Skin Booster

Skin Booster

ปัจจุบันเทรนด์ผิวสวย ผิวใส มาแรงมากครับ ประกอบกับมีหัตถการความงามอย่างการทำ Skin Booster ที่ช่วยฟื้นฟูผิว ให้กลับมาสดใส ผิวเด้ง ผิวเด็ก ถูกพัฒนาและผลิตขึ้นหลายยี่ห้อ โดยแต่ละยี่ห้อมีข้อดี และจุดเด่นที่แตกต่างกัน  

หากอยากมีผิวสว่างใส แข็งแรง ผิวฉ่ำ ควรเลือกทำตัวไหนดี แต่ละยี่ห้อราคาแตกต่างกันอย่างไร ? หมอทำสรุปข้อมูล หัตถการ Skin Booster ที่ได้รับความนิยมรวมไว้ให้ในบทความนี้ ใครที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูล เพื่อเปรียบความเหมาะสม ก่อนตัดสินใจเข้าใช้บริการได้เลยครับ 

สารบัญ  Skin Booster 

  1. Skin Booster คืออะไร ? 
  2. Skin Booster อันตรายไหม ?
  3. Skin Booster ช่วยอะไรได้บ้าง ?
  4. Skin Booster ข้อดี ข้อเสีย
  5. Skin Booster เหมาะกับใคร ?
  6. ฉีด Skin Booster ยี่ห้อไหนดี ?
  7. ฉีด Skin Booster ตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
  8. ขั้นตอนการฉีด Skin Booster
  9. ฉีด Skin Booster ราคาเท่าไหร่ ?
  10. Skin Booster ฉีดกี่ครั้งเห็นผล ฉีดบ่อยแค่ไหน ?
  11. ฉีด Skin Booster ที่ไหนดี ?
  12. Skin Booster ต่างกับการทาครีมอย่างไร ?
  13. ฉีด Skin Booster เจ็บไหม ?

Skin Booster คืออะไร ? 

Skin Booster (สกิน-บูส-เตอร์) คือ การฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายใน เพื่อให้ผิวมีความแข็งแรงสุขภาพดี ทั้งในเรื่องของความกระจ่างใส ความเนียนนุ่มชุ่มชื้น รวมถึงลดริ้วรอย  

การทำสกินบูสเตอร์โดยส่วนใหญ่จะเป็นการเติมเต็มผิวด้วยสารเติมเต็มในกลุ่ม HA หรือHyaluronic Acid รวมถึงและสารอาหารผิวในกลุ่มอื่น ๆ ที่สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ใต้ผิวหนังเพื่อให้ผิวมีความแข็งแรง อ่อนเยาว์ และยังเป็นการปกป้องผิวจากมลภาวะ ช่วยให้การทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ทำงานได้อย่างปกติ

รวมงานผิว 2024 Biostimulator ตัวช่วยผิวสวย Sculptra Gouri Radiesse

Skin Booster อันตรายไหม ?

เนื่องจากการทำ Skin Booster ถูกพูดถึงมากขึ้น ทำให้หลายคนมีความสงสัยเรื่องความปลอดภัย  

ซึ่งจริง ๆ การทำ Skin Booster มีความปลอดภัยครับ หากกระบวนการและขั้นตอนอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้ตัวยาที่นำเข้าอย่างถูกกฎหมาย

ในทางกลับกันหากทำ Skin Booster โดยการใช้ตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน ซื้อตัวยามาฉีดเอง หรือทำในคลินิกเถื่อน หมอปลอม ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายได้ เช่น ผิวอักเสบ ติดเชื้อ ดังนั้นจึงต้องเลือกคลินิกให้ดี มั่นใจว่าทำหัตถการด้วยแล้วปลอดภัยครับ


Skin Booster ช่วยอะไรได้บ้าง ?

หากคนไข้ทำ Skin Booster โดยเลือกใช้ตัวยาที่เหมาะกับสภาพผิว ตัวยาที่มีคุณภาพ และทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ จะสามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างตรงจุด ได้ผลลัพธ์หลังทำ Skin Booster หลายอย่างครับ เช่น  

  • ช่วยทำให้ผิวมีความแข็งแรง ชุ่มชื้นขึ้นจากภายใน
  • ช่วยให้ผิวดูกระจ่าง ฉ่ำน้ำมากขึ้น 
  • ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ ร่วมถึงช่วยป้องกันริ้วรอยในอนาคต
  • ช่วยปรับผิวให้มีความกระชับ เต่งตึง อิ่มฟู
  • ช่วยกระชับรูขุมขนกว้าง  รอยสิว รวมไปถึงหลุมสิว
  • ช่วยทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  • ช่วยปรับผิวให้มีดูความอ่อนเยาว์ ผิวเด็ก 

