ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน? หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอาจมีอาการบวมแดง มีรอยช้ำ หรือคันบริเวณที่ฉีด อาการนี้ถือว่าเป็นอาการปกติครับ หลังฉีดจะมีอาการบวม 2-3 วัน หลังจากนั้นอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับระหว่างนี้คนไข้ควรหลีกเลี่ยงการแตะ เกา กด หรือนวดในจุดที่ทำเพื่อเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ
ส่วนข้อสงสัยต่าง ๆ ที่ว่า หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเห็นผลนานแค่ไหน? ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อนเกิดจากสาเหตุอะไร? หลังฉีดดูแลตัวเองอย่างไร? หมอจะมาตอบในบทความนี้ครับ
บทความแนะนำ
ประเภทอาการบวมที่ผิดปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
อย่างที่หมอได้บอกไปข้างต้นว่าอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ เช่นอาการบวมจากรอยเข็ม หรือเวลาคลำบริเวณร่องแก้มแล้วรู้สึกเป็นก้อนลึก ๆ อยู่ใต้ผิว เวลายิ้มหรือแสดงสีหน้าต่าง ๆ ก้อนฟิลเลอร์จะไม่ปรากฎขึ้นมา และไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า อาการนี้คืออาการปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ครับ
ส่วนอาการบวมที่ไม่ปกติหลังฉีดฟิลเลอร์จะมีวิธีสังเกตอย่างไร? มีลักษณะแบบไหน? เพื่อให้เข้าใจง่าย หมอขออธิบายอาการบวมดังนี้ครับ
- ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวมเป็นก้อน ที่เกิดจากการอักเสบ
อาการบวมที่เกิดจากการอักเสบหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะมีลักษณะเป็นก้อนบวมมากกว่าปกติ มีสีแดงคล้ำ หากกดจะรู้สึกเจ็บ หรือรู้สึกร้อนผิวหนังบริเวณที่ฉีด อาการบวมนี้อาจเกิดขึ้นได้จาก 3 กรณีครับ คือใช้ฟิลเลอร์ปลอม แพ้ฟิลเลอร์หรืออาจมีการติดเชื้อจากทางรูเข็ม หากคนไข้มีอาการดังกล่าวต้องรีบแจ้งแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาครับ
- ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวมเป็นก้อน คลำแล้วผิวไม่เรียบ
(ตัวอย่างเคสฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อนที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า)
หากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อนที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าจากการแสดงสีหน้า หรือขยับใบหน้าเพียงเล็กน้อย เวลาคลำผิวชั้นตื้นแล้วเป็นก้อน ถือว่าเป็นอาการที่ผิดปกติครับ อาการบวมนี้อาจเกิดได้จากหมอฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง หรือหมอใช้ปริมาณฟิลเลอร์เยอะเกินไป มากเกินความจำเป็นครับ
ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรเลือกฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์ มีความชำนาญ มีเทคนิคความแม่นยำ และสามารถวิเคราะห์ปัญหาใบหน้าได้อย่างถูกต้อง เพื่อรักษาหรือฉีดฟิลเลอร์ให้ได้ผลตรงตามต้องการ
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวม แก้ไขด้วยวิธีไหนได้บ้าง ?
การแก้ไขปัญหาฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วบวม หลัก ๆ แล้วมีอยู่ 3 วิธีครับ ทั้งนี้ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้น เพื่อหาวิธีที่หมาะสมที่สุด
- ฉีดสลายฟิลเลอร์
หากฟิลเลอร์ที่ฉีดมาเป็นฟิลเลอร์แท้ ก็สามารถใช้ตัวยาไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase:HYAL) ฉีดเพื่อสลายฟิลเลอร์ได้ครับ หลังฉีดสลายจะเห็นผลทันทีในบางส่วน และจะเห็นผลต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ใช้เวลา 1-3 วัน
สำหรับจำนวนครั้งในการฉีดสลายฟิลเลอร์ แต่ละเคสอาจแตกต่างกันครับ เพราะขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์เดิมที่มีอยู่ และบริเวณที่ต้องการสลาย บางรายสามารถฉีดสลายครั้งเดียวจบ จากนั้นพักหน้าประมาณ 7 วัน ก็สามารถกลับมาฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าใหม่ได้ครับ
(ตอบข้อสงสัย การฉีดฟิลเลอร์สามารถสลายได้หรือไม่❓ | V Square Clinic)
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดสลายฟิลเลอร์จุดไหนได้บ้าง? ฉีดกี่ครั้งเห็นผล? อันตรายไหม?
- การผ่าตัดเพื่อเอาฟิลเลอร์ออก
การผ่าตัดเพื่อเอาฟิลเลอร์ออกจะใช้กับผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ปลอมประเภทซิลิโคนเหลวครับ การผ่าตัดส่วนใหญ่จะไม่สามารถเอาฟิลเลอร์ออกได้หมด 100% ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด ต้องระวังทั้งเรื่องของเส้นประสาท เส้นเลือดสำคัญต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมในโรงพยาบาลครับ
- ขูดฟิลเลอร์
การขูดฟิลเลอร์ จะทำในกรณีเดียวกับการผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออกครับ คือคนไข้ใช้ฟิลเลอร์ปลอมเพราะฟิลเลอร์ปลอมจะไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ทำให้ต้องขูดฟิลเลอร์ออก เมื่อขูดแล้วอาจจะไม่สามารถเอาออกได้หมด อาจได้เพียง 60-70% เท่านั้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรปฏบัติตัวอย่างไร ?
- ห้ามบีบ นวด แกะเกา ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- อย่างน้อย 48 ชม.หลังทำ ควรอยู่แต่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด รวมถึงการออกกำลังหรือกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง
- อย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ ควรงดเว้นการทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด
- ควรระวังไม่ขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนผิดตำแหน่งได้
- ควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 1.5-2 ลิตร เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถช่วยให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์ลง ช่วยเติมเต็มร่องแก้มลึกได้อย่างเห็นผลดังนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนจะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เลือกฉีดกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือและเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น เพื่อเลี่ยงผลข้างเคียงที่อันตราย หรืออาการบวมที่ผิดปกติครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 25 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
