กรดไฮยาลูรอนิค Hyaluronic Acid

ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid)

ไฮยาลูรอนหรือกรดไฮยาลูรอนิค น่าจะเป็นคำที่หลายคนคุ้นหู ทั้งจากวงการความงามและตามโฆษณาครีมต่างๆ แต่ทราบหรือไม่ว่าจริงๆ แล้วกรดไฮยาลูรอน คืออะไร? มีสรรพคุณสร้างความชุ่มชื้น ชะลอความแก่ สร้างอนุมูลอิสระได้จริงหรือไม่ หมอมีคำตอบในบทความนี้ครับ

ไฮยาลูรอนิค คือ ?

กรดไฮยาลูรอน หรือ กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) เรียกกันสั้นๆว่า “HA” เป็นสารธรรมชาติชนิดหนึ่ง ที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะบริเวณดวงตาและข้อต่อจะพบว่ามี HA เข้มข้นสูงสุด มีส่วนสำคัญในการเพิ่มความต้านทานต่อการเสียดสี โดยเฉพาะที่ ข้อต่อ ข้อเข่า

ต่อมาจึงมีการคิดค้น “กรดไฮยาลูรอนสังเคราะห์” เพื่อทดแทนไฮยาลูโรนิค เอซิด ที่ร่างกายสร้างขึ้นโดยมีคุณสมบัติเด่นในด้านการอุ้มน้ำได้ดี ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น รักษาความชุ่มชื้น ป้องกันริ้วรอยบนผิวหนัง เช่น ริ้วรอยที่ร่องแก้มและบริเวณรอบดวงตา ที่มักปรากฏชัดขึ้นบนใบหน้า จากการแสดงสีหน้า อารมณ์ การขมวดคิ้ว รวมถึงมีการนำไฮยาลูรอน มาใช้สำหรับโรคข้อต่างๆ ด้วยครับ

ชนิดของไฮยาลูรอน

นอกจาก Hyaluronic Acid ยังมีไฮยาลูรอนชนิดอื่น ๆ เช่น

  • Hydrolyzed Hyaluronic Acid ช่วยรักษาและเพิ่มความชุ่มชื้นภายในผิว เหมาะกับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสม
  • Sodium Hyaluronate ช่วยดึงน้ำจากภายนอกเข้าสู่ผิวและช่วยสร้างฟิล์มบนผิวเพื่อป้องกันการระเหยออกของน้ำ มักจะเป็นส่วนผสมในเซรั่ม เหมาะกับผิวธรรมดาที่ไม่ได้ต้องการการบำรุงมาก
  • Sodium Hyaluronate Crosspolymer ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นที่ผิวชั้นนอกได้ดี ป้องกันน้ำระเหยออกจากผิว โดยการสร้างฟิล์มให้ความชุ่มชื้น
  • Sodium Acetylated Hyaluronate ช่วยทำให้ความชุ่มชื้นเกาะติดที่ผิวได้ดี เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง ต้องการความชุ่มชื้นมาก
  • Potassium Hyaluronate เพิ่มความชุ่มชื้นจากผิวด้านในไปยังผิวด้านนอก รักษาระดับความชุ่มชื้นในชั้นผิว
  • Hydroxypropyltrimonium Hyaluronate ช่วยสร้างชั้นฟิล์มเคลือบผิว เพื่อกักเก็บน้ำ รักษาความชุ่มชื้น
  • Hydrolyzed Sodium Hyaluronate โมเลกุลขนาดเล็กมาก ให้ความชุ่มชื้นเข้าสู่ภายในผิวได้ลึกถึงชั้น epidermis และ dermis ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นจากภายใน

กระบวนการทำงานของไฮยาลูรอน

กรดไฮยาลูรอนจัดอยู่ในกลุ่มสารประกอบที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ (Polymer) ที่สามารถเชื่อมโยงองค์ประกอบทางเคมีอื่น ๆ ช่วยดึงดูดและจับกับโมเลกุลของน้ำและเพิ่มปริมาณน้ำในผิวหนัง เพิ่มความชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มความมันบนผิวชั้นนอก

ไฮยาลูรอน-1

ไฮยาลูรอนคอยยึดคอลลาเจนไว้ด้วยกัน ซึ่งคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวหนัง ผม เล็บ กระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น จะพบกระจายอยู่ทั่วไปในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เนื้อเยื่อบุผิว เนื้อเยื่อประสาท นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่ม Aquaporin-3 ซึ่งเป็นช่องทางการไหลของน้ำสู่ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น และควบคุมการยืดหยุ่นของผิวให้ดียิ่งขึ้น