Skin Booster ข้อดี-ข้อเสีย

เป้าหมายของการทำ Skin Booster คือการเติมความชุ่มชื้นและเรียกคืนความกระจ่างใสให้กับผิวพรรณ ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่างด้วยครับ สำหรับข้อดี-ข้อเสีย หมอสรุปมาให้ดังนี้ 

  • ข้อดีของ Skin Booster
  1. การทำ Skin Booster สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวได้เร็ว 
  2. กระบวนการทำงานของ Skin Booster จะสามารถช่วยการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน นอกจากส่งผลให้ให้ ผิวกระชับและดูอ่อนเยาว์ขึ้นแล้ว ยังช่วยลดรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยต่าง ๆ ตลอดจนชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ 
  3. หลัง Skin Booster จะสามารถคงผลลัพธ์อยู่นานประมาณ 6-12 เดือน และสามารถกลับมาทำซ้ำได้เรื่อย ๆ 
  4. การทำ Skin Booster ให้ผลลัพธ์ที่ดี เป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้หน้าดูแปลกหรือผิดรูปร่าง แต่กลับช่วยให้ใบหน้าดูสดใสมากขึ้น 
  • ข้อเสียของ Skin Booster
  1. การทำ Skin Booster มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากตัวยาต้องผ่านขั้นตอนการฉีดเข้าร่างกาย จึงต้องใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูผิว ที่สำคัญต้องทำโดยแพทย์มืออาชีพ 
  2. ผลลัพธ์อาจไม่เหมาะกับบางราย โดยเฉพาะเคสที่มีปัญหาผิวรุนแรง มีสิวอักเสบ สิวอุดตัน หรือปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง ควรทำการรักษาเฉพาะทางกับแพทย์โรคผิวหนังก่อน 

Skin Booster เหมาะกับใคร ? 

Skin Booster เป็นหัตถการฟื้นฟูผิว ที่เหมาะสำหรับกลุ่มคนดังต่อไปนี้

  1. ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น Skin Booster จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวดูกระจ่างใส นุ่มนวล และมีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวระยะยาว
  2. ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยก่อนวัย รอยเหี่ยวย่น Skin Booster สูตรที่มีส่วนประกอบของสาร Hyaluronic Acid จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลง
  3. ผู้ที่ต้องการผิวสดใส การทำ Skin Booster จะช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส มีชีวิตชีวาขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวที่ดูสดชื่น อิ่มน้ำ ฉ่ำวาว 
  4. ผู้สูงอายุหรือผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวเสื่อมสภาพตามวัย กระบวนการผลิตคอลลาเจนจะลดน้อยถอยลงตามอายุ Skin Booster จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการช่วยชะลอวัยและฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย

ฉีด Skin Booster ยี่ห้อไหนดี ?

ปัจจุบันมี Skin Booster หลากหลายชนิด หลากหลายยี่ห้อที่น่าสนใจ โดยแต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนี้

Filler- Skin Booster ( Hyaluronic Acid ) 

Fille r- Skin Booster จะเป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เข้าสู่ชั้นผิวเพื่มเติมความชุ่มชื้น ด้วยคุณสมบัติของ HA ที่สามารถอุ้มน้ำได้ดี จึงสามารถช่วยให้หน้าอิ่มฟู ฉ่ำวาว ดูสุขภาพดี ซึ่ง Skin Booster ที่เป็น HA จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ cross-linked และ non-cross-linked  

สำหรับ ฟิลเลอร์ Skin Booster จะเป็นแบบ cross-linked ครับ สาร HA จะความเข้มข้นและหนาแน่นสูง   มีขนาดโมเลกุลที่ใหญ่กว่าประเภท non-cross-linked  

ข้อดีคือของ Filler-Skin Booster แบบ  cross-linked คือคงผลลัพธ์ได้นาน สามารถอยู่บนผิวหน้าได้ ประมาณ 6-9 เดือน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นฉ่ำวาว ให้กับผิวได้เป็นอย่างดี ซึ่งยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดฟื้นฟูผิว ได้แก่  Restylane รุ่น Vital Light, Juvederm รุ่น Volite ,Belotero รุ่น  Revive  และ  Flore รุ่น AQUA-S ครับ 

