Glass skin เทรนด์ผิวกระจก ทำวิธีไหนได้บ้าง ต่างจากผิวมัน Oily skin อย่างไร ?

glass skin คืออะไร

Glass skin เทรนด์ผิวสวยที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ผิวแบบ Glass skin หรือผิวกระจกนี้ได้รับอิทธิพลส่วนใหญ่มาจากประเทศเกาหลีผ่านทางอุตสาหกรรมบันเทิง ดารา ไอดอล นักแสดง ที่จะแสดงรูปลักษณ์ของผิวที่เนียนใส ดูสุขภาพดี ชุ่มชื้นฉ่ำวาว แบบ K-Beauty ครับ

Glass skin หรือผิวกระจก คือ ผิวหน้าที่มีความชุ่มชื้น ฉ่ำวาว เป็นเงามีประกาย ดูมีมิติคล้ายกับกระจก ปราศจากสิว รอยสิว หรือจุดด่างดำ เมื่อแต่งหน้าเพียงเล็กน้อยก็สามารถออกงาน ใช้ชีวิตประจำวันได้เลย โดยเผยผิวสวยได้อย่างเป็นธรรมชาติครับ

สารบัญ Glass skin

• glass skin คืออะไร
• glass skin ต่างจากผิวมันอย่างไร
• ที่มาของคำว่า glass skin
• วิธีการทำผิวหน้า glass skin
  • วิธีทำให้ผิวสวยแบบ Glass skin ด้วยตนเอง
  • วิธีทำให้ผิวสวยแบบ Glass skin ด้วยวิธีทางการแพทย์

glass skin ต่างจากผิวมันอย่างไร

Glass skin จะแตกต่างกับผู้ที่มันหรือมี Oily skin ตรงที่คนผิวมันจะมีรูขุมขนที่กว้าง ทั่วใบหน้าจะดูมันเยิ้มโดยเฉพาะบริเวณ T-Zone ดูหมองคล้ำ มักจะแต่งหน้าได้ยาก เมคอัพหลุดง่าย ไม่ติดทน และเป็นคราบระหว่างวันได้ครับ

ที่มาของคำว่า glass skin

Glass skin เป็นเทรนด์ความงามของผิวหน้าที่มาจากเกาหลีใต้ โดยคนเกาหลีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จะนิยมแต่งหน้าให้ผิวดูมีเงาเปล่งประกาย ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ฉ่ำวาว ดูกระชับเต่งตึง ไม่เน้นการแต่งหน้าให้หนามากเกินไป แต่เน้นเผยงานผิวอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อผิวเล่นกับแสงจะทำให้หน้าดูมีมิติ ดูมีสุขภาพผิวที่ดี ผิวไม่ดูแห้งหรือมันเกินไปครับ  

ด้วยความนิยมผิวหน้าแบบ Glass skin ทำให้เกาหลีเป็นประเทศที่มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สกินแคร์ รวมถึงเป็นแหล่งกำเนิดของหัตถการดูแลผิวมากมาย แต่อาจจะไม่ได้ให้เห็นผลดีในเคสคนไทยทุกเคสครับ เนื่องจากลักษณะทางพันธุกรรมและสภาพอากาศที่แตกต่างกับบ้านเรา ดังนั้นการเลือกใช้สกินแคร์หรือการเลือกทำหัตถการดูแลผิว ควรจะเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินผิวก่อนตัดสินใจทำหัตถการทุกครั้งครับ

วิธีการทำผิวหน้า glass skin

ถ้าอยากมีผิวแบบ Glass skin ทำวิธีไหนได้บ้าง? ทำแบบไหนจะเห็นผลเร็ว?

