
เทียบความต่าง Ulthera VS Hifu ในทุกมิติ
Ulthera VS Hifu เทียบสองเทคโนโลยียกกระชับผิวตัวดัง เครื่องไหนคุ้ม!
Ulthera กับ Hifu คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด ถึงทั้งสองเครื่องจะใช้พลังงานในการยกกระชับผิวเหมือนกัน แต่ก็มีความต่างกันครับ
ซึ่งจะแตกต่างกันด้านไหนบ้าง ? ใครเหมาะกับเครื่องไหน ? หมอมีข้อมูลแต่ละเครื่องเปรียบเทียบไว้อย่างละเอียด ติดตามอ่านได้ในบทความนี้ครับ
สารบัญ Ulthera VS Hifu
เทียบความต่างระหว่าง Ulthera VS Hifu
ก่อนรู้ถึงความเหมือนและความต่าง หมอขออัปเดตข้อมูลคร่าว ๆ ของแต่ละเครื่องในปัจจุบันว่ามีรุ่นไหนบ้างที่มีนิยมใช้กันในตอนนี้ครับ

Ulthera หรือ Ultherapy คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งนับว่าเป็นต้นแบบเครื่อง Hifu ในปัจจุบัน
โดยอัลเทอร่ามีเทคโนโลยีที่โดดเด่นอย่าง MFU-V แพทย์สามารถเห็นชั้นผิวได้แบบเรียลไทม์ ตอนนี้มีใช้ด้วยกัน 2 เครื่อง คือ Ulthera SPT และ Ulthera Prime ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Ulthera SPT ครับ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Ulthera Prime คืออะไร ? อัปเดตเครื่องยกกระชับใหม่ล่าสุด รีวิวผลลัพธ์ และราคา

Hifu (High Intensity Focused Ultrasound) คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูงเช่นเดียวกัน มีหลายเกรดหลายยี่ห้อครับ
ที่ได้รับความนิยมในไทย คือ Hifu รูปแบบ Macro & Micro Focused Ultrasound เช่น ยี่ห้อ Ultraformer III และ Ultraformer MPT ซึ่งเป็นรุ่นที่อัปเกรดจากไฮฟู่ทั่ว ๆ ไป และได้รับจากวงการแพทย์ว่าดีที่สุดรองจาก Ultherapy ซึ่งในที่นี้จะเปรียบเทียบกับยี่ห้อนี้ครับ
คลิกทำความรู้จัก Hifu Ultraformer แต่ละรุ่น
เทียบความต่างระหว่าง Ulthera VS Hifu | ||
---|---|---|
Hifu | Ulthera | |
คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง | พลังงาน | คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง |
Micro and Macro Focused Ultrasound (MMFU) | เทคโนโลยีหลัก | Micro-Focused Ultrasound with Visualization (MFU-V) |
ยิงคลื่นพลังงานเปลี่ยนเป็นความร้อน 60-70°C ขนาดจุดโฟกัส 0.5-1 mm | หลักการทำงาน | ยิงคลื่นพลังงานเปลี่ยนเป็นความร้อน 60-70°C ขนาดจุดโฟกัส 1 mm |
SMAS (4.5 mm) | ลงลึกถึงชั้นผิว | SMAS (4.5 mm) |
เห็นผลทันที 20% เห็นผลเต็มที่ 2-3 เดือน | ผลลัพธ์ | เห็นผลทันที 30%เห็นผลเต็มที่ 2-3 เดือน |
5-6 เดือน | ระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ | 1 ปี |
เทคโนโลยีหลัก & กลไกการทำงาน

Ulthera VS Hifu เป็นวิธียกกระชับหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยใช้หลักการทำงานที่คล้ายกันคือ ยิงพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในลักษณะจุดไข่ปลาเรียงกันลงลึกถึงชั้น SMAS (ชั้นเนื้อเยื่อเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า)
ความร้อนจะทำให้คอลลาเจนหดตัวทันที ส่งผลให้ผิวยกกระชับเต่งตึงขึ้น และให้ประโยชน์ที่เหมือนกันในหลายด้าน เช่น
- ยกกระชับผิวหย่อนคล้อยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินในระยะยาว
- ช่วยป้องกันและชะลอความหย่อนคล้อยของผิว
ถึงทั้งสองมีกลไกการทำงานคล้ายกัน และให้ผลลัพธ์การยกกระชับที่ดีทั้งคู่ แต่มีความต่างกันในด้านเทคโนโลยีที่ใช้ และขนาดของจุดพลังงานที่ยิงลงชั้นผิวดังนี้ครับ
Ulthera : ส่งพลังงานเป็นจุดโฟกัสขนาด 1 mm ร่วมกับเทคโนโลยี MFU-V ทำให้แพทย์เห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์ สามารถวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ยิงพลังงานได้อย่างแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับ ทำ 1 ครั้งผลลัพธ์อยู่ได้นาน