เปรียบเทียบไฮยาลูรอนกับสารบำรุงชนิดอื่น

โดยทั่วไปในครีมหรือเซรั่มต่าง ๆ จะมีการผสมสารบำรุงต่าง ๆ ที่ก็จะออกฤทธิ์หรือให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปครับ หมอจะยกตัวอย่างสารตัวที่เห็นบ่อย ๆ ว่ามีประโยชน์อย่างไร ต่างกับไฮยาลูรอนไหม

  • Aquaporin ช่วยเติมน้ำให้ผิว รักษาระดับความชุ่มชื้นเพื่อให้ผิวเนียนนุ่มและมีความยืดหยุ่น
  • Glycerol มีคุณสมบัติในการดูดหรือกักเก็บความชื้นเข้าสู่ผิว ช่วยให้สารบำรุงอื่น ๆ ซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ดีขึ้น และกระตุ้น การทำงานของ Aquaporin
  • Retinol สารในกลุ่มอนุพันธ์ของวิตามิน A ตัวนี้จะพบบ่อย ๆ ในครีมลดเลือนริ้วรอย (Anti-Aging) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันของรูขุมขน ลดสิว
  • Arbutin ช่วยลดเม็ดสี แก้ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ทำให้ผิวกระจ่างใส สม่ำเสมอมากขึ้น
  • Vitamin มีหลายชนิด เช่น วิตามิน C, วิตามิน E ช่วยเรื่องบำรุงผิวหน้า ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันแสงแดด ทำให้ผิวกระจ่างใส มีน้ำมีนวล

จะเห็นได้ว่าสารบำรุงแต่ละตัวก็จะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องที่แตกต่างกันไปครับ การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีปัญหาแบบไหน สภาพผิวเป็นอย่างไร แต่ไฮยาลูรอน ถือเป็นฐานที่สำคัญของโครงสร้างผิว ทำให้เนื้อเยื่อเติบโตได้ และช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย

Vsquare_tips

ข้อควรรู้ : สำหรับคนที่ต้องการงานผิว ความชุ่มชื้นถือเป็นสิ่งสำคัญครับ เพราะผิวที่แห้งกร้าน นอกจากจะทำให้ผิวไม่เรียบเนียน มีรูขุมขนกว้าง ยังทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอ เสี่ยงต่อการถูกทำลายจากสภาพแวดล้อมภายนอก ซึ่งนำไปสู่ปัญหาผิวอื่น ๆ เช่น สิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือริ้วรอย

กรดไฮยาลูรอนนำมาใช้อะไรได้บ้าง ?

การใช้ไฮยาลูรอนเป็นส่วนผสมในครีม
  • เป็นส่วนผสมของครีมบำรุง/เซรั่ม

ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าในครีมหรือเซรั่มหลาย ๆ ตัว ทั้งครีมบำรุงผิว, Eye creams มักมีส่วนประกอบของไฮยาลูรอน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่นและมอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizers) ให้แก่ผิว โดยมีการพัฒนาทำให้กรดไฮยาลูรอนมีขนาดโมเลกุลเล็กลงจนสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้จากภายนอกครับ

  • Sheet masks สำหรับมาส์กหน้า

การมาส์กหน้า จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว กำจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายออก ในมาส์กหน้าที่มีส่วนผสมของ hyaluronic acid จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น กักเก็บน้ำไว้ในผิว

  • Cleansers

ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าหลาย ๆ ตัวก็มีส่วนผสมของ hyaluronic acid ช่วยทำสามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยน ผิวไม่แห้ง ไม่ตึง หรือสูญเสียความชุ่มชื้นไป

  • Lip treatments

ริมฝีปากเป็นอีกหนึ่งจุดที่บอบบางและแห้งแตกง่าย ในลิปบำรุงที่มีไฮยาลูรอน จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ทำให้ริมฝีปากนุ่มและเรียบเรียน

  • การฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ก็เป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนอีกชนิดหนึ่งครับ มีลักษณะเป็นเนื้อเจล ใช้ฉีดเพื่อเสริมชั้นกระดูก ส่วนที่เนื้อยุบลงไปจากอายุที่มากขึ้น ลดริ้วรอย หรือจะใช้เสริมส่วนที่มีปัญหาบนใบหน้า เช่น เสริมคาง เสริมขมับ เสริมหน้าผาก ซึ่งถ้าเทียบกับการทาครีมที่มีกรดไฮยาลูรอนแบบทั่วไปแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและเห็นผลลัพธ์ดีกว่ามากครับ

