ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล
ปัจจุบันการ ฉีดโบท็อก (Botox) ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้สวยงามขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนครับ
ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล จึงเป็นคำถามที่มีหลาย ๆ คนสอบถามกันเข้ามามาก เพราะอยากเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ แต่นอกจากนั้นยังมีคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับโบท็อกที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งหมอได้รวบรวมไว้ในบทความนี้ครับ
สารบัญ ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล
รีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย ลดกราม
เพื่อตอบข้อสงสัยที่ว่าฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล หมอมีรีวิวฉีดโบท็อก ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้ามาให้ดูกันครับ ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลง ริ้วรอยลดลง หน้าเรียวกระชับขึ้น
ก่อนทำ : กรามสองข้างไม่เท่ากัน รูปหน้าไม่ได้สัดส่วน
หลังทำ : ฉีดโบท็อกลดดรามหน้าเรียว ปรับรูปหน้าให้สมส่วน กรอบหน้าชัด
หลังทำ : ฉีดโบท็อกลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว
ก่อนทำ : ริ้วรอยบนหน้าผาก หน้าดูแก่ก่อนวัย
หลังทำ : ฉีดโบท็อกหน้าผาก ลดริ้วรอย หน้าเด็กลง
ก่อนทำ : หน้ากลม หน้าบาน อยากหน้าสวยเพื่อถ่ายรูปในวันรับปริญญา
หลังทำ : ฉีดโบท็อกลดกราม และฉีดฟิลเลอร์คาง เสริมให้หน้าดูมีมิติ
ก่อนทำ : คนไข้มีริ้วรอยหน้าผาก รอยย่นจมูก ระหว่างคิ้ว และมีริ้วรอยตีนกาหมอจึงแก้ไขด้วยการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยทั่วหน้าด้วยโบท็อกยี่ห้อ Dysport 300 U
หลังทำ : ริ้วรอยลดลง หน้าดูอ่อนกว่าวัย
ก่อนทำ : คนไข้มีริ้วรอยหน้าผาก ระหว่างคิ้ว คิ้วตก หางตาตก
หลังทำ : ริ้วรอยลดลง หางตาดูยกขึ้นหน้าดูอ่อนกว่าวัย
หลังฉีดโบท็อก อยากเห็นผลเร็ว ทำอย่างไร?
เทคนิคฉีดโบท็อกหรือวิธีฉีดโบท็อกสำคัญครับ แพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าและฉีดโบท็อกมา หลายเคส จะสั่งสมประสบการณ์มานาน รู้เทคนิคในการฉีดโบท็อกที่ถูกต้องเหมาะสม ซึ่งจะส่งผลต่อกลไกการออกฤทธิ์ที่ช้าเร็วของโบท็อก
สำหรับใครที่ฉีดโบท็อกแล้วอยากเห็นผลเร็ว มีงานวิจัยระบุครับว่า การรับประทานแร่ธาตุสังกะสี หรือ zinc 50 mg ก่อนและหลังการฉีดโบท็อก จะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้นและดีขึ้น แต่อาจไม่จำเป็นสำหรับทุกเคสครับ ซึ่งในเรื่องนี้สามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากแพทย์ที่ดูแลเคสได้ครับ
วิธีสังเกตตัวเองว่ามีอาการขาดธาตุสังกะสี
- ผมร่วงแตกปลาย
- เป็นแผลเรื้อรัง
- ผิวแห้งลอก
- เป็นผื่นง่าย
- เล็บแห้งเปราะ หักง่าย
โบท็อกอยู่ได้นานเท่าไหร่ ?
โดยปกติแล้วโบท็อกริ้วรอยจะอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน ส่วนโบท็อกกรามจะอยู่ได้ 5-6 เดือน ถ้าหลังฉีดโบท็อก มีการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง อาจจะอยู่ได้นานขึ้นครับ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความ ข้อห้าม! ก่อน-หลังฉีดโบท็อก ดูแลตัวเองอย่างไร ให้ Botox อยู่ได้นานขึ้น
รู้ว่าฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผลกันไปแล้ว แต่ถ้าอยากให้โบท็อกอยู่ได้นาน การดูแลหลังฉีดโบท็อกมีส่วนสำคัญมากครับ เพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจน และคงผลลัพธ์ของโบท็อกให้อยู่ได้นานขึ้น
โบท็อกอเมริกา อังกฤษ เกาหลี เยอรมัน แตกต่างกันอย่างไร ?