การดูแลผิวให้ผิวเนียน กระจ่างใส ให้ผิวโกลว์ใสแบบ Glass skin มีหลายวิธีครับ ทั้งวิธีการดูแลผิวที่ทำได้เองง่าย ๆ ที่บ้านและวิธีทางการแพทย์ ที่ต้องเข้ารับการตรวจประเมินกับแพทย์ก่อนทำ ซึ่งรายละเอียดแต่ละวิธี มีดังนี้ครับ

วิธีทำให้ผิวสวยแบบ Glass skin ด้วยตนเอง

• ล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้ง

ก่อนที่จะเริ่มบำรุงผิว สิ่งสำคัญที่จะลืมไม่ได้คือการทำความสะอาดหน้าให้สะอาดหมดจดก่อนครับ เพราะในแต่ละวันใบหน้าของเราต้องเผชิญกับมลภาวะ เครื่องสำอาง สารเคมี แบคทีเรีย และฝุ่นละอองมากมาย การล้างหน้าให้สะอาดจะช่วยให้สิ่งสกปรกเหล่านั้นหลุดออกและไม่เกิดการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวและริ้วรอยครับ

วิธีการล้างหน้าที่ถูกต้อง คือ ควรล้างมือให้สะอาดก่อนทุกครั้ง จากนั้นใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้า (Cleansing) ที่เหมาะกับผิว เพื่อขจัดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ในขั้นตอนแรกก่อน หลังจากใช้คลีนซิ่งแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการล้างหน้า แนะนำว่าควรใช้น้ำสะอาดอุณหภูมิปกติ ไม่เย็นหรือร้อนเกินไป และใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า (Cleanser) ที่เน้นการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก กำจัดแบคทีเรีย สิ่งสกปรกต่างที่อาจทำให้เกิดการอุดตัน มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวและป้องกันการเกิดการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวในอนาคตครับ

• การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skincare)

ปัจจัยหลักที่จะทำให้ผิวดูเป็นผิวแบบ Glass skin คือการที่ผิวมีความชุ่มชื้นและกระจ่างใสครับ ซึ่งปัจจุบันมีสกินแคร์หลากหลายรูปแบบและส่วนประกอบที่จะช่วยในจุดนี้ได้ เช่น

• Toner โทนเนอร์คือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับสภาพผิว ช่วยปรับสมดุล pH ให้ผิว ช่วยให้ผิวเกิดการอุดตันน้อยลงและช่วยผลัดเซลล์ผิว
• Serum หรือครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิว เป็นสกินแคร์กลุ่มที่เน้นการฟื้นฟูผิวตามสภาพผิวของแต่ละคน หากมีปัญหาสิว ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ BHA หรือถ้าอยากเน้นไปที่การลดเลือนริ้วรอย ก็ควรเลือกครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ Retinol ครับ
• Moisturizer มอยส์เจอไรเซอร์เป็นสกินแคร์ตัวหลักที่จะช่วยเติมน้ำให้ผิว ให้ผิวดูชุ่มชื้น มีความฉ่ำวาว และป้องกันไม่ให้ผิวขาดน้ำ ผิวแห้ง หรือผิวลอกครับ
• ครีมกันแดด เป็นตัวช่วยไม่ให้ผิวหมองคล้ำจากแดด ป้องกันรังสี UV ที่เป็นตัวการที่ทำให้เกิดริ้วรอย การทาครีมกันแดดเป็นประจำจะช่วยให้ผิวไม่หมองคล้ำและยังป้องกันการเกิดริ้รอยในอนาคตได้อีกด้วยครับ

วิธีการดูแลผิวด้วยตัวเองเป็นวิธีที่ทำได้ไม่ยาก สามารถทำได้เองเป็นประจำที่บ้าน แต่ต้องอาศัยเวลานานอย่างน้อยหลายเดือนและความสม่ำเสมอในการดูแลผิวถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนครับ คนที่มีปัญหาผิวมาก ๆ หรือคนที่ไม่มีเวลาดูแลตนเอง การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอครับ 

วิธีทำให้ผิวสวยแบบ Glass skin ด้วยวิธีทางการแพทย์

วิธีการดูแลผิวแบบ Glass skin ด้วยวิธีทางการแพทย์ เป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหลายอย่าง ใช้สกินแคร์ไม่ได้ผล ต้องการเห็นผลรวดเร็ว หรือคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองครับ ซึ่งการทำหัตถการดูแลผิวในปัจจุบัน มีหลากหลายเทคโนโลยีที่ให้ผลดีและมีความปลอดภัย หมอแนะนำวิธีดังนี้ครับ

