ร้อยไหม pdo
ร้อยไหม PDO เป็นเทคนิคการยกกระชับผิวหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน บทความนี้หมอจะมาเจาะลึกว่า ร้อยไหม PDO คืออะไร ? ต่างจากการร้อยไหมแบบอื่นอย่างไร ? ร้อยไหม PDO เหมาะกับใคร ? ราคาเท่าไหร่ ? ร้อยไหมครั้งแรกเตรียมตัวอย่างไร ทุกข้อสงสัย หมอมีคำตอบให้ครับ
สารบัญ ร้อยไหม PDO
ร้อยไหม pdo คืออะไร ?
ร้อยไหม PDO คือ หัตถการเสริมความงามยกกระชับ ปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ด้วยการร้อยไหมละลายโพลีไดออกซาโนน (Polydioxanone) สอดเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจน และทำให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงชั้นผิวหนังมากขึ้น หลังร้อยไหม pdo จะเห็นว่าผิวมีความแน่นกระชับ เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ ใบหน้าเข้ารูปอย่างชัดเจน
ร้อยไหม pdo ต่างกับการร้อยไหมแบบอื่นอย่างไร ?
เมื่อเปรียบเทียบความต่างระหว่างวัสดุไหม PDO, PCL และ PLLA จะแตกต่างกันตรงที่ลักษณะ คุณสมบัติ และจุดเด่นของไหมแต่ละชนิด สามารถสรุปได้ดังนี้ครับ
- ไหม PDO (Polydioxanone) เป็นไหมชนิดแรกที่นำมาใช้ในวงการเสริมความงาม ลักษณะเป็นไหมเส้นสีน้ำเงิน ยืดหยุ่นสูง นิ่ม ไม่หัก ไม่เปราะ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี เวลาร้อยไหมเข้าไปแล้วจะไม่รู้สึกระคายเคือง
- ไหม PLLA (Poly-L-Lactic Acid) เป็นไหมที่พัฒนาต่อมาจากไหม PDO ลักษณะเป็นไหมเส้นสีขาว ทนต่อแรงดึงได้ดี แต่ไม่ค่อยยืดหยุ่น บาง เปราะ ขาดง่าย มีความเสี่ยงในการใช้เพราะไม่คงทน จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมครับ
- ไหม PCL (Polycaprolactone) เป็นวัสดุเส้นไหมใหม่ล่าสุด ลักษณะเป็นเส้นไหมสีขาว ยืดหยุ่นสูง แข็งทน จึงได้มีการนำ PLLA มาผสมในไหม PCL เพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างคอลลาเจนให้เส้นไหม PCL ด้วย ดังนั้น PCL+PLLA จึงเป็นไหมที่ดีที่สุดในขณะนี้
นอกจากความแตกต่างของวัสดุเส้นไหมที่หมอได้กล่าวไปแล้ว ไหม PDO ยังสามารถแบ่งประเภทตามลักษณะรูปทรงของเส้นไหม เช่น ร้อยไหมก้างปลา ไหมปากฉลาม ไหมกุหลาบ ไหมปิรันย่า ร้อยไหมล็อค ร้อยไหมค็อก ไหมมิ้น ร้อยไหมทอร์นาโด ไหมสปริง ร้อยไหมคอลลาเจน เป็นต้น โดยไหมแต่ละรูปทรงจะมีส่วนที่ทำให้ผลของการร้อยไหมแตกต่างกันไปด้วยครับ
ร้อยไหม pdo เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ไม่มีมิติ ต้องการปรับรูปหน้าเรียววีเชฟ กรอบหน้าชัดมากขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อย มีริ้วรอยเหี่ยวย่น แก้มห้อย คิ้วตก ตาตก มุมปากตก
- ผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ให้ผิวเฟิร์ม แน่นกระชับ เรียบเนียน ดูเต่งตึง
- ผู้ที่ดั้งแบน จมูกบาน จมูกเอียง สามารถร้อยไหมจมูก ช่วยปรับทรงจมูกให้คมชัด
- ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน ต้องการผลลัพธ์เร่งด่วน
สาเหตุที่ควรร้อยไหม pdo มีข้อดีอะไรบ้าง ?