โบท็อกอเมริกา อังกฤษ เกาหลี และเยอรมัน จะมีความแตกต่างกันทั้งกรรมวิธีในการผลิต, ความบริสุทธิ์, ชนิด Protein Complex, ขนาดของ molecule complex และความคงทนในการเก็บรักษาครับ โดยสามารถอธิบายคุณสมบัติที่ทำให้โบท็อกแต่ละยี่ห้อแตกต่างกัน ได้ดังนี้
โบท็อกอเมริกา ยี่ห้อ Allergan
โบท็อกอเมริกา ยี่ห้อ Allergan ผลิตโดย บริษัทอัลเลอร์แกน (Allergan) สหรัฐอเมริกา ถือเป็นโบท็อกตัวแรกที่นำมาใช้เพื่อความงาม เป็นต้นแบบของโบท็อกทุกชนิด มีงานวิจัยรับรองยาวนานที่สุด กว่า 3,500 งานวิจัย ว่ามีความปลอดภัย ผ่านการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% ทำให้โอกาสดื้อโบท็อกน้อย และผลการรักษาดีที่สุดเมื่อเทียบกับโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ
นอกจากนี้ยังให้ผลการรักษาที่แม่นยำที่สุด ยากระจายตัวแคบที่สุด ทำให้สามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้แม่นยำ และได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด แต่ก็ต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงครับ
โบท็อกอังกฤษ ยี่ห้อ Dysport
โบท็อกอังกฤษ ยี่ห้อ Dysportผลิตโดยบริษัท Ipsen มีจุดเด่น คือ ฉีดแล้วกระจายได้อย่างทั่วถึง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบ ๆ เหมาะกับการฉีดโบท็อกด้วยเทคนิค dermolift เพื่อยกกระชับหน้า สำหรับคนที่ต้องการลดริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติ จะตึงขึ้นประมาณ 50% และเหมาะกับการฉีดลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ลดต้นแขน ลดน่องครับ
ด้วยความที่โบท็อกอังกฤษ มีกระจายตัวกว้าง จึงต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และมีความระมัดระวังในการฉีดสูงครับ เพราะหากไม่ชำนาญมากพอ อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ตาตก ยิ้มไม่สุด ปากเบี้ยว ได้ครับ
โบท็อกเกาหลี ยี่ห้อ Nabota และยี่ห้อ Aestox
โบท็อกยี่ห้อ Nabota ผลิตโดยบริษัท DAEWOONG เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา U.S.FDA approved (2018)
ส่วนโบท็อกยี่ห้อ Aestoxถูกผลิตโดยบริษัท Hugel Inc. และนำเข้าโดยบริษัท Aestec Pharma ตัวยาจะมีการพัฒนาให้เทียบเท่ากับโบท็อกอเมริกา Allergan ทำให้ออกฤทธิ์ใกล้เคียงกับโบท็อกอเมริกา โดยมีการกระจายตัวยาแคบ ออกฤทธิ์แม่นยำตรงจุด เห็นผลไว แต่อยู่ได้สั้นกว่าโบท็อกอเมริกา
โบท็อกเยอรมัน ยี่ห้อ Xeomin
โบท็อกเยอรมัน ยี่ห้อ Xeomin นำเข้าโดยบริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย จำกัด (Merz Aesthetics) เป็นโบท็อกที่พัฒนาโดยนำเอาข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกัน คุณสมบัติต่าง ๆ จะอยู่กึ่งกลางระหว่างอเมริกากับอังกฤษ คือมีความบริสุทธิ์สูงและตัวยาจะไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ทำให้ได้ผลที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป และยังมีงานวิจัยแสดงว่า Xeomin ได้ผลดีในเคสที่ดื้อยา และหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี
โบท็อกอเมริกาอยู่ได้ 1 ปี จริงไหม ?
