ลดรอยสิว 

วิธีลดรอยสิว-มีแบบไหนบ้าง 1000x860

ปัญหาบนใบหน้าที่เป็นตัวการสำคัญ ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส หมองคล้ำ คือปัญหาสิว รอยแดง รอยดำ รอยแผลเป็นจากสิว รวมถึงรอยหลุมสิวที่ทิ้งไว้บนใบหน้าแม้ว่าจะรักษาสิวหายแล้ว หมอเชื่อว่าหลาย ๆ คนเลือกใช้วิธีปกปิดด้วยเครื่องสำอาง แต่นานวันเข้าก็ทำให้เกิดการอุดตัน และกลายเป็นสิวอุดตันตามมา ทำให้ปัญหาสิววนกลับมาอีกครั้งได้ครับ 

สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีลดรอยสิว ลดปัญหาสิว เพื่อให้ใบหน้ากลับมาสดใส เรียบเนียน หมอมีวิธีมาแนะนำ ทั้งวิธีแบบธรรมชาติ ที่ทำได้เองง่าย ๆ สำหรับคนมีปัญหาไม่มาก และวิธีทางการแพทย์ที่ช่วยให้เห็นผลลัพธ์แบบเร่งด่วน จะมีวิธีไหนบ้าง ติดตามอ่านได้ในบทความนี้ครับ  

สารบัญ ลดรอยสิว 

  1. สิว รอยสิว รอยแผล และรอยหลุมสิว เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
  2. ประเภทรอยสิว 
  3. วิธีลดรอยสิว รอบหลุมสิว รอยแผลที่เกิดจากสิว
  4. วิธีการรักษาริ้วรอยด้วยหัตถการทางแพทย์
  5. วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดรอยสิว 
  6. ปัญหารอยดำรอยแดงจากสิวสามารถหายได้เองหรือไม่ ?
  7. รักษารอยแดงจากสิวจนหายแล้วสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้หรือไม่ ?

สิว รอยสิว รอยแผล และรอยหลุมสิว เกิดขึ้นได้อย่างไร ?

ก่อนเข้าเรื่องวิธีการรักษาเพื่อลดรอยสิว จำเป็นต้องรู้สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิวเสียก่อนครับ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิวซ้ำซาก มีรอยสิววนเป็นวงจรแบบไม่รู้จบ 

สิว เกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งจากภายในร่างกาย และปัจจัยภายนอก สำหรับปัจจัยภายในร่างกายจะแบ่งออกเป็น 4 ปัจจัยหลัก ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจส่งผลให้เกิดวงจรการเกิดสิวต่อเนื่องและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ได้ครับ 

  1. การอุดตันที่รูขุมขน จะทำให้เกิดปัญหาสิวอุดตันขนาดเล็กขึ้นได้ โดยมีสาเหตุจากเซลล์หนังกำพร้าชั้นนอกสุด มีการหนาตัวขึ้นผิดปกติ ร่วมกับเกิดความผิดปกติของกระบวนการผลัดเซลล์ผิว เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันในรูขุมขน 
  2. ความผิดปกติของต่อมไขมัน ปัญหาต่อมไขมันทำงานผิดปกติ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ๆ โดย  ต่อมไขมันจะผลิตไขมันหล่อเลี้ยงบริเวณผิวหนังที่เหมาะสม แต่ในกรณีที่ต่อมไขมันผลิตมากเกินทำให้บริเวณรูขุมขนที่เกิดการอุดตันเกิดเป็นสิวได้ 
  3. เชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes (C.acnes) หรือชื่อเดิมคือ Propionibacterium acnes (P.acnes) เป็นเชื้อที่อาศัยอยู่บริเวณรูขุมขน ในผู้ป่วยที่เป็นสิวจะมีการสะสมของเซลล์ผิวหนังและไขมันบริเวณรูขุมขนที่อุดตันมากขึ้น เชื้อแบคทีเรียจึงเจริญเติบโตสะสมเพิ่มมากขึ้น ทำให้บริเวณรูขุมขนอุดตันเกิดสิวขึ้นในที่สุด
สาเหตุของรอยสิว
  1. การอักเสบบริเวณรูขุมขน ผู้ป่วยสิวที่มีการสะสมของเซลล์ผิวหนัง ไขมัน และเชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes บริเวณรูขุมขน มากขึ้นจนทำให้เกิดสิวอุดตันเริ่มมีการขยายตัวใหญ่มากขึ้นจนทำให้แตกออกสู่ผิวหนังบริเวณข้างเคียง และกระตุ้นให้เกิดการอักเสบขึ้น ทำให้มองเห็นจากภายนอกเป็นสิวอักเสบที่มีอาการปวด บวม และกดเจ็บ

