สลายไขมัน

สลายไขมัน

น้ำหนักลด แต่สัดส่วนไม่ลด เป็นปัญหาของใครหลาย ๆ คน แม้จะลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ทั้งควบคุมอาหารและออกกำลังกาย แต่ก็ยังมีไขมันส่วนเกินอยู่ในบางจุด ที่ลดยังไงก็ลดไม่ลง หรือเห็นผลช้าไม่ทันใจ อยากได้วิธีสลายไขมันแบบเร่งด่วน ที่ช่วยเรียกคืนหุ่นสวยสมส่วนให้กลับมา

สลายไขมันที่ถูกวิธี ทำอย่างไร ? น้ำหนักเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าอ้วน คำนวณค่า BMI และ Body fat ด้วยตัวเอง และวิธีสลายไขมันที่เหมาะสม วิธีไหนดี ? เห็นผลเร็ว CoolSculpting, ดูดไขมัน, ฉีดเมโสแฟต, เครื่องนวดยกกระชับ ติดตามได้ในบทความนี้ครับ

สลายไขมัน ต้องทำให้ถูกวิธี

วิธีลดน้ำหนักมีหลายวิธี คนส่วนใหญ่เลือกลดปริมาณอาหาร หรือไดเอทแบบสุดโต่ง เพื่อให้น้ำหนักลงเร็ว แต่สิ่งที่ลดลงตามไปด้วย คือ กล้ามเนื้อที่ช่วยในเรื่องการเผาผลาญไขมัน ส่วนไขมันที่เป็นสาเหตุที่แท้จริงของความอ้วนยังคงอยู่ครับ โดยเฉพาะที่ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว (ห่วงยาง) และสะโพก

การสลายไขมันในจุดเหล่านี้ ต้องทำให้ถูกวิธี นอกจากควบคุมอาหารและออกกำลังกาย หากต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว มีหัตถการและเครื่องมือแพทย์ที่สามารถสลายไขมันได้แบบเร่งด่วน ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ดูแลโดยแพทย์ประสบการณ์สูง มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัย

ปริมาณไขมันสะสมในร่างกาย

ก่อนจะเลือกสลายไขมัน วิธีไหนดี ? เราจำเป็นต้องรู้ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index) หรือ BMI เพื่อนำไปคำนวณหาปริมาณไขมันสะสมในร่างกาย (Body Fat) จะได้รู้ว่าตัวเองอ้วนระดับไหน เพราะวิธีสลายไขมันแต่ละวิธี ก็จะเหมาะหรือได้ผลดีกับระดับความอ้วนที่แตกต่างกันครับ

สามารถดูสูตรคำนวน BMI หรือดูค่า BMI ที่คำนวณออกมาแล้ว จากตารางด้านล่างนี้

คำนวณ BMI
BMI น้อยกว่า 35

จากนั้นนำ BMI ไปคำนวณหา Body fat ตามสูตรนี้

  • % ปริมาณไขมันในร่างกายสำหรับผู้ชาย = (1.2 x ดัชนีมวลกาย) + (0.23 x อายุเป็นปี) – 16.2
  • % ปริมาณไขมันในร่างกายสำหรับผู้หญิง = (1.2 x ดัชนีมวลกาย) + (0.23 x อายุเป็นปี) – 5.4

ค่ามาตรฐานในผู้ชาย จะมีปริมาณ Body fat 15-20% และในผู้หญิง จะมีปริมาณ Body fat 25-30% หากพบว่ามีเปอร์เซ็นต์ที่สูงเกินกว่านี้ จะจัดว่าอ้วนครับ

วิธีการสลายไขมันในร่างกาย

1. ควบคุมการทานอาหาร

การสลายไขมันในร่างกาย ไม่ใช่การอดอาหาร แต่ต้องควบคุมการทานให้ดี หลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันสูง เพราะเป้าหมายหลักคือการลดไขมัน จึงไม่ควรเพิ่ม
ไขมันเข้าไปในร่างกาย เลือกทานอาหารประเภทโปรตีน ผัก ผลไม้ ส่วนแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตสามารถทานได้ครับ แต่ต้องเลือกแป้งที่ไม่ขัดสี ช่วยให้อิ่มท้องนาน เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เป็นต้น

2. ออกกำลังกายลดไขมัน

กาารออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอ (Cardio Exercise) เช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน เต้น ในตอนเช้า ร่างกายจะดึงเอาไขมันสะสมออกมาใช้ จึงช่วยเผาผลาญและลด
ไขมันในร่างกายได้ดี

