Skinvive Skin Booster
การฉีด Skinvive เป็นนวัตกรรมการบำรุงผิวแบบใหม่ โดยฉีดสารเติมเต็มที่เน้นการฟื้นฟูสภาพผิว เพิ่มความชุ่มชื้นในระดับลึก ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี และลดเลือนริ้วรอย เหมาะกับกระแสงานผิว Glass Skin ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมากครับ
Skinvive ไม่ได้เป็นแค่การเติมเต็มผิวแบบฟิลเลอร์ทั่วไป แต่เป็นนวัตกรรมที่ช่วยบำรุงผิวในระดับลึก ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนาน เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการผิวสุขภาพดีและดูเป็นธรรมชาติ ในบทความนี้หมอจะพาไปเจาะลึกข้อมูลสำคัญ รวมถึงเปรียบเทียบ Skinvive กับ Skin Booster ยี่ห้ออื่น ๆ ครับ ว่าเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ?
สารบัญ Skinvive
Skinvive คืออะไร ?
การฉีด Skinvive คือการฟื้นฟูผิวด้วยการใช้สาร Hyaluronic Acid (HA) ที่ได้รับการรับรองจาก US FDA ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับปรุงคุณภาพผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย HA ใน Skinvive จะมีเนื้อเจลละเอียด ต่างจาก HA ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มเต็มริ้วรอย หรือเสริมส่วนต่าง ๆ ของใบหน้าที่มีความคงตัวมากกว่า
“จุดเด่นของ Skinvive คือช่วยเติมเต็มน้ำในผิว ฟื้นฟูผิวให้นุ่ม ชุ่มชื้น และสุขภาพดี ยาวนานถึง 9 เดือน”
จาก VOLITE Filler สู่ SKINVIVE Skin Booster
ฟิลเลอร์ Juvederm Volite เดิมเป็นฟิลเลอร์ที่อยู่ในกลุ่มเนื้อละเอียดถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวอยู่แล้วครับ หลังมีการพัฒนาจึงย้ายจากการเป็นผลิตภัณฑ์ Filler มาอยู่ในหมวดหมู่ของ Skin Quality เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ประโยชน์ที่ได้จากการฉีด Skinvive
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวในระดับลึก ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและเนียนนุ่มขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิว
- ปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้น ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใส และลดความมันบนใบหน้า
- ปกป้องผิวจากมลภาวะและลดความหมองคล้ำ
ส่วนประกอบหลักของ Skinvive
Skinvive มีส่วนประกอบหลักที่สำคัญคือ Hyaluronic Acid (HA) ที่มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูสภาพผิวระดับลึกในชั้นผิวหนัง (Dermis)
Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอนิคแอซิด) เป็นสารที่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวได้ยาวนาน ด้วยความสามารถในการกักเก็บน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัว ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ เรียบเนียน ทำให้ผิวดูเต่งตึงและสุขภาพดี
นอกจากนี้ Hyaluronic Acid ยังเข้าไปเสริมการทำงานของ Aquaporin (AQP3) ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในการให้ความชุ่มชื้น และยังช่วยในการกระจายน้ำในเซลล์ผิว แต่เมื่ออายุมากขึ้น AQP3 จะน้อยลง เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้ง เมื่อ AQP3 ทำงานได้ดีขึ้น การบำรุงผิวชั้นลึกก็เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผิวดูเปล่งปลั่งและมีความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติครับ
คุณสมบัติพิเศษของ Skinvive
Skinvive มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการที่ทำให้โดดเด่นจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ ครับ และสามารถฟื้นฟูสภาพผิวในระดับที่ลึกกว่าเซรั่มหรือครีมบำรุงที่ทาเฉพาะบนผิวชั้นนอก จากผลการศึกษาทางคลินิกของ Skinvive แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติพิเศษในด้านต่าง ๆ ได้แก่
- ลดค่าเมลานิน (Melanin index)
- ลดค่าอาการแดงของผิว (Erythema index)
- ลดระดับความมันของผิว (Sebum level)
- ลดภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ Biostimulator
- ลดอาการแสบร้อนจากการทำเลเซอร์
สำหรับผู้ที่ต้องการฉีด Biostimulator เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สามารถใช้ SKINVIVE ฉีดก่อนในครั้งแรก เพื่อเป็นการเตรียมผิวและป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น การเกิดก้อนใต้ผิวหนังจากการฉีด Biostimulator ได้
Skinvive ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? เหมาะกับใคร ?