ฟิลเลอร์สามารถใช้ฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า 7 จุด ที่ฉีดแล้วเห็นผลชัดเจนที่สุด ได้แก่ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์จมูก

Vsquare_tips

ข้อควรรู้ : ไฮยาลูรอน กินได้ไหม ? สามารถกินได้ครับ มีอยู่ในส่วนผสมของอาหารเสริม วิตามิน หรือตัวยาต่าง ๆ ที่ช่วยในการรักษาโรคด้วย

ฟิลเลอร์สามารถใช้ฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า 7 จุด ที่ฉีดแล้วเห็นผลชัดเจนที่สุด ได้แก่ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์จมูก

ไฮยาลูรอน อันตรายไหม ?

“Hyaluronic Acid : HA” ไฮยาลูรอนหรือกรดไฮยาลูโรนิก เป็นสารที่มีการนำมาใช้กันยาวนาน โดยเป็นโมเลกุลของน้ำตาลชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า polysaccharide มีอยู่ในเนื้อเยื่อของร่างกาย โดยปกติร่างกายมนุษย์จะมีไฮยาลูรอนอยู่แล้ว จึงไม่ใช่สารที่อันตรายครับ

ต่อมามีการผลิตไฮยาลูรอนสังเคราะห์ เพื่อนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการดูแลผิวและลดริ้วรอย โดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ได้อนุมัติว่าเป็นสารที่มีความปลอดภัย นิยมใช้ในวงการแพทย์และทางด้านความงามอย่างแพร่หลาย

ในปัจจุบันมีการผลิตฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอน ออกมาจากหลายประเทศครับ ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ในบทความ ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สุด เหมาะกับบริเวณใด?

ไฮยาลูรอนเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์

การใช้ไฮยาลูรอนมีโอกาสที่จะแพ้ไหม ?

เนื่องจากไฮยาลูรอนเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ จึงจะไม่ทำให้เกิดการแพ้ครับ สำหรับในบางเคสที่พบปัญหาหรือผลข้างเคียงหลังใช้ มีผื่น แดง อาจเกิดจากปัจจัยอื่น อย่างการแพ้สารกันบูดที่ผสมมาในผลิตภัณฑ์ หรือแพ้สารใด ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนการผลิตที่ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะในครีม เซรั่ม ที่อาจมีส่วนผสมของสารอื่น ๆ เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์

การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอน มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?

การใช้ไฮยาลูรอนแท้ที่ผ่านการรับรอง ไม่มีผลข้างเคียงที่อันตรายครับ แต่ถ้าฉีดฟิลเลอร์แล้วมี อาการแพ้ฟิลเลอร์ อาจเกิดจากการสังเคราะห์ ไฮยาลูโรนิค เอซิด ซึ่งได้มาจากการสกัดแบคทีเรีย Bacillus subtilis ในผู้ใช้บางรายมีอาการแพ้ยาจากโปรตีนของแบคทีเรียที่ใช้สังเคราะห์ไฮยาลูรอน ดังนั้นก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ควรตรวจสอบส่วนประกอบ และห้ามใช้กับสตรีมีครรภ์ และเด็กครับ

ข้อควรระวังของการใช้ไฮยาลูรอน

ข้อระวังในการใช้ไฮยาลูรอน คือต้องตรวจสอบส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ให้ละเอียดว่ามีส่วนผสมอื่นที่แพ้หรือไม่ และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการตรวจสอบและรับรองจากอย.ว่ามีความปลอดภัย

ไฮยาลูรอนมีผลต่อริ้วรอยอย่างไร ?

เมื่ออายุมากขึ้นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างผิว ทั้งคอลลาเจนและไฮยาลูโรนิค เอซิด จะลดลงเรื่อย ๆ ตามวัย ทำให้ผิวเริ่มสูญเสียความแข็งแรง ความชุ่มชื้น ความกระชับและยืดหยุ่น รวมไปถึงความหนาแน่นของเซลล์บนผิวหน้า สิ่งที่จะตามมา คือ ริ้วรอยที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้หน้าดูมีอายุ ไฮยาลูรอนจึงมีความสัมพันธ์อย่างยิ่ง ต่อริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง

ไฮยาลูรอนหรือกรดไฮยาลูโรนิค โดยธรรมชาติแล้วจะสามารถละลายน้ำได้ และร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้ใหม่ โดยจะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 24 วันตามสภาพร่างกาย แต่ไฮยาลูรอนจะหมดอายุ หรืออายุสั้นลงด้วยภาวะของความเครียดและอายุที่มากขึ้นครับ

คุณสมบัติที่สำคัญของกรดไฮยาลูรอน Hyaluronic Acid (HA)

  • ไฮยาลูรอน มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีมาก แนะนำให้ใส่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่ความเข้มข้น 0.25% ถึง 2.00% ทั้งในครีมบำรุง และเครื่องสำอางหลากหลายรูปแบบ
  • ไฮยาลูรอน ช่วยกรองรังสี UV ที่เป็นต้นเหตุทำให้ผิวหนังคล้ำเสีย และเป็นริ้วรอยก่อนวัย
  • ไฮยาลูรอน ช่วยลดการสร้างอนุมูลอิสระ
  • ไฮยาลูรอน ช่วยตรึงคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนังแท้
  • ไฮยาลูรอน ที่มีโมโลกุลใหญ่สามารถใช้เติมเต็มชั้นผิวได้

ประโยชน์ของกรดไฮยาลูรอน

  1. ไฮยาลูรอน ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นไว้บนผิวหนัง ทำให้ผิวไม่แห้ง เรียบเนียน มีความยืดหยุ่นและป้องกันการเกิดริ้วรอย
  2. ช่วยเรื่องการสมานผิว และฟื้นฟูผิวได้เร็วยิ่งขึ้น กรดไฮยาลูรอนจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเซลล์ผิวหนัง ให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นถึง 80%
  3. กรดไฮยาลูรอนิคจะไปช่วยเพิ่มการนำสารอาหารเข้าสู่เซลล์ผิว ในส่วนที่ไม่ได้ติดต่อกับเส้นเลือดโดยตรง ช่วยทำให้ผิวดูเต่งตึง มีชีวิตชีวา
  4. ช่วยลดการสร้างอนุมูลอิสระ และกรองรังสี UV ที่จะทำร้ายผิว
  5. ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรือยา ช่วยลดอาการปวดข้อ ลดการอักเสบ การป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก
  6. ยารักษาโรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis of the knee), ภาวะอักเสบรอบข้อไหล่ (Scapulohumeral periarthritis), ต้อกระจก
  7. เป็นส่วนประกอบในครีม เจล โลชั่น แชมพู ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
  8. ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน ช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง
  9. เจลรักษาแผลในปาก หรือช่วยสมานแผลและบรรเทาอาการแผลไฟไหม้

ใครบ้างที่เหมาะกับการใช้ไฮยาลูรอน ?

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนสังเคราะห์ทั้งครีม เซรั่มและฟิลเลอร์ เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิว ดังนี้

  • ผิวแห้งมาก ขาดความชุ่มชื้น
  • มีริ้วรอย ความหย่อนคล้อยบนผิว
  • มีร่องลึก และส่วนที่เนื้อยุบลงจากอายุที่มากขึ้น
  • เสริมคาง หน้าผาก ขมับ ด้วยฟิลเลอร์โดยไม่ต้องผ่าตัด
  • อยากรักษาสภาพผิวให้คงความอ่อนวัย และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย

สรุป เลือกการดูแลผิวหน้าที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนแบบไหนดีที่สุด ให้เหมาะสมกับตัวเอง ?

กรดไฮยาลูรอน ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของโครงสร้างผิว โดยเฉพาะเรื่องความชุ่มชื้นและริ้วรอย สำหรับคนไข้ที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก หรือผิวแห้งมาก การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนควรเลือกตัวที่เหมาะกับปัญหาผิวของตัวเอง เพราะแต่ละคนมีลักษณะผิวไม่เหมือนกัน และควรดูส่วนผสมอื่น ๆ ประกอบ โดยเฉพาะในครีม ที่มีสารอื่น ๆ อยู่ด้วย ว่ามีสารที่แพ้หรือไม่

สำหรับใครที่ต้องการแก้ปัญหาแบบตรงจุดและเห็นผลชัดเจน ในการเสริมความงาม ปรับรูปหน้า ปรับสภาพผิว เพิ่มความชุ่มชื้นเร่งด่วน ลดริ้วรอย ร่องลึก ก็สามารถเลือกการเติมฟิลเลอร์ได้เลย แต่ก็ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน มั่นใจว่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ผ่าน อย. และมีความปลอดภัยครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 24 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า