3. CoolSculpting

เครื่องมือ CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ผ่านการรับรองจาก U.S.FDA ว่าสามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้ถาวร เหมาะกับคนที่ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกาย แต่ยังมีไขมันสะสมอยู่เฉพาะจุด หรือคุณแม่หลังคลอดที่อยากให้สัดส่วนกระชับเร็วขึ้น หรือคนที่ไม่อยากผ่าตัด ดูดไขมัน ไม่อยากเจ็บตัว มีเวลาพักฟื้นน้อย

หมอได้เขียนอธิบายไว้ในบทความ CoolSculpting คืออะไร ? ทำไมต้องกำจัดไขมันด้วยความเย็น ? สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ครับ

เครื่อง CoolSculpting

4. การดูดไขมัน

การดูดไขมันถือเป็นการผ่าตัดเล็ก ต้องฉีดยาชาปริมาณมาก และในบางเคสอาจต้องใช้ยาสลบ ถ้าไม่อยากรับความเสี่ยงในจุดนี้ หรือไม่อยากเจ็บ ไม่อยากมีแผล อาจจะไม่เหมาะกับการดูดไขมันครับ

และถึงแม้ว่าจะดูดไขมันออกไปแล้ว แต่หากไม่ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ไขมันก็สามารถกลับมาสะสมได้ใหม่ หากดูดไขมันซ้ำ ๆ หลาย ๆ รอบ จะเกิดพังผืดใต้ผิว ทำให้ผิวไม่เรียบและจะยิ่งบวมช้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อทำหลาย ๆ ครั้ง

การดูดไขมันเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันปริมาณเยอะ ๆ (BMI > 35) เท่านั้น สำหรับผู้ที่ไขมันน้อยกว่านี้ แนะนำว่าควรเลือกใช้วิธีที่ปลอดภัยและไม่ส่งผลเสียในระยะยาว

5. การฉีดเมโสแฟต

เมโสแฟต เป็นตัวยาฉีดเพื่อสลายไขมันสะสมเฉพาะจุดที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะการฉีดเมโสแฟตลดแก้ม เมโสแฟตลดเหนียง เพื่อทำให้ใบหน้าเรียวเล็ก รวมทั้งใช้ฉีดลดสัดส่วนเฉพาะจุด เช่น เมโสแฟตต้นแขน พุง (หน้าท้อง) แขน และขา เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเกิน ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ต้องการลดเซลลูไลท์

เมโสแฟต

หลัง ฉีดเมโสแฟต ตัวยาจะออกฤทธิ์กระตุ้นระบบการทำงานของ metabolism ซึ่งเป็นกลไลการเร่งการสลายไขมันตามธรรมชาติของร่างกาย ไขมันส่วนหนึ่งจะแตกตัวหรือสลายตัว และถูกขับออกทางระบบขับถ่าย ตามกลไกการขับของเสียตามธรรมชาติ และไขมันอีกส่วนหนึ่งจะถูกดึงมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน (Fat Burn)

โดยปกติแล้วจะเห็นผลชัดเจนใน 1-3 สัปดาห์ครับ โดยไขมันจะเริ่มสลายตัว 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ในคนที่มีไขมันสะสมมาก ๆ อาจจะยังเห็นผลไม่ชัดเจนในครั้งแรก ต้องฉีด 4-5 ครั้ง จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนครับ อยู่ได้นาน 2-3 เดือน

6. เครื่องนวดยกกระชับของสถาบันลดสัดส่วน, ลดน้ำหนัก

เครื่องมือในการลดสัดส่วนที่ได้ผล จะต้องผ่านงานวิจัยทางการแพทย์และจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ที่มีการควบคุมพิเศษ แต่สถาบันลดสัดส่วน, ลดน้ำหนัก มักจะไม่มีแพทย์ประจำ และไม่ได้จดทะเบียนเป็นคลินิกเวชกรรม จึงมีข้อจำกัดคือ ไม่สามารถใช้เครื่องมือแพทย์ได้ครับ

เครื่องมือต่าง ๆ ที่สถาบันเหล่านี้ใช้ จึงมักเป็นแค่การนวดร้อน-เย็น, RF (Radio-Frequency) อ่อน ๆ ซึ่งไม่ได้เกิดผลในระยะยาว มีเพียงความกระชับที่เกิดจากการบวมของเนื้อเยื่อ หรือการรีดน้ำออกเพียงชั่วคราวในระยะ 3-7 วันเท่านั้น

โดยจะสังเกตได้ว่าการใช้เครื่องมือกระชับสัดส่วนของสถาบันเหล่านี้ พนักงานมักจะนัดให้กลับไปทำบ่อย ๆ ทุกสัปดาห์จึงจะเห็นผล และพอหยุดทำก็จะคืนสภาพเดิม แทบจะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง หากน้ำหนักไม่ลดลง และการที่น้ำหนักลดลง ก็เป็นผลจากการควบคุมอาหารที่ทำควบคู่กันมากกว่า