ข้อดีของการร้อยไหม PDO หมอสรุปไว้ให้ 10 ข้อดังนี้ครับ
- ร้อยไหม PDO จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึงขึ้น
- สามารถช่วยยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยได้ โดยเฉพาะบริเวณแก้ม คาง และลำคอ
- สามารถช่วยลดริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องมุมปาก รอยตีนกา และร่องแก้ม
- เส้นไหมทำจากวัสดุ PDO มีความยืดหยุ่นสูง แข็งแรง ไม่เปราะขาดง่าย ร้อยง่าย บวมช้ำน้อย
- ไหม PDO เป็นไหมชนิดละลาย 100% สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง
- ไหม PDO ได้รับการรับรองจาก FDA และมีการใช้ในทางการแพทย์มานานหลายปี จึงมีความปลอดภัยสูงและแทบไม่มีผลข้างเคียง
- ร้อยไหมเป็นวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่ต้องพักฟื้นนาน และไม่ทิ้งรอยแผลเป็นหลังทำ
- เห็นผลไว ผลลัพธ์จากการร้อยไหม PDO สามารถสังเกตเห็นได้ทันทีหลังทำ และจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป
- ระยะเวลาในการทำสั้น ขั้นตอนไม่ซับซ้อน การร้อยไหม PDO ใช้เวลาทำประมาณ 30-60 นาที
- ราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับวิธีการอื่น ๆ ที่ให้ผลลัพธ์คล้ายกัน
บทความแนะนำ
ร้อยไหม pdo ครั้งแรกเตรียมตัวอย่างไร ?
- ศึกษาข้อมูลความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการร้อยไหม PDO อย่างละเอียด เช่น การเลือกคลินิก การเลือกหมอ และเทคนิคในการทำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย และช่วยลดความกังวล เกี่ยวกับผลข้างเคียงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
- ควรงดยาแอสไพริน, NSAIDs เช่น ibruprofen diclofenac ponstan เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ และควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาอยู่ก่อนที่จะหยุดยานั้น ๆ
- ควรงดวิตามิน St. John’s Wort, ginkgo biloba, primrose oil, garlic, ginseng, and Vitamin E เป็นเวลา 1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ
- ควรงดยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A), Retinols, Retinoids, Glycolic Acid, หรือครีมในกลุ่ม “Anti-Aging” ทุกชนิด เป็นเวลา 3 วันก่อนทำหัตถการ
- ควรงดการแว็กผิว ผลัดเซลล์ผิว การดึงขนหรือโกนขนในบริเวณนั้น ๆ เป็นเวลา 3 วันก่อนทำหัตถการ
- หากมีคอร์สทำหน้านวดหน้าหรือเลเซอร์ต่าง ๆ ที่ต้องทำเป็นประจำ ควรทำมาก่อนอย่างน้อย 3 วันก่อนร้อยไหม เพราะหลังทำต้องเว้นไปอีก 2 อาทิตย์
- หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่กินเป็นประจำอื่น ๆ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ
- ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชม. ก่อนทำ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายชนิด cardio
- ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชม. ก่อนทำ
ร้อยไหม pdo ใช้ไหมกี่เส้น ?
ร้อยไหม PDO โดยทั่วไป จะใช้ข้างละ 3-10 เส้น ขึ้นอยู่กับขนาดเนื้อแก้มของคนไข้ ความแน่นของผิว และความต้องการของแต่ละคนครับ ก่อนทำหมอจะประเมินจำนวนเส้นไหมตามความเหมาะสม ในกรณีที่คนไข้ต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นกว่าปกติ ก็สามารถใช้จำนวนเส้นที่เยอะขึ้นได้ คล้าย ๆ กับการยกของด้วยเชือกหลาย ๆ เส้นย่อมมั่นคงแข็งแรงขึ้น อยู่ได้นานขึ้นครับ
ร้อยไหม pdo ราคาเท่าไหร่ ?