  • Restylane รุ่น Vital Light เป็นฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ อนุภาคเล็ก กระจายในชั้นผิวได้ดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปัญหาผิวขาดน้ำ และทำให้ผิวดูฉ่ำขึ้นครับ 
  • Juvederm  Volite เป็นฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำเช่นกัน มีความหนืดกว่า vital light เล็กน้อย ช่วยฉีดบูสต์ผิวให้ชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำและเรียบเนียน 
  • Belotero Revive ฟิลเลอร์งานผิวตัวแรกของโลก เป็นมีทั้งสาร HA+Glycerol ที่ช่วยให้อิ่มฟู และฉ่ำวาวขึ้น หรือผิวกระจก ช่วยเพิ่มคุณภาพผิว (Skin Quality) ฟื้นฟูผิว ให้เรียบเนียน ชุ่มชื้น และให้ความเด้งกระชับ
  • Floreรุ่น  AQUA-S ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลขนาดเล็ก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ปรับสภาพผิวทั่วหน้า ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ในผิวชั้นตื้น  

ส่วน Skin Booster ประเภท  non-cross-linked ที่มีสาร มี Hyaluronic Acid เป็นองค์ประกอบหลัก หรือที่รู้จักกันดีในกลุ่มผลิตภัณฑ์ฉีดเมโสหน้าใส เช่น มาเด้คอลลาเจน(MADE Collagen), Filorga และ Revs หลังฉีดสามารถช่วยฟื้นฟูผิวแห้งขาดน้ำให้ชุ่มชื่นขึ้นได้ดี ตัวยาจะค่อนข้างกระจายตัว เนื้อเบาบาง จึงคงผลลัพธ์ได้สั้นกว่า Filler-Skin Booster และราคาจะถูกกว่าครับ 

PN – Rejuran Skin Booster

Rejuran เป็น Skin Booster ที่มีส่วนประกอบหลักคือ  Polynucleotide (PN) บริสุทธิ์ โดย PN ใน Rejuran มีความเข้มข้น 2% เป็นสารที่สกัดได้จาก DNA ของปลาแซลมอน 

Polynucleotide หรือ PN มีคุณสมบัติในการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังที่เสียหาย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยเพิ่มความกระชับ ยืดหยุ่น ลดริ้วรอยแห่งวัย ชะลอกระบวนการเสื่อมของเซลล์ผิวและช่วยชะลอวัยผิวได้ดี จึงสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ผิวฟู ดูฉ่ำวาวเป็นผิวกระจก ผิวดูกระจ่างใส สดชื่น

Rejuran Skin Booster

Rejuran เหมาะผู้ที่มีปัญหาผิวแก่ก่อนวัย มีริ้วรอย รอยหยาบกร้าน ผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ ต้องการเสริมความนุ่มชุ่มชื้น เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว

Exosome Skin Booster

Exosome เป็นอีก Skin Booster ที่ได้รับความนิยม มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูอักเสบได้ดี เพราะเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มี Growth Factor สูง โมเลกุลเล็กมาก หลังฉีดสามารถซึมเข้าผิวหน้าได้ทุกรูขุมขน ช่วยให้ผิวหน้าดูเด็กลง ฟื้นฟูผิวที่อักเสบได้ดี ช่วยในการลดริ้วรอย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้ครับ 

Exosome Skin Booster

Sculptra นวัตกรรมฟื้นฟู 

Sculptra เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถกระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟู ยกกระชับผิว ช่วยให้ผิวหน้ากลับมาเปล่งปลั่งสดใสได้  

Sculptra ผลิตจากกรดโพลีแลกติก (poly-L-lactic acid : PLLA) ประโยชน์เรื่องการกระตุ้นคอลลาเจน Type 1 เสริมสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างผิว ช่วยให้ผิวแน่นอิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย

Sculptra Skin Booster

Gouri

Gouri เป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวได้ ช่วยให้ผิวดูเต่งตึงขึ้น มีส่วนผสมหลักเป็น Polycaprolactone (PCL) หรือไหมน้ำ เน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen Stimulation) ช่วยให้ผิวแน่นกระชับ เรียบเนียน ลดริ้วรอย และยังช่วยให้ผิวสามารถรักษาความชุ่มชื้นได้ดีขึ้นครับ

Gouri Skin Booster

Radiesse

Radiesse เป็น Skin Booster ที่มีส่วนประกอบสำคัญคือแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (CaHA) มีคุณสมบัติในการช่วยฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม หรือที่เรียกว่า Regenerative Biostimulator ที่ทำให้ผิวคุณภาพดีขึ้น กระชับขึ้น และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น จึงสามารถช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ หลังฉีดได้เป็นอย่างดี  

Radiesse Skin Booster

Skin Booster แต่ละยี่ห้อที่กล่าวมาล้วนมีข้อดีครับ ส่วนใครจะเหมาะกับตัวไหน ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวก่อนตัดสินใจฉีดครับ 


ฉีด Skin Booster ตำแหน่งไหนได้บ้าง ? 