ในส่วนของปัจจัยภายนอกร่างกาย ที่อาจส่งผลให้เกิดสิวได้ เช่น  

  • การรับประทานอาหารโดยเฉพาะอาหารประเภทแป้ง ไขมันและน้ำตาลมากเกินไป
  • การรับประทานยาหรืออาหารเสริมบางชนิด
  • การสูบบุหรี่ เนื่องจากในควันบุหรี่มีสารที่กระตุ้นให้เกิดกระบวนการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้นที่ผิวหนัง จนเกิดปัญหาสิวตามมาได้
  • การใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่มีฤทธิ์กระตุ้นการเกิดสิว มักเห็นสิวผด ผื่น 
  • การกดทับหรือเสียดสีบริเวณผิวหนังบ่อย ๆ เช่น การใส่หน้ากากต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน รวมไปถึงการขัดผิวบ่อย ๆ 

รอยสิว รอยแผล หรือรอยหลุมสิว มีสาเหตุมาจาก การเกิดสิว แม้รักษาหาย ก็จะทิ้งรอยไว้ โดยเฉพาะสิวที่รักษาด้วยการกด บีบ จะทำให้เซลล์เนื้อเยื่อถูกทำลาย เส้นเลือดฝอยบนผิวหนังแตกออก จนเกิดการอักเสบ  รวมถึงมีการผลิตเม็ดสีเมลานินเป็นจำนวนมากในบริเวณที่เกิดการอักเสบ เรียกว่า Post-Inflammatory Hyperpigmentation จึงเกิดเป็นรอยดำและสีผิวไม่สม่ำเสมอได้ครับ นอกจากแสงแดดก็มีส่วนทำให้เกิดรอยสิวได้เช่นกัน  

ประเภทรอยสิว 

หากต้องการรักษาลดรอยสิวได้อย่างเห็นผล จะต้องทราบถึงความแตกต่างของรอยสิวเสียก่อน  โดยรอยสิวจะแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้ 

  1. รอยสิวและรอยแผลเป็นจากสิว มักเกิดจาก สิวอุดตัน ที่มีการสิวอักเสบ กลายเป็นสิวหนอง สิวหัวช้าง ที่กินเนื้อลึกถึงผิวชั้นใน กลายเป็นรอยสิว รอยแผลเป็น และสีผิวคล้ำขึ้น เนื่องจากผิวในจุดที่อักเสบจะกระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดสีผิว หลังสิวหายจึงยังเห็นเป็นรอยดำทิ้งไว้ 
รอยแดงรอยดำจากสิว
  1. รอยสิวที่เป็นรอยแดงและรอยดำ จะมีลักษณะเป็นจุดด่าง ๆ บนใบหน้า เกิดจากการแกะหรือกดสิวจนผิวเป็นรอย เมื่อร่างกายเริ่มซ่อมแซมผิวจะมีการผลิตเม็ดสีเมลานินขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ทำให้จุดที่เป็นสิวมีสีเข้มขึ้นเป็นรอยดำ
  2. รอยสิวหลุมลึก เกิดจากสิวที่อักเสบอย่างรุนแรง ส่งผลให้เอนไซม์ทำลายชั้นผิวหนังบริเวณชั้นผิวที่อักเสบ ทำให้เกิดเป็นหลุมลึกบนผิว ซึ่งการรักษาต้องใช้เวลานาน บางคนที่เป็นสิวอักเสบซ้ำซาก อาจทำให้เป็นแผลหลุมสิวถาวรได้ โดยรอยหลุมสิวลึกแบ่งได้เป็น 5 ลักษณะ ดังนี้ 
    • Rolling Scars เป็นจุดหลุมบนผิวหนัง หรือเป็นหลุมสิวตื้น ๆ 
    • Ice-pick Scars เป็นรอยหลุมสิวแบบจุดหลุมลึก
    • Atrophic Scars เป็นรอยหลุมยุบลงไป แต่รอยนั้นมีความแบนและบาง
    • Boxcar Scars เป็นรอยหลุมกว้างขนาดใหญ่ และมีขอบหลุมชัดเจน
    • Hypertrophic หรือ Keloid Scars เป็นรอยแผลเป็นนูนขึ้นมาบนผิวหนัง