Hifu : ส่งพลังงานเป็นจุดโฟกัสขนาด 0.5-1 mm ในรูปแบบ Macrofocus ซึ่งมีพลังงานที่ใหญ่และคงที่มากกว่า HIFU รุ่นทั่วไป ทำให้ผลลัพธ์การยกกระชับ กระตุ้นคอลลาเจนใกล้เคียงกับ Ulthera แต่ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่าครับ

ผลลัพธ์หลังการทำ Ulthera VS Hifu
- หลังทำ Ulthera ยกกระชับขึ้นทันที 30% เห็นผลเต็มที่ 2-3 เดือน/ทำ Ulthera 1 ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี
- หลังทำ Hifu ยกกระชับขึ้นทันที 20% เห็นผลเต็มที่ 2-3 เดือน/ทำ Hifu 1 ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 5-6 เดือน
ผลลัพธ์จากการทำ Ulthera อยู่ได้นานกว่า จึงไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อยเท่า Hifu ครับ ทั้งนี้ระยะเวลาของผลลัพธ์ยังขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิม การดูแลตัวเอง และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคน
ระดับความเจ็บระหว่างการทำ
หากเทียบกันในด้านความเจ็บระหว่าง Ulthera VS Hifu จากรีวิวของผู้ที่เคยทำส่วนใหญ่จะบอกว่า Ulthera > Hifu ครับ
เนื่องจาก Ulthera มีการส่งคลื่นพลังงานที่มีขนาดจุดโฟกัสใหญ่และลงลึกมากกว่า ระหว่างทำอาจรู้สึกอุ่น ๆ ร้อน ๆ ใต้ผิว การทำอัลเทอร่าจึงเหมาะกับผู้ที่สามารถทนเจ็บได้ในระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ก่อนทำทั้ง Ulthera และ Hifu จะมีการแปะยาชาเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บ นอกจากนี้ Ulthera Prime รุ่นล่าสุด มีการอัปเกรดระบบประมวลผลที่เร็วขึ้น ใช้เวลาทำน้อยลง ช่วยให้รู้สึกเจ็บน้อยลงครับ
ราคาในการทำ Ulthera VS Hifu
ราคาการทำ Hifu กับ Ulthera จะขึ้นอยู่กับจำนวนช็อต/ไลน์ที่ใช้ โดยแพทย์จะประเมินตามระดับปัญหา สภาพผิว และตำแหน่งที่คนไข้ต้องการยกกระชับ โดยหมอได้เขียนจำนวนช็อต/ไลน์ที่ใช้แต่ละตำที่บทความ Ulthera ทำกี่ช็อต ? แต่ละตำแหน่งใช้เท่าไหร่ ? ยิ่งใช้เยอะยิ่งดีจริงไหม ? สามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ครับ
และสำหรับคำถามยอดนิยมอย่าง Ulthera VS Hifu ราคาแบบไหนคุ้มกว่า ? ทั้งสองให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าทั้งคู่ แต่ด้วยเทคโนโลยีและคุณสมบัติของเครื่องทำให้ Ulthera ราคาสูงกว่าการทำ Hifu ครับ
- โปรแกรม Ultherapy ราคาเริ่มต้นที่ 26,000.-/200 Line
- โปรแกรม Hifu ราคาเริ่มต้นที่ 3,999.-/100 Line
Ulthera ราคาโปรโมชัน ที่ V Square Clinic

Hifu ราคาโปรโมชัน ที่ V Square Clinic


ระยะเวลาในการพักฟื้น
ทั้ง Ulthera กับ Hifu เป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้นครับ หลังทำเสร็จสามารถกลับไปทำงานหรือใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
แต่จุดต่างเล็กน้อยของทั้งสองคือ Ulthera ที่มีการที่ส่งคลื่นพลังงานที่ใหญ่กว่า อาจทำให้รู้สึกระบม หรือมีอาการบวมมากกว่าเล็กน้อย โดยอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นได้เองใน 1-2 วัน
หากต้องการให้อาการบวมลดไว เห็นผลชัดเจน แนะนำให้ดูแลผิวหลังทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้กระบวนการฟื้นฟูผิวทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
Ulthera VS Hifu เหมาะกับใคร ?
- Hifu : อายุ 25-30 ปีขึ้นไป หรือคนที่เริ่มมีริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย หรือผู้ที่ลองทำครั้งแรก กลัวเจ็บ การทำ Hifu เป็นหัตถการเริ่มต้นที่ดีครับสำหรับผู้ที่ไม่เคยทำ
- Ulthera : อายุ 35 ปีขึ้นไป หรือคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยชัดเจน มีริ้วรอยระดับปานกลาง ต้องการผลลัพธ์อยู่ได้นาน ไม่ต้องกลับมาทำบ่อย สามารถทนเจ็บได้ในระดับหนึ่ง หมอแนะนำให้ทำ Ulthera ได้เลยครับ
ถ้าให้หมอสรุป ถึงแม้ว่าการทำ Ulthera ราคาอาจจะสูงกว่าแต่ก็คุ้มค่าในระยะยาวครับ สำหรับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ต้องการผลลัพธ์อยู่ได้นาน ไม่ต้องกลับมาทำบ่อย
ส่วน Hifu จะเด่นในเรื่องงบประมาณที่เข้าถึงง่ายมากกว่า แต่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อยกว่าเพื่อคงผลลัพธ์ในระยะยาว เหมาะกับคนที่ปัญหายังไม่มาก ต้องการชะลอการเกิดริ้วรอยผิวหย่อนคล้อยก่อนวัย
Ulthera VS Hifu ทำพร้อมกันได้ไหม ?
ระหว่าง Ulthera VS Hifu เลือกไม่ได้ ทำพร้อมกันได้ไหม ? ทั้งสองมีหลักการทำงานคล้ายกัน สามารถทำร่วมกันได้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการยกกระชับ โดยแพทย์จะประเมินจำนวนไลน์ที่เหมาะสมของแต่ละหัตถการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ
รีวิว Ulthera VS Hifu
รีวิวก่อน-หลังทำ Ulthera และ Hifu ที่ V Square Clinic




Ulthera VS Hifu VS เครื่องยกกระชับอื่น ๆ
ในกลุ่มหัตถการเครื่องยกกระชับนอกจาก Ulthera และ Hifu ยังมีเครื่องอื่น ๆ ที่มีการนำมาเปรียบเทียบกันอยู่บ่อยครั้ง ส่วนใหญ่เป็นเครื่องยกกระชับในกลุ่มคลื่นวิทยุ Monopolar RF (Radio-Frequency) ซึ่งมีความต่างกันชัดเจนในด้านพลังงานที่ใช้ ชั้นผิว และเทคโนโลยีของแต่ละเครื่อง ดังนี้ครับ
- Thermage : เครื่องยกกระชับเทคโนโลยี Monopolar RF สามารถแก้ปัญหาผิวตั้งแต่ชั้นหนังแท้ ไปจนถึงชั้นไขมัน ช่วยยกกระชับ สลายไขมันส่วนเกิน กระตุ้นคอลลาเจน ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี นานสุดเมื่อเทียบกับเครื่องอื่น
หมอได้เขียนเปรียบเทียบอย่างละเอียดที่บทความ Ulthera กับ Thermage ต่างกันอย่างไร ? เลือกแบบไหนให้ผลลัพธ์ออกมาคุ้มค่า เห็นผลจริง
- Volnewmer : ใช้เทคโนโลยี Monopolar RF ยิงลงลึกถึงชั้นหนังแท้และชั้นไขมัน มีจุดเด่นอยู่ที่ระบบหล่อเย็นต่อเนื่องช่วยลดความเจ็บขณะทำ ให้ผลลัพธ์ทั้งในเรื่องยกกระชับ สลายไขมัน เพิ่มวอลลุ่มให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- Oligio : ใช้เทคโนโลยี Monopolar RF ยิงลงลึกถึงชั้นหนังแท้และชั้นไขมัน เจ็บน้อย ให้ผลลัพธ์เรื่องงานผิวเรียบเนียน และสลายไขมันเช่นเดียวกัน
- Morpheus8 : เครื่องยกกระชับเทคโนโลยี Microneeding Radio Frequency ส่งพลังงานผ่านเข็มขนาดเล็กจำนวนมากลงสู่ชั้นผิว ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ยกกระชับ เน้นปรับคุณภาพผิว ลดหลุมสิว

สรุป Ulthera VS Hifu เครื่องไหนคุ้ม เห็นผลชัด!
Ulthera VS Hifu เครื่องไหนคุ้มกว่ากัน ? ทั้งสองสามารถช่วยยกกระชับได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ดีทั้งคู่ ส่วนทำเครื่องไหนคุ้มที่สุดขึ้นอยู่กับสภาพผิว ระดับความหย่อนคล้อย และความต้องการของแต่ละคนครับ
ที่ V Square Clinic มีให้บริการทั้ง Hifu Ultraformer III, Ultraformer MPT และ Ulthera รุ่นล่าสุด รวมถึงเครื่องยกกระชับพลังงานอื่น ๆ คนไข้สามารถเข้ามาปรึกษาหมอได้ที่ V Square Clinic ทุกสาขา เพื่อประเมินปัญหา สภาพผิว และเลือกเครื่องที่เหมาะสมกับความต้องการของคนไข้ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 32 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