• เมโสหน้าใส

การฉีดเมโสหน้าใส หรือที่นิยมเรียกว่า การฉีดมาเด้คอลลาเจน เป็นหัตถการแรก ๆ ที่คนมักนึกถึงหากต้องการบำรุงผิวหน้าครับ การฉีดเมโสหน้าใส เสมือนเป็นการนำวิตามินและสารที่มีประโยชน์ต่าง ๆ เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง เพื่อช่วยบำรุงและซ่อมแซมเซลล์ผิวเดิม ลดปัญหาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ และเพิ่มความกระจ่างใส โดยเมโสหน้าใสมีหลายสูตรครับ ควรจะเลือกใช้ตามสภาพผิวของแต่ละคน ยกตัวอย่างดังต่อไปนี้

• มาเด้คอลลาเจน (MADE Collagen) : เด่นเรื่องการลดสิว ผดผื่น ลดการอักเสบ ขับสารพิษ เหมาะกับคนที่มีปัญหาสิวและจุดด่างดำจากสิว ต้องการฟื้นฟูผิว ให้สุขภาพดี ผิวแข็งแรงขึ้นครับ
• Filorga / Revs : เน้นเรื่องการปรับสีผิว และพื้นผิวให้เรียบเนียน ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว
• Tensonez : เป็นสูตรที่เน้นลดฝ้า กระ และรอยจุดด่างดำ 
• Alpha arbutin : เป็นเมโสหน้าใสสูตรที่เน้นลดฝ้าโดยตรง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฝ้าเยอะ
• Neo Glutanex Glow : มีจุดเด่นเรื่องผิวขาวอมชมพู ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ฝ้า กระ หลุมสิว กระชับรูขุมขน 

การฉีดเมโสหน้าใส จะต้องทำเป็นประจำทุก ๆ 2-3 สัปดาห์ เพื่อคงผลลัพธ์และควรจะมีการบำรุงผิวอื่น ๆ ร่วมด้วยเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ นอกจากนี้ หากต้องการบำรุงผิวทั้งลำตัว ก็มีการฉีดวิตามินผิว ที่จะช่วยให้ผิวทั่วตัวมีความกระจ่างใส ชุ่มชื้นได้อีกด้วยครับ

• การฉีดฟิลเลอร์ Skin booster

ฟิลเลอร์ คือสารประเภท Hyarulonic acid ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำและย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ด้วยคุณสมบัติอุ้มน้ำ จึงนิยมนำมาใช้เป็นฟิลเลอร์ Skin booster หรือฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว ฟิลเลอร์ที่ใช้จะต้องเลือกฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลเล็ก บางเบา ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้อย่างเช่น Restylane vital light, Juvederm volite และ Belotero revive เมื่อฉีดเข้าผิวแล้วฟิลเลอร์จะสามารถกระจายตัวเรียบเนียนไปกับผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้น ฉ่ำวาวมากขึ้น  ครับ

วิธีนี้จะเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกและเห็นผลชัดเจนเต็มที่ประมาณ 1 เดือนครับ จากนั้นคงผลลัพธ์ได้นานถึง 6-12 เดือน เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง ผิวหยาบกระด้าง มีรูขุมขนกว้าง มีปัญหาสิว ฝ้า กระ ไม่มาก เน้นการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวเป็นหลักครับ 

• Exosome

Exosome คือ สารชีวภาพที่ถูกปล่อยออกมาจาก Stem cell ในลักษณะถุงทรงกลมขนาดเล็ก ภายในบรรจุสารชีวโมเลกุลกว่า 1,000 ชนิด โดยมีตัวที่สำคัญต่อผิว เช่น Growth Factors, Peptides, Amino Acids, Coenzymes, Hyaluronic Acids และโปรตีนต่าง ๆ Exosome จะนำพาสารที่มีประโยชน์เหล่านี้ไปยังเซลล์ต่าง ๆ ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว เสมือนได้รับการบำรุง ผิวจะดูชุ่มชื้น ฉ่ำวาว กระจ่างใส และผิวดูสุขภาพดีมากขึ้น และยังสามารถช่วยลดการเกิดสิว ลดรอยดำ รอยแดง ช่วยให้หลุมสิวกระชับขึ้นได้อีกด้วยครับ