- เติมเต็มน้ำในผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น สุขภาพดี ยาวนานถึง 9 เดือน
- ผิวโกลว์ ฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส ยาวนานถึง 6 เดือน
- ลดความมันของผิว ทำให้ผิวดูสะอาดและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ยาวนานถึง 3 เดือน
Skinvive เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากความแห้งกร้าน ลดริ้วรอย และปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นลึกในผิว นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการผิวหน้าที่ดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี และอ่อนเยาว์ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำหรือริ้วรอยก่อนวัยด้วยครับ
- 91% ของผู้ใช้รู้สึกมีพอใจกับสภาพผิวของตนมากกว่าก่อนการฉีด
- 82% ของผู้ใช้รู้สึกว่าผิวมีความโกลว์กระจ่างใสมากขึ้น
- 84% ของผู้ใช้รู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้น
- 87% ของผู้ใช้รู้สึกว่าผิวสดใสและเปล่งปลั่ง
- 79% ของผู้ใช้รู้สึกว่าผิวดูสุขภาพดีมากขึ้น
แม้ว่า Skinvive จะสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้นได้ แต่ก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับการรักษาหลุมสิวโดยตรงครับ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและแนะนำหัตถการอื่น ๆ ที่เหมาะสม และช่วยรักษาหลุมสิวได้ดีกว่า อ่านเพิ่มเติมในบทความ หลุมสิว (Atrophic Scars) รูขุมขนกว้าง รักษาอย่างไร ?
ฉีด skinvive กี่วันเห็นผลลัพธ์ ?
หลังฉีด Skinvive จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีครับ ผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 3-7 วัน ผิวจะดูชุ่มชื้นขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง และผิวหน้าจะดูเปล่งปลั่งมากขึ้น เห็นผลชัดเจนที่สุดประมาณ 2 สัปดาห์
ฉีด skinvive อยู่ได้นานไหม ?
ผลลัพธ์ของการฉีด Skinvive สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-9 เดือน แล้วแต่ปัญหาที่คนไข้ต้องการแก้ไขครับ ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่นานเมื่อเทียบกับการฉีด Skin Booster ตัวอื่น ๆ นอกจากนี้ หากดูแลผิวอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นครับ
Skinvive แตกต่างกับ Skin Booster ตัวอื่นอย่างไร ?
