ฉีดโบท็อกซ์แก้ตากระตุกได้อย่างไร ? ตากระตุกแบบไหนต้องไปพบแพทย์

ฉีดโบท็อกซ์แก้ตากระตุก

ฉีดโบท็อกซ์แก้ตากระตุกได้ คนไข้สามารถปรึกษาหมอเพื่อประเมินปัญหา วิเคราะห์สาเหตุและอาการตากระตุกที่เกิดขึ้นก่อนได้ครับ ตากระตุก คืออะไร ? เกิดจากอะไร ? วิธีการดูแลตัวเองในเบื้องต้น เมื่อมีอาการตากระตุก รวมถึงวิธีรักษาอาการตากระตุก ฉีดโบท็อกซ์แก้ตากระตุก ได้อย่างไร ? ตากระตุกแบบไหนที่ต้องไปพบแพทย์

ตากระตุก คืออะไร ?

ตากระตุก (Eye Twitching) คือ อาการที่กล้ามเนื้อตากระตุกซ้ำ ๆ มักเกิดบริเวณเปลือกตาบน แต่เปลือกตาล่างก็สามารถเกิดได้ครับ ส่วนใหญ่จะมีอาการเล็กน้อย และหายได้เองในระยะเวลาไม่นาน สาเหตุเกิดจากการที่มีปัจจัยต่าง ๆ มากระตุ้นให้เกิดอาการตากระตุก

หลายคนยังมีความเชื่อว่าอาการตากระตุก เกี่ยวข้องกับเรื่องโชคลางที่บอกว่าขวาร้ายซ้ายดี แต่ในความเป็นจริงอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางโรค เช่น โรคอัมพาตใบหน้า (Bell’s Palsy) โรคกล้ามเนื้อบิดเกร็ง (Dystonia) โรคทูเร็ตต์ (Tourette syndrome) แม้จะพบได้น้อย แต่ไม่ควรนิ่งนอนใจ หากมีอาการตากระตุกถี่ ๆ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ควรรีบพบแพทย์เพื่อหาทางวิธีรักษาที่เหมาะสม

ตากระตุก เกิดจากอะไร ?

ตากระตุก มักเกิดจากการนำไฟฟ้าของกระแสประสาทจากสมองมาที่กล้ามเนื้อเปลือกตา ซึ่งจะเกิดขึ้นเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า และยังเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น ๆ ที่เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการตากระตุก ดังนี้

1. ความเครียด เมื่อเกิดความเครียด ร่างกายจะตอบสนองด้วยการหลั่งฮอร์โมนบางชนิด ซึ่งส่งผลต่อกล้ามเนื้อโดยตรง ทำให้เกิดอาการตากระตุกได้

2.พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึก นอนไม่เป็นเวลา ทำงานดึก อ่านหนังสือดึก หรือดูซีรีส์ตอนดึก นอกจากกล้ามเนื้อตาจะไม่ได้พัก ยังถูกใช้งานหนักมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการตาล้า ตากระตุก รวมถึงริ้วรอยใต้ตา และถุงใต้ตา ตามมา

3.ตาแห้ง เกิดจากการใช้สายตาหนัก จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานาน ๆ เช่น จ้องคอมพิวเตอร์ เล่นโทรศัพท์มือถือ ทำให้สารธรรมชาติที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตาลดลง ทำให้เกิดอาการตาแห้ง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ตากระตุก

4.โรคภูมิแพ้ มีความเกี่ยวข้องต่อการเกิดอาการตาแห้ง คันตา และเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ตากระตุกได้เพราะขณะที่เกิดอาการ ร่างกายจะหลั่งสารฮีสตามีนออกมาทางเนื้อเยื่อ ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญทำให้ตากระตุกได้เช่นกัน โรคภูมิแพ้ยังทำให้ขอบตาดำคล้ำ แก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถแก้ปัญหาใต้ตาอย่างเห็นผล ช่วยเติมเต็มร่องใต้ตา ตาโหล เบ้าตาลึก ให้ตื้นขึ้น และลดเลือนริ้วรอย ทำให้ใบหน้าที่ดูโทรม ไม่สดใส แก่กว่าวัย กลับมาดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ หลังฉีดเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที หลังฉีดอาจมีอาการบวมจากรอยเข็ม ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน ? สามารถหายได้เองใน 7-14 วัน

