัดระวัง
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ใช้เข็มขนาดเล็กเจาะเข้าสู่ผิว
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวบางประเภท เช่น มีปัญหาผิวบางประเภท เช่น โรคผิวหนังอักเสบ หรือผู้ที่มีแผลเปิด
ข้อดี-ข้อเสีย Ulthera
ข้อดีของ Ulthera
- สามารถกระชับและยกกระชับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- ผลลัพธ์ค่อย ๆ ดีขึ้นเป็นธรรมชาติ
- ตัวเครื่องมีความปลอดภัยสูงได้รับการรับรองจาก FDA สำหรับการยกกระชับใบหน้า
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่คล้ายการทำศัลยกรรม
- ทำเพียงครั้งเดียวผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า 1 ปี
ข้อเสียของ Ulthera
- อาจรู้เจ็บระหว่างทำการรักษา (ขั้นตอนการทำมีการแปะยาชาช่วย)
- หลังจากทำ Ulthera คนไข้บางรายอาจมีรอยแดงเกิดขึ้น สามารถหายได้เอง ภายใน 1 ชั่วโมง
Morpheus8 กับ Ulthera แบบไหนเหมาะกับใคร ?
การเลือกระหว่าง Morpheus8 และ Ulthera ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวหน้าและเป้าหมายของแต่ละบุคคลครับ หมอสรุปเป็นข้อ ๆ ดังนี้
Morpheus8 เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง
- ผิวหน้าขรุขระ มีรอยแผลเป็นจากสิว
- ต้องการปรับปรุงพื้นผิวผิวหน้าให้เรียบเนียน
- มีปัญหาจุดด่างดำ รอยสีผิวไม่สม่ำเสมอ
- ผู้ที่มีผิวคล้ำและต้องการการรักษาที่ปลอดภัย
- อายุ 25-45 ปี ที่มีปัญหาผิวหน้าเป็นหลัก
Ulthera เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย อยากให้ผิวแน่น เฟิร์ม
- ต้องการกระชับและยกกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์
- ผู้ที่มีริ้วรอยลึกบริเวณใบหน้าและคอ
- ต้องการมีกรอบหน้าที่คมชัด
- อายุ 25 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเริ่มชัดเจน
- ผู้กลัวการผ่าตัดศัลยกรรม(ให้ผลลัพธ์คล้ายการผ่าตัดดึงหน้า)
เปรียบเทียบ Morpheus8 กับ Ulthera เลือกแบบไหนดี ?

อย่างที่อธิบายไว้ข้างต้นว่า Morpheus8 กับ Ulthera มีเป้าหมายและกระบวนการทำงานที่ต่างกัน ซึ่งมีรายละเอียดแยกย่อยดังนี้
เทคโนโลยีหลัก & กลไกการทำงานของ Morpheus8 กับ Ulthera
- Morpheus8 : เทคโนโลยี Fractional Radiofrequency Microneedling ใช้เข็มขนาดเล็กจำนวน 24 เข็ม ส่งพลังงาน RF ลงไปในชั้นผิวหนังที่ความลึก 1-4 มิลลิเมตร การรักษาแบบ Fractional ทำให้เนื้อเยื่อรอบ ๆ ไม่ได้รับความเสียหาย ช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
- Ulthera : เทคโนโลยี High-Intensity Focused Ultrasound (HIFU) ใช้พลังงานอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นสูง ส่งไปยังจุดเป้าหมายในชั้น SMAS ที่ความลึก 1.5, 3.0, และ 4.5 มิลลิเมตร โดยไม่กระทบต่อผิวหน้าชั้นบน
ผลลัพธ์หลังการทำ Morpheus8 กับ Ulthera
- Morpheus8 : ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นโดยเฉลี่ยเวลาหลังจากทำไป 2-4 สัปดาห์ และจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3-6 เดือน ผิวหน้าจะเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับ มีความอิ่มฟู และเนื้อผิวที่ดีขึ้น แต่ควรทำอย่างต่อเนื่อง