สลายไขมัน ด้วย CoolSculpting ที่ V Square Clinic

การเตรียมตัวก่อน สลายไขมันด้วย CoolSculpting

ทำ CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ที่ V Square Clinic ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากครับ สามารถรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตประจำได้ตามปกติ เหมือนก่อนทำ treatment ทั่วไป ไม่ใช่การผ่าตัด หรือการฉีดสลายไขมัน จึงไม่ต้องมีการเตรียมตัวที่ยุ่งยาก สามารถเข้ามาปรึกษาหมอที่คลินิก นัดคิว และทำได้เลยครับ

เตรียมตัวก่อนทำ CoolSculpting

(คุณนิโคล นัดคิวเข้ามาสลายไขมันด้วย CoolSculpting)

ขั้นตอนการสลายไขมันด้วย CoolSculpting

CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น มีหลักการทำงาน 4 ขั้นตอน ดังนี้

1. ดูดและดึงชั้นไขมัน แพทย์จะเลือกหัว CoolSculpting ที่เหมาะสมกับต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว (ห่วงยาง) และสะโพก จากนั้นจะดูดผิวและดึงชั้นไขมันในจุดนั้นมาไว้ในหัวของเครื่อง

2. ปล่อยความเย็น หัวดูดจะปล่อยความเย็น -11 องศาเซลเซียส แช่แข็งก้อนไขมัน 35 นาที โดยในแต่ละจุด มีระบบ Freeze Detect หากความเย็นมากเกินไป เครื่องจะหยุดทำงานทันที

3. เซลล์ไขมันค่อย ๆ ตาย เมื่อครบเวลา ประมาณ 30 นาทีต่อจุด จะใช้การนวดเพื่อให้เซลล์ไขมันตาย และลดจำนวนลงแบบถาวร ก่อนถูกร่างกายกำจัดออกไปเองตามธรรมชาติ

4. เซลล์ไขมันหายไป 20-25% หลังทำ CoolSculpting เริ่มเห็นผลใน 3-4 สัปดาห์แรกว่าสัดส่วนเล็กลง เห็นผลเต็มที่ใน 3 เดือน สามารถกลับมาทำซ้ำในจุดเดิมได้ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์มากขึ้น

(รู้จักวิธีสลายไขมันด้วย CoolSculpting ให้มากขึ้น)

ข้อควรระวังก่อนการทำ CoolSculpting

การทำ CoolSculpting ไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการลดสัดส่วนเฉพาะจุด ก่อนจะใช้เครื่อง CoolSculpting ต้องสำรวจตัวเองก่อนว่า มีปัญหาไขมันมากน้อยแค่ไหน และมีสัดส่วนเป็นอย่างไร เพราะถ้ามีปริมาณไขมันสะสมมากเกินไป และค่า BMI > 35 จะไม่เหมาะกับทำ CoolSculpting เพราะจะเห็นผลน้อยและช้าครับ

นอกจากนี้เครื่อง CoolSculpting สลายไขมัน ต้องเป็นเครื่องแท้ที่ได้มาตรฐาน ได้รับการรับรองจาก U.S.FDA ว่ามีความปลอดภัย มีระบบ Freeze detect เครื่องจะหยุดทำงานทันทีที่ตรวจเจอความเย็นในผิวชั้นบนที่มากเกินไป เพื่อป้องกันผิวไหม้จากความเย็น

การดูแลตนเองหลังทำ CoolSculpting

หลังทำ Coolsculpting สลายไขมันแล้ว ในช่วง 5-10 นาทีแรกอาจมีอาการปวดจากความเย็นบ้าง และจะมีอาการคล้ายการปวดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายหนักในช่วง 1-2 สัปดาห์ แต่อาการเหล่านี้จะหายค่อย ๆ หายไป สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

ถ้าอยากคงรูปร่างไว้ หมอแนะนำให้ดูแลตัวเองควบคู่กับการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมและออกกำลังกาย เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาสะสม เซลล์ไขมันขยายตัวขึ้นอีก

หลังทำไปแล้ว ถ้าอยากเห็นผลชัดเจนขึ้น อยากให้สัดส่วนและเซลล์ไขมันลดลงอีก สามารถปรึกษาแพทย์และกลับมาทำ CoolSculpting ซ้ำได้ครับ

สลายไขมันด้วย CoolSculpting ราคาเท่าไหร่ ?