5.ขาดวิตามิน เช่น วิตามินบี 12 ทำให้กล้ามเนื้อและเส้นประสาททำงานผิดปกติ เกิดอาการกระตุกขึ้นได้ โดยมากวิตามินบี 12 จะพบในอาหารจำพวกเนื้อ ปลา ไข่ นม ตับ มีประโยชน์ในแง่ของการเสริมสร้างการเจริญเติบโตและการทำงานของระบบประสาท

6.ดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ มากเกินไปส่งผลให้การหดตัวของม่านตาช้าลงเมื่อเจอแสงจ้า และทำให้เกิดอาการตากระตุกได้

สาเหตุของอาการตากระตุก

สาเหตุการของอาการตากระตุกในคนไข้แต่ละราย เกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันได้ ตามที่หมอได้อธิบายไปข้างต้น ทั้งความเครียด นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ใช้สายตาหนัก ทำให้ตาแห้ง ตาล้า โรคภูมิแพ้ ขาดวิตามิน เช่น วิตามินบี 12 หรือดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการตากระตุกทั้งสิ้น

การดูแลตัวเองในเบื้องต้น เมื่อมีอาการตากระตุก

เมื่อมีอาการตากระตุก สามารถดูแลรักษาด้วยตนเองได้ในเบื้องต้น ด้วยการประคบ และการนวด รวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดความเสี่ยงอาการตากระตุก ดังนี้

1.ประคบร้อน ประคบเย็น ประมาณ 10 นาที สามารถบรรเทาอาการตากระตุกได้ โดยเริ่มจากประคบอุ่นก่อน แล้วก่อนนอนค่อยประคบเย็น

2.นวดกดจุด โดยเริ่มจากใช้แค่หัวแม่มือนวดเป็นวงกลมบริเวณรอบดวงตา ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาได้

3.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

• พยายามไม่เครียด หากิจกรรมที่ชอบทำเพื่อความผ่อนคลาย
• เข้านอนให้เป็นเวลา นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
• พักสายตาระหว่างวัน โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานอยู่หน้าจอนาน ๆ
• ใช้น้ำตาเทียม เพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา เพื่อป้องกันอาการตาแห้ง
• รักษาอาการโรคภูมิแพ้ให้ดีขึ้น
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบทั้ง 5 หมู่
• ลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนลง

ตากระตุกแบบไหนที่ต้องไปพบแพทย์

• ตากระตุกติดต่อกันทุกวันเกิน 1 สัปดาห์
• มีอาการกระตุกของใบหน้าร่วมด้วย
• ตากระตุกพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง
• มีอาการตาแดงหรือมีขี้ตา
• ไม่สามารถลืมตาได้ เปลือกตาด้านบนห้อยย้อยลงมารบกวนการมองเห็น
• ตาเกร็งหรือกระตุกแรงมาก กระทบการใช้ชีวิตประจำวัน

คนไข้สามารถประเมินอาการของตัวเองได้ในเบื้องต้นครับ หากมีอาการข้างต้น ควรรีบพบแพทย์ เพราะโดยปกติอาการตากระตุกจะเกิดขึ้นไม่นาน แต่ในเคสที่อาการตากระตุกติดต่อกันนาน กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน อาจจะต้องใช้วิธีทางการแพทย์เพื่อรักษา

วิธีรักษาอาการตากระตุก

อาการตากระตุก มีวิธีการรักษาหลายแบบครับ ทั้งการฉีดโบท็อกซ์แก้ตากระตุก การรับประทานยา และการผ่าตัดศัลยกรรม

ฉีดโบท็อกซ์แก้ตากระตุก

โบท็อกซ์ หรือโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) สามารถรักษาอาการตากระตุก หยุดอาการตากระตุกได้ชั่วคราวประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อก และการดูแลตัวเองหลังฉีด ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี ? หมอจะแนะนำยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะสมให้ครับ เมื่อโบท็อกซ์หมดฤทธิ์สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์ แต่การรักษาด้วยโบท็อกจะต้องประเมินอาการที่เป็นอยู่ร่วมด้วยครับ อาจจะไม่เห็นผลในบางเคสได้ครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม : โบท็อกสลายเร็ว เพราะอะไร ? ฉีดซ้ำได้ไหม อยากให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน

นอกจากฉีดโบท็อกซ์แก้ตากระตุก โบท็อกยังนิยมฉีดหลายจุดบนใบหน้า ช่วยลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า เช่น 