ใบหน้า-ผิวหน้าเพิ่มความชุ่มชื้น  ลดเลือนริ้วรอย และปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดูสุขภาพดี อ่อนเยาว์ ดูสดใส
ลำคอ ช่วยลดเลือนริ้วรอย ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เกิดริ้วรอยได้ยากขึ้น
หลังมือ ช่วยให้ผิวหลังมือดูไม่เหี่ยว ลดริ้วรอย ทำให้หลังมือดูอ่อนเยาว์
แขน,ขาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน
เนินอก-หน้าท้อง ช่วยให้ผิวบริเวณนี้ดูเนียนเรียบขึ้น

ขั้นตอนการฉีด Skin Booster

ขั้นตอนการฉีด Skin Booster แบ่งออกเป็น 3 ช่วงดังนี้ 

  • ขั้นตอนการเตรียมผิวก่อนฉีด Skin Booster
    • ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิว โดยแพทย์จะแนะนำสูตร ปริมาณ และความถี่ในการฉีดที่เหมาะสม
    • ก่อนการฉีด Skin Booster ทุกครั้งจะมีการทำความสะอาดผิวบริเวณที่ทำ หากแต่งหน้าจะต้องเช็ดเครื่องสำอางออกก่อนครับ เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ ในบางเคสอาจจะใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความรู้สึกเจ็บลง  
  • ขั้นตอนการฉีด Skin Booster

แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีด Skin Booster เข้าไปในชั้นผิวหนัง โดยเทคนิคการฉีดและระดับความลึกของการฉีด จะขึ้นอยู่กับชนิดของ Skin Booster ที่ใช้ และบริเวณที่ฉีดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับปัญหา

  • ขั้นตอนการดูแลหลังการฉีด Skin Booster

หลังฉีด Skin Booster อาจมีอาการบวมหรือเจ็บผิว โดยทั่วไปแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองเพิ่มเติม เช่น 

  • หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา หรือบีบนวดบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 1-2 วัน
  • งดการขัด สครับผิวบริเวณที่ฉีด Skin Booster แรง ๆ 
  • งดใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองบนผิวบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 1 คืน
  • หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ซาวน่า ออนเซ็น หรือการอาบน้ำร้อนเป็นเวลาอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายร้อนมาก ๆ เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง 
  • แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดสม่ำเสมอ โดยควรเลือกครีมกันที่มี SPF สูงเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB และหลีกเลี่ยงการออกแดดจัด
  • ควรดื่มน้ำมาก ๆ ให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและซัพพอร์ตกระบวนการฟื้นฟูผิว

ฉีด Skin Booster ราคาเท่าไหร่ ?

ฉีด Skin Booster ราคาจะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและปริมาณที่ใช้ครับ หมอจะช่วยประเมินและแนะนำ ให้เหมาะกับปัญหาผิวและงบประมาณของแต่ละคน

รายการจำนวนราคา
Rejuran2 CC9,900
4 CC19,800
6 CC29,700
8 CC36,000
Gouri1 CC12,000
2 CC22,000
4 CC42,000
Sculptra10 CC29,000
20 CC58,000
ASCE (Exosome)1 ครั้ง9,500
คอร์ส 3 ครั้ง26,500
คอร์์ส 5 ครั้ง42,500
Belotero Revive(Skin booster)1 CC14,000
Restylane Vital light(Skin booster)1-2 CC14,000-16,000
Juvederm volite(Skin booster)1-2 CC14,000-16,000
Flore AQUA-S (Skin booster)1-2 CC14,000-16,000
Radiesse2 กล่อง64,800

Skin Booster ฉีดกี่ครั้งเห็นผล ฉีดบ่อยแค่ไหน ?

หลังฉีด Skin Booster จะเริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกในบางส่วน จากนั้นจะค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น ตามคุณสมบัติของตัวยาSkin Booster ที่เลือกใช้ ในกรณีที่มีปัญหาผิวมาก ๆ ก็อาจจะต้องฉีดมากกว่า 1 ครั้ง ตามคำแนะนำของแพทย์


ฉีด Skin Booster ที่ไหนดี ?