Coolsculpting ราคา จะคิดเป็นจุดหรือหนีบตามที่หัวของเครื่องหยิบเข้าไป จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับไขมันส่วนเกินของแต่ละคนด้วยครับ เช่น สลายไขมันหน้าท้อง บางคนอาจจะใช้ 2 หนีบ บางคนอาจจะ 4 หนีบ

โปรแกรมCoolsculpting
  • 1 หนีบ Coolsculpting ราคา 8,500 บาท จากราคาปกติ 9,900.-
  • 2 หนีบ Coolsculpting ราคา 17,000 แถม 1 รายการ
  • 4 หนีบ Coolsculpting ราคา 34,000 แถม 3 รายการ
  • 6 หนีบ Coolsculpting ราคา 51,000 แถม 5 รายการ
  • 10 หนีบ Coolsculpting ราคา 85,000 แถม 10 รายการ

สลายไขมันที่ไหนดี ?

CoolSculpting ที่ไหนดี ? ที่ V Square Clinic

  • เครื่อง CoolSculpting แท้ นำเข้าโดยบริษัท Allergan อเมริกา
  • ดูแลโดยแพทย์และ Specialist ที่มีประสบการณ์
  • มีเทคนิคพิเศษเฉพาะ ที่ช่วยให้อาการบวมหลังทำหายไวกว่าปกติ ได้รูปร่างสมส่วน เป็นธรรมชาติ
  • มีนักกายภาพแนะนำการดูแลสัดส่วนอย่างตรงจุด
  • ใช้เก้าอี้ Lazboy รุ่นท็อป กว้างพิเศษ นั่งสบายระหว่างสลายไขมัน
  • มีโปรโมชั่น และของแถมสุดคุ้ม
สลายไขมันที่ V Square Clinic

(คุณนิโคล ทำ CoolSculpting สลายไขมันต้นแขน)

V Square Clinic มีเครื่อง CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ให้บริการใน 3 สาขา สามารถปรึกษาเพิ่มเติม สอบถามหรือนัดคิวได้เลยครับ

1. V Square Clinic สาขา Gateway เอกมัย

วีสแควร์สาขาเกตเวย์เอกมัย

V Square Clinic สาขาเกตเวย์ เอกมัย ชั้น 1F จากทางเชื่อม BTS เอกมัย ขึ้นบันไดเลื่อน 1 ชั้น คลินิกอยู่ติดกับร้านทำฟัน เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

099 005 9000

คลิกดูแผนที่

@VSqGTW

2. V Square Clinic สาขา เซ็นทรัลบางนา

วีสแควร์สาขาเซ็นทรัล บางนา

V Square Clinic สาขาเซ็นทรัล บางนา ชั้น 14 โซนออฟฟิศ อาคารเซ็นทรัลซิตี้ทาวเวอร์ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น

099 105 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqBNA

3. V Square Clinic สาขา สยามสแควร์วัน

วีสแควร์สาขาสยาม

V Square Clinic สาขาสยามสแควร์วัน ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน ชั้น 6 ติด BTS สยาม เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น.-19.30 น.

093 110 9000

คลิกดูแผนที่

@VsqSQR

ระยะเวลาในการสลายไขมัน ด้วย CoolSculpting

ระยะเวลาที่ทำจะขึ้นอยู่กับแต่ละบริเวณ โดยจะใช้เวลาประมาณ 35 นาที/1 จุด

ขณะทำ CoolSculpting_1
ขณะทำ CoolSculpting_2

(ดูแลโดยแพทย์และ Specialist ที่มีประสบการณ์)

(รีวิว CoolSculpting สลายไขมันส่วนเกิน ลดยาก)

สรุป

สลายไขมัน ต้องทำให้ถูกวิธี วิธีที่ได้ผลลัพธ์เร่งด่วน ปลอดภัย สลายไขมันในจุดที่ลดได้ยาก โดยไม่ต้องผ่าตัด ที่หมออยากแนะนำ คือ การฉีดเมโสแฟต และ CoolSculpting

  • ฉีดเมโสแฟต ลดไขมันเฉพาะจุด ลดเซลลูไลท์ เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ไขมันจะเริ่มสลายตัว 10-15% เห็นผลชัดเจนใน 1-3 สัปดาห์ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2-3 เดือน
  • CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น กำจัดไขมันในจุดที่ลดได้ยาก เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก กำจัดเซลล์ไขมันหายไป 20-25% สัดส่วนเล็กลงใน 3-4 สัปดาห์ เห็นผลเต็มที่ใน 3 เดือน กลับมาทำซ้ำได้หากต้องการลดเพิ่ม

สำหรับใครที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน ต้องการสลายไขมัน สามารถปรึกษาหมอก่อนได้ครับ เพื่อเลือกวิธีการสลายไขมันที่เหมาะสม และเห็นผลลัพธ์ดี สลายไขมันเฉพาะจุดและกลับมามีรูปร่างได้สัดส่วนสวยงามครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 25 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า