• ฉีดโบลดริ้วรอย 
• ฉีดโบท็อกตีนกา 
• ฉีดโบท็อกหางตา   
• ฉีดโบท็อกลดกราม

รับประทานยา

ยาบางชนิด เช่น ยาลอราซีแพม (Lorazepam) ยาไตรเฮกซีเฟนิดิล (Trihexyphenidyl) และยาโคลนาซีแพม (Clonazepam) สามารถช่วยบรรเทาอาการและหยุดอาการตากระตุกชั่วคราวได้ ควรใช้ภายใต้ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์จากการรับประทานยา

ผ่าตัดศัลยกรรม

การผ่าตัด เช่น การตัดกล้ามเนื้อ เป็นการตัดกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทตาของเปลือกตาออกไม่ใช่วิธีรักษาให้หายขาด แต่เป็นการช่วยบรรเทาอาการตากระตุกที่มีความรุนแรงให้น้อยลง หรือเบาลงได้

โบท็อก รักษาอาการตากระตุกได้อย่างไร ?

การฉีดโบท็อกซ์แก้ตากระตุก เป็นวิธีที่นิยมและแนะนำมากที่สุด เพราะสามารถรักษาอาการตากระตุกได้เห็นผล ตรงจุด หมอจะฉีดโบท็อกซ์ลงไปบริเวณกล้ามเนื้อรอบดวงตาที่มีอาการกระตุก

ตัวยาโบท็อกจะออกฤทธิ์จับกับปลายประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาตชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้ออยู่ในสภาพอ่อนแรง ผ่อนคลายลงชั่วคราว ก็จะไม่สามารถหดเกร็ง ช่วยหยุดอาการตากระตุกได้

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกซ์แก้ตากระตุก

• พบแพทย์เพื่อปรึกษาประเมินปัญหา ก่อนฉีดโบท็อกซ์แก้ตากระตุก
• เลือกยี่ห้อโบท็อกที่เหมาะสม โบท็อกแต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของการกระจายตัวยา ความเร็วในการออกฤทธิ์ ระยะเวลาคงผลลัพธ์ และราคา
• แพทย์ฉีดโบท็อกด้วยเข็มขนาดเล็กไปยังบริเวณกล้ามเนื้อที่มีการกระตุก

ดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์แก้อาการตากระตุก

• หลังฉีดโบท็อกควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
• หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง 48 ชม. เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด การทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึก
• รับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี มีงานวิจัยพบว่าการกินแร่ธาตุ zinc 50 mg ช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น และทำงานดีขึ้น
• งดอาหารรสจัด และอาหารหมักดอง
• งดนอนราบ นอนคว่ำ หรือก้มหัวต่ำกว่าอก 3 ชม.
• งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

ฉีดโบท็อกซ์แก้ตากระตุกที่ไหนดี ?

ฉีดโบท็อกซ์แก้ตากระตุกที่ V Square Clinic ฉีดโบท็อกโดยแพทย์มากประสบการณ์กว่า 15 ปี ใช้โบท็อกแท้ทุกยี่ห้อ ผ่านการรับรองจากอย

• โบท็อก Allergan ของอเมริกา
• โบท็อก Dysportของอังกฤษ
• โบท็อก Aestox Nabota ของเกาหลี
• โบท็อก Xeomin ของเยอรมัน

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ หมอแกะกล่องเปิดขวดใหม่ ดูดยาต่อหน้าจนหมด ให้กล่องและขวดกลับบ้าน สามารถโทรตรวจสอบเลข Lot กับบริษัทนำเข้าได้ มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัย

สรุป

ฉีดโบท็อกซ์แก้ตากระตุกได้ เป็นวิธีรักษาอาการตากระตุกที่เห็นผล และปลอดภัย สามารถปรึกษาหมอก่อนได้ในเบื้องต้น เนื่องจากตากระตุกเกิดได้จากหลายสาเหตุ มีทั้งที่สามารถหายได้เอง และต้องรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ วี สแควร์ คลินิก ยังมีอีกหลากหลายหัตถการและเครื่องมือทันสมัย ช่วยแก้ปัญหาผิว ลดริ้วรอยร่องลึก และปรับรูปหน้า สามารถส่งรูปหน้ามาให้หมอประเมินก่อนได้ ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