การเลือกสถานที่หรือคลินิกเสริมความงาม ฉีด Skin Booster ที่ดี ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้

  • เป็นคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย มีใบประกอบโรคศิลป์และใบรับรองมาตรฐาน
  • มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและมีประสบการณ์ในการฉีด Skin Booster โดยเฉพาะ
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ Skin Booster ของแท้ มีการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. พร้อมทั้งมีฉลากภาษาไทยชัดเจน
  • สถานที่สะอาด ปลอดภัย ใช้เข็มปลอดเชื้อสำหรับแต่ละบุคคล และมีมาตรการป้องกันการติดเชื้อที่ดี
  • พร้อมให้คำปรึกษา มีการประเมินสภาพผิวและให้ข้อมูลครบถ้วนก่อนการรักษา ไม่หลอกให้ทำโดยไม่จำเป็น
  • มีการเปิดเผยราคาที่ชัดเจน ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงหรือบังคับซื้อแพ็คเกจ ราคาควรเหมาะสมกับคุณภาพและบริการที่ได้รับ
  • มีความรับผิดชอบหลังการรักษา เช่น การนัดตรวจติดตามอาการ การให้คำแนะนำในการดูแลผิว หรือรับผิดชอบหากเกิดภาวะแทรกซ้อน
  • มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงในแง่บวก ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ

ที่ V Square Clinic จะเลือกใช้ตัวยา ใช้ผลิตภัณฑ์ Skin Booster ที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ ปลอดภัย สั่งซื้อจากบริษัทที่นำเข้าอย่างถูกกฎหมาย ให้บริการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ก่อนฉีดแพทย์จะประเมินปัญหาผิวหน้าและเลือกสูตรที่เหมาะกับแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและตรงตามความต้องการของคนไข้ครับ       


Skin Booster ต่างกับการทาครีมอย่างไร ?

Skin Booster และการทาครีมเป็นวิธีการบำรุงผิวที่แตกต่างกัน ดังนี้

ส่วนผสมหลักการซึมเข้าสู่ผิวระยะเวลาการเห็นผลราคา
Skin Boosterมีส่วนผสมหลักคือ กรดไฮยาลูโรนิค เป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังโดยตรง ส่งผลให้ผิวชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้เร็ว บางยี่ห้อสามารถเห็นผลได้หลังทำทันที 20-30 % และจะค่อยเห็นผลชัดเจนขึ้น ในช่วง 1-2 สัปดาห์  มีราคา เริ่มต้นที่ประมาณ 2,500-20,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับตัวยาที่เลือกใช้
การทาครีมอาจมีส่วนผสมหลากหลาย เช่น วิตามิน เซรามิด สารสกัดจากธรรมชาติ ต้องใช้เวลาให้ส่วนผสมค่อยๆซึมเข้าสู่ผิว อาจไม่ลึกเท่า Skin Boosterต้องใช้อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องเป็นประจำ ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้น ใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือนขึ้นไปมีหลายระดับราคา ตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักหมื่น ขึ้นกับแบรนด์และส่วนผสม

โดยสรุป การใช้ครีมบำรุงเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกในการดูแลผิวก็จริงครับ แต่ครีมจะใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่การทำ Skin Booster สารบำรุงต่าง ๆ จะสามารถเข้าถึงชั้นผิวหนังได้ลึกขึ้น ทำให้เห็นผลได้ชัดเจนและรวดเร็วกว่าการทาครีมมาก เหมาะผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วนครับ 


ฉีด Skin Booster เจ็บไหม ? 

การฉีด Skin Booster ไม่ได้เจ็บมากครับ รวมมีขั้นตอนการฉีดที่ช่วยลดความเจ็บลง และยังขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดด้วย แพทย์ที่มีประสบการณ์ก็จะมีเทคนิคการฉีดที่ช่วยลดความเจ็บและลดรอยช้ำหลังฉีดลงได้


สรุปเรื่องการฉีด Skin Booster

การทำ Skin Booster ถือหนึ่งทางเลือกในการฟื้นฟูผิว ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็ว ใครที่มีปัญหาผิวขาดน้ำ แห้งกร้าน หยาบกระด้าง หรือหมองคล้ำ การทำ Skin Booster ตอบโจทย์ครับ และเป็นวิธีที่หมอแนะนำ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำยี่ห้อไหน ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินสภาพผิว เลือกตัวยา ที่เหมาะกับปัญหาของตัวเอง ภายใต้ขั้นตอนการทำที่เหมาะสม ปลอดภัย ในคลินิกได้มาตรฐานครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 26 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า