ร้อยไหม PDO ราคา ขึ้นอยู่กับจำนวนเส้นไหมที่ใช้ เทคนิคของแพทย์ และโปรโมชันของแต่ละคลินิกครับ สำหรับที่ V Square Clinic ร้อยไหม ราคาเริ่มต้นที่ 8,900 บาท
ร้อยไหมก้างปลา PDO (4-5 เดือน)
8,900.- | 6 เส้น
13,000.- | 10 เส้น
ร้อยไหมก้างปลา PCL (1 ปี)
14,000.- | 4 เส้น
18,000.- | 6 เส้น
25,000.- | 10 เส้น
Mint Lift (6-8 เดือน)
15,000.- | 4 เส้น
25,000.- | 8 เส้น
35,000.- | 12 เส้น
Tesslift Soft (8-12 เดือน)
20,000.- | 4 เส้น
28,000.- | 6 เส้น
35,000.- | 8 เส้น
Tesslift Foxy Eye แก้ตาตก (4-5 เดือน)
25,000.- | 2 เส้น
40,000.- | 4 เส้น
ขั้นตอนการร้อยไหม pdo
- แพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวหน้าอย่างละเอียด เพื่อวิเคราะห์ปัญหาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคนไข้
- ทำความสะอาดผิว เตรียมผิวหน้าก่อนการทำร้อยไหม เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ใช้ยาชาเพื่อบรรเทาความรู้สึกเจ็บในบริเวณที่ทำการร้อยไหม
- แพทย์ทำการร้อยไหม ในตำแหน่งที่คนไข้มีปัญหาผิว ด้วยเทคนิคเฉพาะของแพทย์แต่ละบุคคล
- แพทย์แนะนำวิธีการปฏิบัติตัวหลังร้อยไหมอย่างใกล้ชิด และนัดหมายติดตามผลการร้อยไหม
การดูแลหลังร้อยไหม pdo
- หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
- ไม่ควรอ้าปากกว้าง ๆ เช่น การอ้าปากทำฟัน หรือ การแปรงฟันแรง ๆ ในระยะ 1 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงการดึงรั้งของเส้นไหมในผิว
- หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที (ปกติคลินิกจะมียาแก้ปวด, ลดบวมให้กินด้วย)
- งดยิงเลเซอร์หรือหัตถการอื่น ๆ ที่ใช้ความร้อนลงผิวชั้นลึก เป็นเวลา 1 เดือน
- แนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ วันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อรักษาสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้น เต่งตึง ดูสุขภาพดีอยู่เสมอ
- หลังร้อยไหมห้ามกินอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ เช่น อาหารหมักดอง อาหารรสจัด งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ รวมถึงเลี่ยงการทานอาหารประเภทที่ต้องนั่งหน้าเตา ปิ้งย่าง ชาบู
รวมคำถามร้อยไหม pdo
ร้อยไหม pdo เจ็บไหม ?
คนไข้หลายคนกังวลว่า ร้อยไหม เจ็บไหม ? ฉีดยาชาได้หรือเปล่า ? จริง ๆ แล้วก่อนทำหมอจะมีการฉีดยาชาให้ครับ ทำให้ในระหว่างการร้อยไหมไม่รู้สึกเจ็บ จะเจ็บแค่ตอนฉีดยาชาเท่านั้น
ร้อยไหม pdo กี่วันเห็นผล ?
ร้อยไหมกี่วันเห็นผล หลังร้อยไหม pdo จะสามารถเห็นผลหลังทำทันทีครับ และอาจมีอาการบวมแดง หรือเขียวช้ำเล็กน้อย ประมาณ 3-4 วันแรกจะบวมมากขึ้น แต่อาการบวมจะยุบลงได้เองในช่วง 14 วัน และใบหน้าจะเข้าที่ได้รูปชัดเจนในช่วงประมาณ 1 เดือนครับ
ร้อยไหม pdo อยู่ได้นานไหม ?
ผลลัพธ์หลังร้อยไหม pdo สามารถอยู่ได้ประมาณ 4-5 เดือน และจะละลายหมดใน 8 เดือน
สรุป
ร้อยไหม PDO เป็นหัตถการยกกระชับผิว โดยการใช้ไหมละลายที่เรียกว่า Polydioxanone (PDO) ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวหนัง ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง กระชับ ริ้วรอยลดลง และยังช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
ใครที่กำลังมองหาคลินิก ร้อยไหมหน้าเรียว ที่ไหนดี ที่ V Square Clinic ทีมแพทย์มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า ประเมิน วิเคราะห์ปัญหา วางแผน ออกแบบการร้อยไหมให้เหมาะสมกับคนไข้ ใช้เทคนิคพิเศษ บวมช้ำน้อย หลังทำมีการนัดติดตามผลทุกเคส มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัยครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