ด้านผลลัพธ์ที่ได้
- Skinvive : ผลลัพธ์ที่ได้คือความชุ่มชื้นลึกในผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและเรียบเนียน สามารถลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวมได้ดี
- Sculptra : เน้นการเพิ่มปริมาตรและยกกระชับผิว ให้ผิวดูเต่งตึงและลดเลือนริ้วรอยลึก
- Rejuran : เน้นการฟื้นฟูเซลล์ผิวและการซ่อมแซมผิวที่เสียหาย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีขึ้น
- Gouri : ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความเต่งตึงของผิว ลดเลือนริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
- Radiesse : กระชับผิว ลดเลือนริ้วรอยลึก และฟื้นฟูโครงสร้างผิวที่หย่อนคล้อยได้
- Exosome : ฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี
- REVS : ฟื้นฟูผิวจากการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับมากขึ้น
ด้านจำนวนครั้งในการฉีด
- Skinvive : การฉีดเพียงครั้งเดียวก็สามารถให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานถึง 9 เดือน
- Sculptra : ต้องทำการฉีดประมาณ 2-3 ครั้ง ห่างกันทุก 4-6 สัปดาห์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- Rejuran : แนะนำให้ฉีด 3 ครั้ง ห่างกันทุก 3-4 สัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- Gouri : ต้องฉีดประมาณ 2-3 ครั้งในระยะเวลา 3-4 เดือน
- Radiesse : ต้องฉีด 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละคน อยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน
- Exosome : ปกติจะต้องทำ 2-3 ครั้ง ขึ้นไป อยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน
- REVS : ปกติแนะนำให้ฉีดทุกสัปดาห์ในช่วงเดือนแรก จากนั้นเว้นช่วง 2-3 ครั้งต่อเดือน
หากเทียบ Skinvive กับการฉีด Filler Skin Booster อย่าง Belotero Revive หรือ Restylane Vital Light จะเน้นการเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำได้เช่นกัน โดยคงผลลัพธ์ได้ 6-12 เดือนแล้วแต่ผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้และการดูแลตัวเองหลังทำ
ข้อควรระวังในการใช้ Skinvive
แม้ว่า Skinvive จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูง แต่ก็ยังมีข้อควรระวังบางประการที่ควรระวังครับ
- ผู้ที่มีประวัติการแพ้สาร Hyaluronic Acid ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
- ควรหลีกเลี่ยงการฉีดในบริเวณที่มีการติดเชื้อหรือแผลเปิด รวมถึงสิว, ผื่น, ลมพิษ, ซีสต์
- แจ้งแพทย์หากกำลังใช้ยา เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือดอื่น ๆ เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำหรือเลือดออกในจุดที่ฉีด
- ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ไม่ควรใช้พร้อมกับการรักษาด้วยเลเซอร์, การลอกผิวเคมีแบบลึก หรือการกรอผิว และควรหลีกเลี่ยงการฉีดผลิตภัณฑ์หากผิวเกิดการอักเสบ
Skinvive ถูกออกแบบมาเพื่อปรับปรุงความเรียบเนียนของผิวบริเวณหน้าแก้ม หากคนไข้ต้องการฉีดบริเวณอื่น ๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินตามความเหมาะสมครับ
การดูแลหลังฉีด skinvive
การดูแลหลังฉีด skinvive เพื่อผลลัพธ์ผิวสวย ยาวนาน
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความร้อนหรือแสงแดดโดยตรงภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากการฉีด เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก การโดนแสงแดดหรือความร้อนมากเกินไป รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เนื่องจากอาจทำให้เกิดรอยแดง, บวม หรืออาการคันชั่วคราวบริเวณที่ฉีด
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารเคมีรุนแรงในระยะแรก
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในผิว
ฉีด skinvive ที่ไหนดี ?
- ควรเลือกคลินิกที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- แพทย์ตรวจสอบได้ว่าเป็นแพทย์จริง มีประสบการณ์ในการฉีดสารเติมเต็ม
- ใช้ skinvive ของแท้ ตรวจสอบแหล่งที่มาหรือบริษัทนำเข้าได้
- มีรีวิวจากผู้ใช้จริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ หรือมีรูปรีวิวที่เห็นผลชัดเจน ไม่ผ่านการตกแต่ง
- คลินิกมีช่องทางการติดต่อที่สะดวก แจ้งอัตราค่าบริการชัดเจน ไม่ปิดบัง
สรุป Skinvive ตัวช่วยผิวสวย ฉ่ำวาว อิ่มน้ำ
Skinvive เป็นนวัตกรรมใหม่ที่สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวในระดับลึก ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ สดใส และเต่งตึง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวโดยไม่ต้องการการปรับเปลี่ยนรูปหน้า ผลลัพธ์จากการฉีด Skinvive สามารถอยู่ได้นานถึง 9 เดือน และช่วยให้ผิวสุขภาพดีในระยะยาว โดยไม่ต้องฉีดซ้ำบ่อย ๆ
อ้างอิง https://www.skinvivebyjuvederm.com/
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