- Ulthera : ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้หลังจาก 2-3 เดือน และจะดีขึ้นเป็นเวลา 6-12 เดือน ใบหน้าจะกระชับขึ้น ริ้วรอยลึกลดลง และเส้นขอบหน้าคมชัดขึ้น คงผลลัพธ์ได้นานถึง 1ปี
ระดับความรู้สึก/ความเจ็บปวดระหว่างการทำ Morpheus8 กับ Ulthera
- Morpheus8 : ความเจ็บปวดอยู่ในระดับปานกลาง ในขั้นตอนการทำจะมีการแปะยาชาเฉพาะที่ก่อนทำการรักษา ระหว่างทำจะรู้สึกร้อนและมีความรู้สึกเหมือนถูกแทง แต่สามารถทนได้ หลังทำมีรอยแดง และอาจเกิดสะเก็ดบาง ๆ
- Ulthera : ความเจ็บปวดอยู่ในระดับลึก No pain, no gain ครับ แต่สามารถทำได้ ที่เจ็บเพราะยิ่งพลังงานลงลึก ผลลัพธ์ที่ได้จึงดี และอยู่ได้นาน โดยเฉพาะบริเวณกระดูกแก้มและบริเวณคาง แต่ขั้นตอนการทำมีการแปะยาสามารถช่วยลดความเจ็บลงได้มาก
ราคาของในการทำMorpheus8 กับ Ulthera
- Morpheus8 : ราคาประมาณ 25,000-45,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดบริเวณที่ทำและคลินิกที่เลือก โดยทั่วไปแนะนำให้ทำ 3-4 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์
- Ulthera : ราคาประมาณ 19,000-90,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับจำนวนการยิง (Lines) ที่ใช้และบริเวณที่ทำการรักษา ส่วนใหญ่ทำครั้งเดียวก็เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เมื่อเทียบราคาและผลลัพธ์ Ulthera เป็นหัตถการที่คุ้มค่าครับ สำหรับที่ V Square Clinic มีโปรโมชันราคาทำ Ultheraดังนี้


บทความแนะนำ
ระยะเวลาในการรักษาตัวของ Morpheus8 กับ Ulthera
- Morpheus8 : ระยะเวลาฟื้นตัว 3-7 วัน อาจมีอาการแดง บวม และเปลือกผิวหลุดเล็กน้อย ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดด ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดหรือสารที่ระคายเคืองผิวเนื่องจากอาจมีรอยสะเก็ดของเข็ม
- Ulthera : ระยะเวลาฟื้นตัวน้อยมาก 0-2 วัน อาจมีอาการบวมเล็กน้อย สามารถกลับไปทำกิจวัตรปกติได้ทันที ไม่มีแผลหรือรอยบนผิวหน้า ไม่ต้องดูแลตัวเองยุ่งยาก เนื่องจากไม่มีแผล
Morpheus8 กับ Ulthera อยู่ได้นานแค่ไหน เมื่อไหร่ควรทำซ้ำ
- Morpheus8 : ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน แต่ต้องทำซ้ำต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างการทำแต่ละครั้งประมาณ 4-6 สัปดาห์ เพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น หมอจะประเมินเป็นรายเคส
- Ulthera : ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1ปี แนะนำทำเพียงปีละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้วครับ
อยากผิวแน่น หน้าเด็ก ควรทำ Morpheus8 หรือ Ulthera
สำหรับผู้ที่ต้องการผิวแน่นและหน้าเด็ก การเลือกจะขึ้นอยู่กับอายุและปัญหาหลักของผิวหน้า
- อายุ 25-35 ปี : สามารถทำ Morpheus8 ได้เนื่องจากจะช่วยปรับปรุงพื้นผิวผิวหน้า กระชับรูขุมขน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและเรียบเนียน หรืออาจเลือกทำ Ultraformer III หรือ Ultraformer MPT ได้เช่นกัน ข้อดีราคาไม่สูง และขณะทำไม่เจ็บมาก
- อายุ 35-45 ปี : อาจพิจารณาทำทั้งสองอย่างแยกกัน หรือเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งตามปัญหาหลัก หากปัญหาหลักคือผิวขรุขระ สามารถเลือก Morpheus8 แต่หากใครกลัวเข็ม ไม่อยากทำบ่อย ๆ สามารถเลือกทำThermage ซึ่งใช้พลังงาน Monopolar RF (Radio-Frequency)ได้ครับ หากปัญหาหลักคือผิวหย่อนคล้อย หมอแนะนำให้ทำ Ulthera ครับ