วิธีลดรอยสิว รอยหลุมสิว รอยแผลที่เกิดจากสิว

วิธีการลดรอยสิวทั้งรอยแดง รอยดำ รอยแผลเป็น รอยหลุมสิว จะมีวิธีการและระยะเวลาในการรักษาแตกต่างกัน โดยมีทั้งวิธีลดรอยสิวแบบธรรมชาติ ที่คนไข้สามารถทำได้เอง และวิธีการลดรอยสิวด้วยหัตถการทางการแพทย์ หากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และรวดเร็ว ดังนี้ 

1.ทาครีมลดรอยสิว 

ปัจจุบันมีครีมลดรอยสิว หรือยาลดรอยสิว ทั้งรอยแดง รอยดำ ออกมาให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ ซึ่งส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยลดรอยสิวได้จะประกอบไปด้วย วิตามินซี, คอร์ติโซน (Cortisone), กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid), อาร์บูติน (Arbutin), กรดโคจิก (Kojic Acid), เซราไมด์ (Ceramide), วิตามินบี 3, ไนอะซิน (Niacin) รวมถึงในบางยี่ห้อมี สารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างกลุ่มสาร AHA และ BHA สามารถช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ให้แข็งแรง ช่วยลดเลือนปัญหารอยสิว และลดการอักเสบของผิวได้ด้วย 

วิธีนี้สามารถทำได้ง่าย โดยคนไข้สามารถหาซื้อครีมลดรอยสิวได้เองจากร้านขายยา หรือร้านค้าเวชสําอาง ทั่วไป ในผู้ที่มีปัญหาสิว ผิวแพ้ง่าย แนะนำปรึกษาแพทย์หรือ เภสัชกร ร่วมด้วย เพื่อลดโอกาสการแพ้ หรือกระตุ้นให้เกิดสิวใหม่ขึ้นมาได้อีก 

ทางครีมลดรอยสิว

2.สครับหน้าลดรอยสิว

การสครับหน้าเพื่อลดรอยสิว เป็นอีกทางเลือกที่คนไข้สามารถทำได้เอง และมีผลิตภัณฑ์สำหรับสครับหน้าโดยเฉพาะให้เลือกใช้ ข้อดีคือช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และช่วยให้ผิวมีความสม่ำเสมอ แต่ต้องระมัดระวังลงน้ำหนัก ไม่ควรขัดแรง และไม่ควรทำบ่อยเกินไป โดยระยะที่เหมาะสมคืออาทิตย์ละ 2 ครั้งก็เพียงพอครับ ไม่แนะนำในผู้ยังคงมีปัญหาสิวอยู่ หรือมีลักษณะผิวแห้ง เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ 

สครับหน้าลดรอยสิว

3.ใช้ยาทาแผลเป็น ลดรอยสิว  

หลังรักษาสิวและกำจัดหัวสิวออกไปแล้ว เกิดเป็นรอยแผลเป็นและสีผิวคล้ำ เป็นรอยดำบนใบหน้า สามารถใช้ยาทาแผลเป็นเพื่อช่วยให้ฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ และช่วยลดความเข้มสีผิวของแผลได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มยาสเตียรอยด์, ยาที่เป็นซิลิโคนเจล ยาที่มีวิตามิน Vitamin A, Vitamin B3 และ Vitamin E เป็นส่วนประกอบ ซึ่งช่วยลดเลือนหลุมสิว รอยดำจากสิว รอยแดง ลดอาการอักเสบจากสิว ลดการสะสมของแบคทีเรีย และช่วยผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใสได้ด้วย

4.วิตามินลดรอยสิว 

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมกลุ่มลดรอยสิว ที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส สามารถลดรอยด่างดำได้จะอยู่ในกลุ่มวิตามินผิวที่มีแอนติออกซิแดนท์ ที่หลาย ๆ รู้จัก เช่น วิตามินซี วิตามินอี  ไลโคสกิน สารสกัดจากเปลือกสน ที่มีคุณสมบัติลดรอยแดง ลดรอยดำ ลดรอยสิว ช่วยให้ผิวดูสว่างใส และผิวเนียนใสขึ้นได้  