Exosome จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหลายด้าน และจะต้องอาศัยการฉีดอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะเห็นผลชัดเจน โดย แนะนำทำต่อเนื่องทุก 2 สัปดาห์จนครบ 3 ครั้ง หลังจากนั้นเว้นช่วง 1 เดือนจึงทำครั้งที่ 4 และเว้นช่วง 1 ปีจึงทำครั้งที่ 5 ครับ ผลลัพธ์หลังจากทำ 3 ครั้ง จะอยู่ได้นาน 3-6 เดือน หากทำต่อเนื่องเป็น 5 ครั้ง จะช่วยให้คงผลลัพธ์อยู่ได้ถึง 1 ปีครับ

• Rejuran

Rejuran เป็นสารประเภท Polynucleotide (PN) ที่เมื่อนำมาฉีดเข้าชั้นผิวหนังแท้ จะช่วยในการกระตุ้นเซลล์ผิวหนัง ให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ลดรูขุมขน ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสของผิว ช่วยลดรอยดำ รอยแผลจากสิวให้แลดูจากลง ช่วยให้ผิวฉ่ำวาว ผิวแลดูเรียบเนียน ผ่องใส แบบผิวกระจก และยังช่วยให้หลุมสิวตื้น ๆ ดูลดลงได้ด้วยครับ

Rejuran เหมาะกับผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ มีหลุมสิว และต้องการผิวฉ่ำวาว แนะนำให้ฉีดอย่างต่อเนื่องประมาณ 4 ครั้งในช่วงแรก ห่างกันทุก 2-3 สัปดาห์ หลังจากนั้นเว้นช่วงเป็นทุกๆ 3-6 เดือน โดยจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงว่าผิวดีขึ้นตั้งแต่การฉีดครั้งแรกครับ

• Sculptra

Sculptra คือ สารประเภท Poly-L-Lactic acid (PLLA) จัดเป็น Collagen biostimulator ที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ตามกระบวนการธรรมชาติของร่างกายเราเอง เพื่อทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปเมื่ออายุมากขึ้น Sculptra ใช้ฉีดในผิวชั้นลึก ในแง่การดูแลผิว จะเน้นการฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน เพิ่มการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวดูยกกระชับอิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอยร่องลึกและริ้วรอยเล็ก ๆ เป็นหลักครับ

จำนวนในการทำ Sculptra จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและอายุเป็นหลักครับ หลังจากฉีดตามแผนที่หมอแนะนำจะเห็นผลลัพธ์หลังทำประมาณสัปดาห์ที่ 3 และเห็นผลชัดตอนประมาณ 3 เดือนครับ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 25 เดือนครับ

• Radiesse

Radiesse คือ สารประเภท Calcium Hydroxylapatite microsphere (CaHA) เป็น Collagen Stimulator ที่จะช่วยเรื่องการฟื้นฟูผิวในโครงสร้างผิวชั้นลึก ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเพิ่ม Volume ให้ใบหน้า เน้นการเพิ่ม Skin quality ผิวแน่น อิ่มฟูขึ้นครับ เหมาะกับคนที่ผิวไม่กระชับ มีเนื้อน้อย ผิวเกิด loss volume เมื่อมีอายุมากขึ้นครับ

• Gouri

Gouri คือ สารประเภท Polycaprolactone (PCL) เป็น  Collagen biostimulator เช่นเดียวกับ Sculptra และ Radiesse ใช้ฉีดเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความกระชับให้ผิว จุดเด่นของ Gouri คือตัวยามาในรูปแบบของเหลว (Fully Liquid) เป็นสารละลาย 100% โอกาสเกิดก้อนหรืออุดตันหลังฉีดน้อย และมีจุดฉีดเพียง 2-4 จุด ทำให้หลังฉีดสามารถใช้หน้าได้ทันที ไม่ต้องกังวลเรื่องอาการบวมครับ

สรุปเทรนด์ผิว glass skin

ผิว Glass skin เป็นเทรนด์ผิวฉ่ำวาวแบบเกาหลีที่กำลังได้รับความนิยม ถ้าอยากมีผิวกระจก ฉ่ำวาว ควรจะต้องเพิ่มการบำรุงผิวเป็นพิเศษและทำอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผลลัพธ์ตามต้องการ แต่ถ้าอยากให้เห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว ก็สามารถใช้หัตถการทางการแพทย์ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เมโสหน้าใส รีจูรัน ฯลฯ ได้ครับ ทั้งนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยครับ