รักษาหลุมสิว

รักษาหลุมสิว

การรักษาสิวที่ไม่ถูกวิธี เช่น การแกะ กด บีบสิว ปล่อยให้สิวหายเองจนผิวยุบตัว เป็นสาเหตุหลักของการเกิดหลุมสิว หากปล่อยไว้จนหลุมสิวขยายเป็นวงกว้าง จะทำให้หลุมสิวลึกกว่าเดิม ยากต่อการรักษาครับ

สำหรับใครที่ต้องการรักษาหลุมสิว ในบทความนี้หมอมีวิธีรักษาหลุมสิวมาแนะนำครับ หลุมสิว คืออะไร ? วิธีรักษาหลุมสิว วิธีไหนเห็นผล ?วิธีป้องกันและการดูแลตนเองในช่วงการรักษาหลุมสิว มีอะไรบ้าง ? รวมถึงวิธีการเลือกรักษาหลุมสิว ที่ไหนดี ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัย สามารถติดตามอ่านได้ครับ

หลุมสิว คืออะไร ?

หลุมสิว คืออะไร

หลุมสิว คือ แผลที่เกิดจากผิวหนังอักเสบ มีลักษณะเป็นหลุมหรือรอยบุ๋มเป็นแอ่งลึกลงไป ทำให้มองเห็นเป็นรอยขรุขระ สัมผัสแล้วเป็นคลื่น ใบหน้าไม่เรียบเนียน

ประเภทของหลุมสิวที่พบบ่อย มีด้วยกัน 3 ประเภทครับ โดยจะแบ่งตามระดับความรุนแรงจากระดับน้อย ไปจนถึงระดับรุนแรงมาก สำหรับเนื้อหาในส่วนนี้ หมอจะอธิบายในหัวข้อถัดไปครับ

หลุมสิว มีกี่ประเภท ?

หลุมสิว แบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ โดยแบ่งตามขนาด ความลึก และความกว้างของหลุมสิว ดังนี้

ประเภทของหลุมสิว
  1. Rolling Scar (หลุมสิวระดับทั่วไป)

เป็นหลุมสิวระดับทั่วไป ตื้นที่สุด มีขนาด 4-5 มิลลิเมตร ผิวชั้นบนยุบตัวเพียงเล็กน้อย ความลึกของก้นหลุมสิวมีลักษณะคล้ายก้นกระทะ ไม่ได้ลึกมากเหมือนหลุมสิวประเภทอื่น ส่วนใหญ่เกิดจากการแกะและบีบสิวที่ผิดวิธี

  1. Boxcar Scar (หลุมสิวระดับปานกลาง)

เป็นหลุมสิวระดับปานกลาง ก้นหลุมสิวจะตื้นกว่าหลุมสิวแบบ Ice pick scar โดยจะมีขนาด 3-5 มิลลิเมตร มีลักษณะคล้ายกล่อง เห็นขอบหลุมสิวชัด และมักพบพังผืด (fibrosis) เกาะติดในชั้นหนังแท้ เกิดจากสิวอักเสบหรืออีสุกอีใสที่ปล่อยให้สิวหายเองจนเกิดการยุบตัวของผิวหนัง

  1. Ice Pick Scar (หลุมสิวระดับรุนแรง)

เป็นหลุมสิวระดับรุนแรง เป็นหลุมสิวที่แคบแต่ลึกที่สุด มีระดับความลึก 0.1-0.5 มิลลิเมตร ก้นหลุมสิวแหลมคล้ายกรวย รอยหลุมจิกลงไปเห็นขอบชัด เกิดจากการกดหรือบีบสิวอุดตัน มักพบบริเวณแก้ม

หลุมสิว เกิดจากอะไร ?

หลุมสิว เกิดจากอะไร

หลุมสิว เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง ส่วนใหญ่มักเป็นผลมาจากสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวหัวช้าง รวมไปถึงพฤติกรรมการกด แกะ บีบสิวที่ไม่ถูกวิธีที่อาจทำให้สิวกระจายเป็นวงกว้าง เนื่องจากสิวจะมีเชื้อแบคทีเรียและหนองอยู่ภายในหัวสิว หากแกะสิว จะทำให้เชื้อแบคทีเรียอาจลุกลามได้ครับ

หลุมสิวมีตำแหน่งไหนบ้าง ?

หลุมสิว สามารถพบได้ทั่วใบหน้าในบริเวณที่มีการเกิดสิวครับ เช่น บริเวณหน้าแก้ม โหนกแก้ม คาง หน้าผาก ขมับ รวมไปถึงหลุมสิวที่จมูก แต่บริเวณที่พบได้บ่อย มองเห็นหน้าเป็นหลุมสิวชัดจะเป็นบริเวณหน้าแก้ม พบได้ทั้งหลุมสิวระดับทั่วไปจนถึงหลุมสิวระดับรุนแรง

วิธีรักษาหลุมสิว

สำหรับใครที่กำลังหาวิธีรักษาหลุมสิว วิธีรักษาหลุมสิวที่หมอรวบรวมมา มีทั้งวิธีรักษาหลุมสิวแบบใช้ยา, รักษาหลุมสิวด้วยตัวเอง, การใช้หัตถการ และใช้เครื่องรักษาหลุมสิว ดังนี้

1. Retinoids รักษาหลุมสิว

Retinoids รักษาหลุมสิว

Retinoids รักษาหลุมสิว เป็นการใช้ยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ เช่น Retin A (เรตินเอ), Retinoid (เรตินอยด์), Retinol (เรตินอล) เพื่อปรับโครงสร้างผิวชั้นบนให้เรียบเนียนขึ้น ช่วยรักษารูขุมขนกว้างหลุมสิว ลดการอุดตันของรูขุมขน ลดการอักเสบของสิว ผลัดเซลล์ผิวเก่า สร้างเซลล์ผิวใหม่ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น

การใช้ Retinoids มีข้อควรระวัง คือ อาจทำให้ผิวแห้ง แสบ หน้าแดง ผิวลอก ระคายเคือง จึงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์หรือเภสัช และผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ ห้ามใช้สารในกลุ่มนี้ เพราะจะทำให้เด็กในครรภ์เกิดอันตรายได้ครับ

2. Chemical peeling รักษาหลุมสิว

Chemical peeling รักษาหลุมสิว

Chemical peeling คือการรักษาหลุมสิวด้วยกรด TCA หรือกรดผลไม้ เพื่อผลัดเซลล์ผิวหนังเก่าให้หลุดลอกออกแล้วสร้างผิวใหม่ขึ้นมาแทน จึงช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียน กรดที่นำมาใช้จะมีหลายสูตรและมีความเข้มข้นที่แตกต่างกันไป เพื่อความปลอดภัย จึงควรทำกับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นครับ เพราะมีโอกาสเกิดรอยดำ หน้าแห้งลอก แสบผิวได้

3. ตัดพังผืด รักษาหลุมสิว (Subcision)

ตัดพังผืด รักษาหลุมสิว (Subcision)

ตัดพังผืด รักษาหลุมสิว (Subcision) คือการใช้เข็มขนาดเล็กตัดเลาะพังผืดใต้ผิวหนังออก หลังตัดพังผืดออกแล้ว ผิวจะมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ เพื่อเติมเต็มให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น ใบหน้าเรียบเนียน เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนที่มีหลุมสิวระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง หรือมีปัญหาหลุมสิวเรื้อรัง

ทั้งนี้ควรทำติดต่อกัน 3-5 ครั้ง โดยเว้นระยะในการทำประมาณ 3-5 สัปดาห์ หลังทำอาจมีผลข้างเคียง คือหากคนไข้ดูแลรักษาแผลไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อใต้ผิวหนังได้

4. เลเซอร์ รักษาหลุมสิว

เลเซอร์ รักษาหลุมสิว

การทำเลเซอร์หลุมสิว เป็นการใช้แสงเลเซอร์เพื่อปรับสภาพผิว ลดหลุมสิว ซ่อมแซมผิวหนังส่วนที่ยุบกลายเป็นหลุมสิว ให้ผิวกลับมาเรียบเนียน ชนิดของเลเซอร์ที่นิยมใช้ได้แก่ Fractional Co2 Laser, Fraxel, Fine Scan, Fractional, Pico Laser และ e-matrix เป็นต้น

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี การทำเลเซอร์หลุมสิว ควรทำ 4-6 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างประมาณ 2-3 สัปดาห์ ทั้งนี้เลเซอร์บางชนิดหลังทำอาจส่งผลให้ผิวแห้งลอก ตกสะเก็ด ต้องอาศัยระยะเวลาในการพักฟื้น เลี่ยงการออกแดดจัด และทาครีมกันแดดทุกครั้ง จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้หน้าได้เลย หรือผู้ที่มีผิวหน้าไม่แข็งแรง แพ้ง่าย

ในการเลือกเลเซอร์หลุมสิวที่ไหนดี ควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ทำกับแพทย์โดยตรง มีเลเซอร์หลุมสิวราคาที่เหมาะสม ไม่แพงหรือถูกจนเกินไป และใช้เครื่องเลเซอร์ที่ได้มาตรฐาน จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีครับ

5.ผ่าตัดหลุมสิว

ผ่าตัดหลุมสิว

การผ่าตัดหลุมสิว เป็นการรักษาหลุมสิวด้วยวิธีการสร้างแผลใหม่ เพื่อให้ร่างกายกระตุ้นคอลลาเจน และฟื้นฟูผิวบริเวณที่เป็นหลุมสิวให้กลับตื้นขึ้น โดยการใช้เครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็กประมาณ 2-3 มม. มาตัดเย็บบริเวณผิวหนังที่เป็นหลุมสิว และดึงขอบผิวหนังทั้ง 2 ข้าง มาเย็บติดกันด้วยไหมที่ใช้ในการเย็บแผล เมื่อครบ 1 สัปดาห์คนไข้จะต้องกลับมาตัดไหมออก หลังจากผ่าตัดเย็บหลุมสิว จะมีรอยผ่าตัดเป็นเส้นตรง ต้องใช้เวลา 1-2 เดือน เพื่อรอให้ผิวหนังสมานเป็นเนื้อเดียวกัน

การผ่าตัดหลุมสิว เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนที่มีหลุมสิว Ice Pick Scar (หลุมสิวระดับรุนแรง) ที่มีขนาดความกว้างไม่เกิน 3 มม. เพราะหากหลุมสิวใหญ่เกินไป อาจทำให้แผลผ่าตัดไม่สวยงาม มีแผลเป็นที่มองเห็นได้ชัด

6. ฉีดฟิลเลอร์ รักษาหลุมสิว

ฉีดฟิลเลอร์ รักษาหลุมสิว

การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวเป็นการเติมเต็มผิวด้วยไฮยาลูโรนิค แอซิดที่มีคุณสมบัติเด่นในการอุ้มน้ำ เติมเต็มร่องลึก มาฉีดปรับสภาพผิวบริเวณหลุมสิวโดยจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 cc ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ครับ (ขึ้นอยู่กับขนาดหลุมสิวของคนไข้ ควรให้หมอประเมินใบหน้าก่อนทำ)

หลังฉีดหลุมสิวจะตื้นขึ้นทันทีประมาณ 70% เห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ โดยจะสังเกตได้ว่าผิวเรียบเนียนขึ้นใกล้เคียงกับผิวเดิม โดยไม่ทิ้งรอยแผล ไม่มีการตกสะเก็ด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรักษาหลุมสิวแบบเห็นผลไว ไม่มีเวลาพักฟื้น ต้องการใช้หน้าเลย

ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวจะเหมาะกับผู้ที่มีหลุมสิวประเภท Rolling scar (หลุมสิวระดับทั่วไป) และ Box Scar (หลุมสิวระดับปานกลาง) เนื่องจากหลุมสิว 2 ประเภทนี้จะไม่มีพังผืดเกาะใต้ผิวหนัง เป็นหลุมสิวตื้น ๆ เป็นแอ่งเว้าลงไปเพียงเล็กน้อย ถ้าหากคนไข้ต้องการบำรุงผิวให้แข็งแรง กระจ่างใส สามารถฉีดเมโสหน้าใส มาเด้คอลลาเจน เพื่อ Maintain ผิวควบคู่ไปด้วยก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นครับ

7. ฉีดเมโสหน้าใส รักษาหลุมสิว

ฉีดเมโสหน้าใส รักษาหลุมสิว

การฉีดเมโสหน้าใส กับ มาเด้คอลลาเจน แม้จะไม่ได้เป็นวิธีรักษาหลุมสิวโดยตรง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการบำรุงผิวให้แข็งแรงจากภายใน เพราะเมื่อเรามีพื้นฐานผิวแข็งแรง ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดหลุมสิวได้ครับ

หลังฉีดเมโสหน้าใส จะเริ่มเห็นผลประมาณ 3 วันหลังฉีด และจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน อยู่ได้นาน 1-2 เดือน หากต้องการเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ในช่วงเดือนแรกควรฉีดทุกสัปดาห์ หลังจากนั้นสามารถฉีดทุก ๆ 2 สัปดาห์เพื่อคงสภาพผิว

อ่านบทความเพิ่มเติม :

รักษาหลุมสิว ราคาเท่าไหร่ ?

รักษาหลุมสิว ราคาจะขึ้นอยู่กับแต่ละหัตถการครับ สำหรับที่ V Square Clinic จะมุ่งเน้นไปที่การรักษาหลุมสิวด้วยการปูพื้นฐานผิวให้แข็งแรง ฟื้นฟู Skin Barrier บำรุงผิวจากภายในให้ดูสุขภาพดีเป็นหลัก เมื่อผิวแข็งแรงก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวที่เป็นสาเหตุหลักของหลุมสิวครับ คนไข้จะเหมาะกับหัตถการไหน หมอจะเป็นคนประเมินและเลือกวิธีที่เหมาะสมในแต่ละเคส

ฉีดเมโสหน้าใส ราคา

ฉีดเมโสหน้าใส ราคา

ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ราคา

ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ราคาขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกนั้น ๆ รวมไปถึงยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ค่าฝีมือหมอครับ โดยทั่วไปฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ราคาเริ่มต้นที่ 14,000 บาท/cc ครับ

วิธีป้องกันการเกิดหลุมสิว

วิธีป้องกันการเกิดหลุมสิว

(การกด แกะ บีบสิวที่ไม่ถูกวิธี เป็นสาเหตุหลักของการเกิดหลุมสิว และอาจทำให้สิวกระจายเป็นวงกว้างได้)

  • เลี่ยงการแกะ กด บีบสิว เพราะจะทำให้เกิดเป็นหลุมสิว และอาจจะไปกระตุ้นให้สิวอักเสบลุกลาม หรือเกิดสิวเม็ดใหม่ตามมาได้
  • ล้างหน้าให้สะอาด โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าและบำรุงผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิว ไม่ทำให้ผิวอุดตัน
  • หากมีสิวระดับรุนแรง ควรเข้ารับการรักษาโดยแพทย์ ไม่ควรซื้อยามารักษาเอง เพื่อป้องกันสิวลุกลาม
  • เลี่ยงของทอด ของมัน ของหวาน ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ผัก ผลไม้ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว

การดูแลตนเองในช่วงการรักษาหลุมสิว

  • เลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดในการผลัดผิว เพื่อป้องกันผิวระคายเคือง แห้ง ลอก
  • หลีกเลี่ยงการจับหรือลูบหน้าบ่อย ๆ เพราะมืออาจมีเชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่อาจไปกระตุ้นการเกิดสิว
  • ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ เพราะแสงแดดเป็นตัวการทำร้ายผิว และควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า spf 50 ขึ้นไป เพื่อการป้องกันแสงแดดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
  • รักษาความสะอาด ล้างเครื่องสำอางออกให้หมด เพื่อไม่ให้สารเคมีตกค้าง

รักษาหลุมสิวที่ไหนดี

รักษาหลุมสิวที่ไหนดี by หมอวา
  • เลือกรักษาหลุมสิวที่ไหนดี ควรทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะแพทย์จะสามารถแก้ไขปัญหา วางแผนการรักษาได้ตรงจุด
  • คลินิกหรือสถานประกอบการต้องมีมาตรฐาน สังเกตได้จากการมีป้ายชื่อสถานพยาบาล เลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก และแสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
  • คลินิกสะอาด มีพื้นที่และห้องหัตถการกว้างขวาง อุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ได้รับการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือมีรอยแผลเป็นถาวรเดินทางสะดวกและมีที่จอดรถ หากมีปัญหาสามารถเข้ามาติดต่อคลินิกได้ทันทีครับ
  • ควรมีการนัดติดตามผลหลังทำเสมอ แพทย์ต้องให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว ก่อน – หลัง ทำหัตถการอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงการมีช่องทางออนไลน์ไว้ติดต่อ เช่น Facebook หรือ Line@ ที่คนไข้สามารถสอบถามข้อสงสัยกับหมอที่ทำเคสของตัวเองได้โดยตรงครับ
  • ไม่ควรจะดูรีวิวที่คลินิกโพสเพียงฝ่ายเดียว เพราะอาจจะคัดมาเฉพาะเคสที่สวยๆ แต่ของจริงอาจจะมีเคสหลุดเยอะ ทางที่ดีควรดูรีวิวจากที่คนไข้มาโพส feedback ในแหล่งที่เป็นกลาง (เป็นกลาง ในที่นี้หมายถึงแหล่งที่หากมีเคสหลุดมาโพสแล้วทางคลินิกไม่สามารถลบออกได้ เช่น รีวิวติดดาวในเฟสบุ๊ค รีวิวติดดาวใน google map รีวิวตาม website ต่างๆ เช่น wongnai pantip)

หลุมสิวหายเองได้ไหม ?

หลุมสิวสามารถหายเองได้ครับ แต่ต้องเป็นหลุมสิวระดับเล็กน้อย ไม่ลึกและกว้างมาก ซึ่งในบางเคสอาจรักษาด้วยตัวเองได้ เช่น การใช้ยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ การผลัดผิวด้วยกรดผลไม้ (Chemical peeling)เพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลานานในการรักษา เมื่อเทียบกับวิธีทางการแพทย์อื่น ๆ

สรุป

การรักษาหลุมสิวอย่างถูกวิธีจะช่วยลดความรุนแรงของหลุมสิวได้ ในเบื้องต้นควรเลี่ยงพฤติกรรมการแกะ กด บีบสิว ปล่อยให้สิวหายเองจนผิวยุบตัว รวมไปถึงการรักษาความสะอาดของผิวหน้าที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว

หากคนไข้ต้องการรักษาหลุมสิวให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี รวดเร็ว ควรปรึกษาแพทย์โดยตรงเพื่อให้แพทย์แนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสม โดยควรเลือกปรึกษาแพทย์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความคุ้มค่าและปลอดภัยครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 25 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า