วิตามินลดรอยสิว

5.ทาว่านหางจระเข้ลดรอยสิว

ว่านหางจระเข้ เป็นอีกตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่ต้องลดรอยสิวแบบธรรมชาติ โดยคุณสมบัติของว่านหางจระเข้ จะช่วยบรรเทาการอักเสบ สมานแผลที่ผิวหนังภายนอก ลดรอยแผลเป็น ลดอาการบวมแดง รักษาปัญหาสิว รอยแผล จุดด่างดำได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอยสิวเล็กน้อย และเป็นรอยสิวที่เกิดขึ้นใหม่ โดยนำว่านหางจระเข้มาปั่นให้ละเอียด หรือฝานเป็นแผ่นบาง ๆ ใช้มาส์กหน้าเป็นประจำ จะช่วยปรับสภาพผิวหน้า ทำให้รอยสิวจางลง และผิวชุ่มชื้นขึ้นได้  

ทาว่านหางจระเข้ลดรอยสิว

6.มาสก์ลดรอยสิวหน้าด้วยสมุนไพร

สมุนไพรไทยเป็นตัวเลือกหนึ่งที่สามารถนำมาใช้เพื่อลดรอยสิวได้ครับ ที่นิยมนำมาใช้ เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออก ลดการอักเสบ ทำให้ผิวกระจ่างใส เพิ่มความชุ่มชื้น ได้แก่ มะขามเปียก น้ำผึ้ง มะนาว มะเขือเทศ  ขมิ้น แตงกวา สามารถนำมาพอกหน้าสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ควบคู่กับการทาครีมหรือยาทาแผลเป็น จะช่วยลดรอยสิว รอยแดง จุดด่างดำ รอยดำจากสิวต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

มาสก์ลดรอยสิวด้วยสมุนไพร

วิธีการรักษาริ้วรอยด้วยหัตถการทางแพทย์

สำหรับผู้ต้องการลดรอยสิวแบบเร่งด่วน การพึ่งหัตถการทางแพทย์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้ ซึ่งมีหลายวิธี ตามลักษณะปัญหาของแต่ละบุคคลดังนี้ 

1.ฉีดเมโสหน้าใสลดรอยสิว

การฉีดเมโสหน้าใส คือการฉีดตัวยาที่มีวิตามินและสารสกัดที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิวโดยตรง สามารถช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อม ทำให้ผิวชุ่มชื้น ขาวกระจ่างใส ลดริ้วรอยจุดด่างดำ ลดฝ้า ได้ โดยมีให้เลือกหลายสูตรขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหา เช่น 

  • มาเด้ คอลลาเจน ช่วยลดสิว ลดผื่น
  • Tensonez ช่วยปรับสภาพสีผิวให้ขาว ใส ลดฝ้า จุดด่างดำ
  • Neo-Glutanex Glow ช่วยลดกระ ลดรอยสิว ลดริ้วรอย ผิวแห้งกร้าน
  • Filorga ช่วยผิวขาวใส ลดฝ้า และบำรุงผิวล้ำลึก
  • Alpha arbutin เน้นลดฝ้าโดยตรง

นอกจากนี้ยังมีในกลุ่มของสารกระตุ้นคอลลาเจน เช่น Rejuran,  exosome, Gouri , Sculptra ก็สามารถช่วยฟื้นฟูผิว ลดเลือนริ้วรอย ได้เช่นกันครับ 

ฉีดเมโสหน้าใสลดรอยสิว

สำหรับข้อดีหลังฉีดเมโสหน้าใส คือสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้เร็ว โดยจะเริ่มเห็นผลประมาณ 3 วันหลังฉีด และจะเห็นผลเต็มที่ประมาณ 7-14 วัน และควรฉีดเมโสหน้าใสอย่างต่อเนื่องในช่วงแรก สัปดาห์ละครั้ง เมื่อเริ่มเห็นผลชัดเจน และผลลัพธ์คงที่ ก็สามารถเว้นระยะเวลามาฉีดได้ตามความเหมาะสมครับ 