- อายุ 45 ปีขึ้นไป : แนะนำ Ulthera เนื่องจากจะช่วยกระชับและยกกระชับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดริ้วรอยลึก และปรับปรุงเส้นขอบหน้า

ถ้าหากคนไข้ไม่แน่ใจว่าควรทำเครื่องไหนดี ? สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อหาเครื่องยกกระชับที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาของคนไข้ที่สุด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีออกมาคุ้มราคา ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องยกกระชับที่เหมาะกับสภาพปัญหามากมายครับ เช่น Ulthera,Thermage,Ultraformer III,Ultraformer MPT,Oligio และMorpheus8
บทความแนะนำ
ที่ V Square Clinic ก่อนทำหัตถการยกกระชับ แพทย์จะประเมินใบหน้าของคนไข้ เพื่อแนะนำหัตถการ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

Morpheus8 กับ Ulthera แบบไหนปลอดภัย
ทั้ง Morpheus8 และ Ulthera เป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูงเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่ได้มาตรฐาน
- ความปลอดภัยของ Morpheus8 : เป็นเทคโนโลยีจากประเทศเกาหลี ที่ผ่านมาตรฐาน อย.เกาหลี (Korea Food & Drug Administration : KFDA) ผ่านมาตรฐาน อย.อเมริกา (US Food and Drug Administration : USFDA) และ อย.ไทย (Thai Food & Drug Administration : FDA) ) แต่ทั้งนี้ก่อนทำต้องมั่นใจว่าอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ความปลอดภัยของ Ulthera : ผ่านมาตรฐานจาก อย.อเมริกา (US Food and Drug Administration : USFDA) และ อย.ไทย (Thai Food & Drug Administration : FDA) ปัจจุบันเครื่อง Ulthera ทั้ง Ulthera SPT และ Ulthera Prime เป็นที่ยอมรับจากแพทย์ผิวหนัง และแพทย์ศัลยกรรม อย่างกว้างขวาง ว่าสามารถยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทั้งนี้ก่อนทำต้องมั่นใจว่าอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลจากแพทย์ที่มีประสบการณ์เช่นกัน
นอกจากนี้ Ulthera ผลข้างเคียงน้อยมาก ความเสี่ยงต่ำ และหลังทำมีไม่มีแผลบนผิวหน้าครับ
บทสรุป Morpheus8 กับ Ulthera ให้ผลลัพธ์ดีต่างกัน
Morpheus8 และ Ulthera เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงผิวหน้า แต่มีจุดเน้นที่แตกต่างกัน Morpheus8 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงพื้นผิวผิวหน้า กระชับรูขุมขน และเพิ่มความอิ่มฟูให้กับผิว ส่วน Ulthera เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระชับและยกกระชับใบหน้าแบบลึก
การเลือกระหว่างทั้งสองควรพิจารณาจากปัญหาหลักของผิวหน้า อายุ งบประมาณ และความคาดหวังในผลลัพธ์ การปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพผิวและแนะนำหัตถการที่เหมาะสม จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังทำตอบโจทย์ความต้องการและคุ้มค่ามากที่สุดครับ
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเลือกเทคโนโลยีไหน สิ่งสำคัญคือการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยสูงสุด
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 32 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