ฉีดเมโสหน้าใสลดรอยสิว

อ่านบทความเพิ่มเติม ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงเจอยาปลอม

2.การใช้เลเซอร์ลดรอยสิว

การทำเลเซอร์ลบรอยสิวเป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยม โดยจะใช้การยิงแสงเลเซอร์เข้าไปบริเวณผิวหนังที่เป็นรอยสิว หลังเลเซอร์จะเริ่มเห็นผลชัดประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ 

การใช้เลเซอร์ลดรอยสิว

ปัจจุบันมีเลเซอร์หลายประเภท ที่มีความเหมาะสมกับรอยสิวที่แตกต่างกัน ดังนั้นในแต่ละบุคคลก็อาจเห็นผลลัพธ์ในระยะเวลาที่ต่างกันครับ ข้อดีคือเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน แต่ต้องระวังไม่ให้ผิวหน้าโดนแสงแดดและต้องดูผิวหลังทำเลเซอร์เป็นอย่างดี เพื่อลดการระคายเคืองครับ  

3.ทำ Hifu ลดรอยสิว

การทำ Hifu หรือ Hifu Ultraformer III เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่คนไข้ สงสัยว่าช่วยลดรอยสิวได้ด้วยจริงหรือไม่ เพราะเป้าหมายของการทำ Hifu คือการยกกระชับปรับรูปหน้า 

จริง ๆ การทำ Hifu ไม่ได้ช่วยลดรอยดํารอยแดงจากสิวได้โดยตรงครับ แต่ด้วยคุณสมบัติของเครื่องHifu ที่สามารถกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ก็จะช่วยทำให้ผิวแข็งแรง กระชับรูขุมขน มีน้ำมีนวลและชุ่มชื้นมากขึ้น ผิวจึงดูสุขภาพดีครับ  

ทำ Hifu ลดรอยสิว

4.การศัลยกรรมรักษาหลุมสิว

ในกรณีที่เป็นสิวรุนแรง หลังรักษาสิวหาย อาจทิ้งรอยสิวไว้หลายประเภท ทั้งรอยแดง รอยดำ รอยแผลเป็น และรอยหลุมสิว ในกรณี รอยแดง รอยดำ รอยแผลเป็น สามารถเลือกใช้วิธีที่หมอแนะนำไว้ข้างต้นได้ตามความเหมาะสม แต่ในกรณีรอยหลุมสิว ที่ผิวยุบ บุ๋มลง สามารถรักษาได้เลเซอร์บางประเภท และการศัลยกรรมหลุมสิวครับ 

ศัลยกรรมหลุมสิว คือการรักษาหลุมสิวด้วยการผ่าตัด ซึ่งจะมีหลายเทคนิค เช่น ตัดรอยหลุมสิวออก จากนั้นก็เย็บแผลให้ติดกัน, ยกเนื้อบริเวณหลุมสิวขึ้นมาให้เท่ากับเนื้อผิวหน้าปกติ จากนั้นก็เย็บเนื้อที่ยกขึ้นมาให้ติดกับเนื้อผิวโดยรอบ, กรีดหลุมสิวให้เป็นวงรี ก่อนจะเย็บแผลให้ติดกัน, ใช้เนื้อบริเวณอื่นมาปิดที่หลุมสิว และเย็บปิดเพื่อให้เนื้อเยื่อเติบโตจนเติมเต็มหลุมสิว ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนเสมอกัน ซึ่งวิธีลดรอยสิวอื่น ๆ ไม่สามารถรักษาได้

5.ฟิลเลอร์หลุมสิว

การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยลดรอยสิวที่เป็นหลุมสิวได้ โดยหมอจะใช้เทคนิคเฉพาะในการฉีดฟิลเลอ์(Hyaluronic Acid) เข้าไปเติมเต็มหลุมสิว ให้ดูตื้นขึ้น แต่ทั้งนี้การเติมหลุมสิวด้วยฟิลเลอร์นั้น จะเติมทันทีเลยไม่ได้ เพราะจะต้องทำการตัดพังผืดที่ดึงรั้งผิวหนังออกไปก่อน ซึ่งผลลัพธ์หลังฉีดสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที


วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดรอยสิว 

วิธีป้องกันเพื่อให้เกิดรอยสิว หรือเกิดน้อยที่สุด ควรปฏิบัติตัวดังนี้

  • ห้ามแกะ หรือบีบเค้นสิวเอง – เมื่อเป็นสิวไม่ควรแกะ หรือบีบสิว จะทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น  เพราะมือเล็บไม่สะอาด หากต้องการกดสิว แนะนำให้พบแพทย์และรับการกดสิวอย่างถูกวิธี เพื่อลดโอกาสเกิดรอยจากการกดสิวครับ
  • หมั่นทาครีมกันแดด  –ปัญหารอยสิว ริ้วรอย รวมถึงใบหน้าที่หมองคล้ำ ส่วนหนึ่งมาจากแสงแดด หรือรังสี UV ที่เข้าไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้เกิดรอยดำได้ง่าย การหมั่นทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยปกป้องผิวไม่ให้แห้งกร้าน ลดปัญหาหน้าเหี่ยวก่อนวัย ได้ครับ 
แสงแดดตัวการเกิดรอยสิว
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ  การดื่มน้ำเปล่าอย่างเพียงพอ จำช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น สุขภาพดี ลดการเกิดสิว และริ้วรอยได้ ในกรณีที่ผิวขาดน้ำ สภาพผิวก็จะแห้งเมื่อผิวแห้งก็จะระคายเคืองง่าย รวมถึงมีการผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น จนไปสาเหตุนำไปสู่การเกิดสิวเป็นวงจรไม่รู้จบได้ครับ  
  • รับประทานผักผลไม้ หรือ อาหารเสริม ช่วยบำรุงผิว ควรรับประทานอาหารประเภทผักผลไม้มาก ๆ เพราะในผักผลไม้มีวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและผิวพรรมากมาย ซึ่งช่วยให้ผิวสุขภาพดี สดใส ชุ่มชื่น ริ้วรอยและจุดด่างดำลดลงได้ 
ผักผลไม้ลดรอยสิว (1)

ในกรณีไม่มีเวลา หรือมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบรีบเร่ง รับประทานผักผลน้อย การรับประทานวิตามินเสริมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยทดแทนในส่วนที่ขาดหายไปได้ เช่น วิตามินซี, วิตามินอี,วิตามินบี ฯลฯ

อาหารเสริมลดรอยสิว

ปัญหารอยดำรอยแดงจากสิวสามารถหายได้เองหรือไม่ ?

ปัญหารอยดำรอยแดงจากสิว สามารถจางลงได้เองครับ หากไม่มีปัจจัยอื่น ๆ กระตุ้นโดยเฉพาะแสงแดด และมลภาวะ และก็ต้องใช้ระยะเวลาหลายเดือน หรือเป็นปี ขึ้นกับระดับของรอยสิว รอยดำ และรอยแดง ของแต่ละคน หากใครต้องการลดรอยสิวได้เร็วก็ต้องอาศัยตัวช่วยในวิธีต่าง ๆ ที่หมอแนะนำไว้ข้างต้น  

รักษารอยแดงจากสิวจนหายแล้วสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้หรือไม่ ?

ปัญหาการกลับมาเป็นซ้ำของรอยดำรอยแดงจากสิว สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้หากมีสิวเกิดใหม่ เพื่อป้องกันการเกิดสิว และรอยสิวซ้ำซาก ควรดูแลผิวอย่างถูกวิธี โดยทำความสะอาดผิวหน้าและบำรุงผิวอย่างเหมาะสม ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ

ในกรณีที่เป็นสิวซ้ำ ๆ เรื้อรัง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ หาสาเหตุและเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยลดปัญหาการเกิดรอยสิวได้อีกทางหนึ่งครับ 


สรุป 

สำหรับผู้ที่มีปัญหารอยสิว ทั้งรอยดำ รอยแดง รอยหลุมสิว และต้องการลดรอยสิวอย่างเห็นผล การพึ่งหัตถการทางแพทย์เป็นวิธีที่ช่วยให้เห็นผลลัพธ์เร็วครับ โดยสามารถทำร่วมกับวิธีตามธรรมชาติ และหมั่นดูแลรักษาผิวให้ชุ่มชื้น สุขภาพดี ก็จะช่วยให้รอยสิว และปัญหาสิวลดลงได้ครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ34คน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า