ถ้าอ้างอิงตามเอกสารจริง ๆ โบท็อกของอเมริกาอยู่ได้ 3-4 เดือน หรือในบางเคส อาจจะอยู่ได้ 5-6 เดือน แต่ไม่ถึงปีครับ เพราะกล้ามเนื้อจะคลายตั้งแต่ 3-4 เดือนแรก แต่ที่ริ้วรอยยังไม่ค่อยกลับมา เป็นเพราะว่าชั้นผิวของเราเมื่อไม่มีรอยพับนาน ๆ แล้วจะพับยากขึ้น เลยยังดูเหมือนคงผลลัพธ์เดิมอยู่ หากอยากฉีดโบท็อกเพื่อรักษาผลลัพธ์ โบท็อกควรฉีดทุกกี่เดือน หมอแนะนำว่าสามารถฉีดโบท็อกได้ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไปครับ
สำหรับกรามถ้างบน้อยก็ฉีดเมื่อครบ 1 ปีได้เลย เมื่อโบท็อกลดกรามหมดฤทธิ์ 6 เดือน กรามจะยังไม่ได้กลับมาใหญ่เท่าเดิม ต้องใช้เวลาในการที่เราเคี้ยวไปเรื่อยๆ พอกล้ามเนื้อเริ่มกลับมาทำงาน เวลาเราเคี้ยวมันก็กลับมาโตขึ้น เหมือนเวลาเรายกเวทก็จะใช้เวลาประมาณปีนึงถึงจะคืนสภาพเดิมครับ
ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี ?
จะเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยครับ หมอได้เขียนอธิบายไว้ในบทความ ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด แตกต่างกันอย่างไร แบบไหนคุ้ม ผ่าน อย. ปี 2022 โดยในเบื้องต้นแพทย์จะทำการวิเคราะห์และประเมินปัญหา จากนั้นจะแนะนำยี่ห้อโบท็อกที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เช่น ลดกราม หน้าเรียว ลดริ้วรอย หรือฉีดเฉพาะจุด ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเป็นธรรมชาติ ในราคาที่คุ้มค่าครับ
จุดเด่น โบท็อกยี่ห้อ Allergan(อเมริกา)
- มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ทำให้โอกาสในการดื้อโบท็อกน้อยลลง
- ให้ผลการรักษาที่แม่นยำที่สุด เนื่องจากยากระจายตัวแคบ ทำให้หมอสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้
- เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอยเฉพาะจุด เช่น ตีนกา ระหว่างคิ้ว ขมวดคิ้ว ฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า ลดกราม ลิฟกรอบหน้าด้วยเทคนิค Nefertiti lift
- มีอายุการใช้งานนานกว่ายี่ห้อโบท็อกอื่น ๆ ประมาณ 20%
จุดเด่น โบท็อกยี่ห้อ Dysport (อังกฤษ)
- ยากระจายตัวกว้าง จึงเหมาะกับการฉีดในกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่นริ้วรอยหน้าผาก ฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อต้นแขน ลดน่อง
- เหมาะกับคนที่ต้องการ ลดกลิ่นเหงื่อ รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เพราะจะกระจายตัวครอบคลุมต่อมเหงื่อได้ดี เหงื่อแห้งสนิทมากกว่ายี่ห้ออื่น
- โมเลกุลมีขนาดเล็กลงจึงทำให้โบท็อกเข้าเซลล์ประสาทได้ดีขึ้น โอกาสดื้อโบท็อกน้อยลง และออกฤทธิ์ไวขึ้น
- เหมาะสำหรับฉีดยกกระชับด้วยเทคนิค dermolift และช่วยลดริ้วรอยทั่วใบหน้า
- หลังฉีดจะรู้สึกตึงประมาณ 50% ไม่ตึงแข็งเกินไป เบาสบายผิว ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
จุดเด่น โบท็อกยี่ห้อ Xeomin (เยอรมัน)
- มีความบริสุทธิ์สูง ไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ฉีดแล้วไม่ตึง
- มีงานวิจัยแสดงว่า Xeomin ได้ผลดีในเคสที่ดื้อยา (โดยที่เคสนั้นๆต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี)
- เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอย และการลิฟกรอบหน้า Dermolift
จุดเด่น โบท็อกยี่ห้อ Nabota (เกาหลี)
- เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็ว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลเร่งด่วน
- เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา U.S.FDA approved (2018)
- เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอย หน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว และสามารถนำมาใช้เพื่อปรับรูปหน้า ลดกราม ยกคิ้ว กระชับหน้า
จุดเด่น โบท็อกยี่ห้อ Aestox (เกาหลี)
- ตัวยามีความบริสุทธิ์ ทำให้โอกาสดื้อโบท็อกลดน้อยลง
- ออกฤทธิ์เร็ว และเห็นผลไว
- มีความอ่อนโยน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ หน้าไม่แข็ง
- เหมาะสำหรับฉีดลดริ้วรอยหางตา รอยย่นหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ฉีดปรับรูปหน้า ลดเหงื่อ
ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผลเกิดจากอะไร ?
ฉีดโบท็อกแล้วไม่เห็นผล เกิดได้จาก 3 ปัจจัยหลัก ๆ ได้แก่
- โบท็อกผสมน้ำเกลือมากเกินไป ทำให้ตัวยาถูกเจือจาง ฉีดแล้วไม่เห็นผล ซึ่งถ้าถูกเจือจางมาก ๆ จะทำให้ยาจะกระจายไปจุดข้างเคียง อาจทำให้ตาตก ปากเบี้ยวได้ครับ
- หมอฉีดโบท็อกไม่ถูกตำแหน่งกล้ามเนื้อ ทำให้ฉีดแล้วไม่เห็นผล ซึ่งจะต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น เพราะแพทย์จะมีความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างของใบหน้า และสามารถกำหนดจุดที่ฉีดได้ถูกต้อง
- คนไข้มีอาการดื้อโบท็อก อาการนี้จะเกิดจากการที่เคยฉีดโบท็อกปลอมมาก่อน เมื่อมีอาการดื้อโบท็อกต่อให้คนไข้ฉีดโบท็อกซ์อเมริกาหรือโบท็อกเกาหลีก็จะเกิดอาการดื้อโบท็อกได้ เพราะส่วนมากถ้าดื้อแล้วจะดื้อทุกยี่ห้อครับ
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ฉีดโบท็อกแล้วเห็นผล ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีความชำนาญสามารถตรวจสอบได้ว่าใช้โบท็อกแท้หรือไม่ และต้องให้แพทย์ผสมยาให้ดูต่อหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าได้โบท็อก 100 ยูนิต เต็ม ๆ ไม่ผสมน้ำเกลือเยอะเกินไป และได้ตัวยามีประสิทธิภาพครับ
ฉีดโบท็อกบ่อย ๆ แล้วมีอาการดื้อโบท็อก จึงทำให้ไม่เห็นผลจริงไหม ?
ฉีดโบท็อกบ่อย ๆ แล้วมีอาการดื้อโบท็อก จึงทำให้ไม่เห็นผลจริงไหม ? จริงครับ หากคนไข้ฉีดโบท็อกบ่อยเกินไป ร่างกายของคนไข้จะสร้างภูมิคุ้มกันออกมาต่อต้านโบท็อกซ์มากกว่าปกติ ทำให้การฉีดครั้งต่อ ๆ ไปไม่ได้ผล หากฉีดโบลดกราม กรามกลับมาเด้งไว หรือฉีดโบลดริ้วรอย, ฉีดโบท็อกตีนกา ริ้วรอยจะกลับมาไวกว่าเดิม
เนื่องจากโบท็อกให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร จึงต้องมีการฉีดซ้ำต่อเนื่องตามระยะเวลา แต่ไม่ควรฉีดโบท็อกถี่เกินไป ควรเว้นระยะห่างประมาณ 3-4 เดือน/ครั้ง หรือ 2-3 ครั้ง/ปี
มีปัจจัยใดบ้าง ที่ส่งผลต่อระยะเวลาเห็นผลของโบท็อก ?
- จำนวนยูนิตที่ใช้ การฉีดโบท็อกแต่ละจุดจะมีการจำกัดจำนวนยูนิตอยู่ครับว่าไม่ควรฉีดเกินกี่ยูนิต ซึ่งถ้าหากหมอใช้จำนวนยูนิตที่เยอะเกินไป อาจทำให้โบท็อกกระจายไปยังจุดอื่นที่ไม่ต้องการได้ หรือถ้าหากฉีดน้อยไปก็จะทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ไม่ชัดเจน ปริมาณยูินิตที่เหมาะสมสำหรับแต่ละจุดอยู่ที่
- ตำแหน่งที่ฉีดโบท็อก ขนาดของกล้ามเนื้อในแต่ละบริเวณจะไม่เท่ากัน จึงทำให้การออกฤทธิ์ของโบท็อกมีระยะเห็นผลที่ต่างกันเล็กน้อยครับ
- ความเข้มข้นของตัวยา : โบท็อกที่ผสมน้ำเกลือมากเกินไปจะมีความเจือจางมาก จึงทำให้มีโอกาสที่ตัวยาจะกระจายไปยังจุดอื่นที่ไม่ต้องการ ระยะเวลาเห็นผลจึงช้าลง
- ยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ :โบท็อกแต่ละยี่ห้อจะมีขนาดโมเลกุลที่ต่างกัน ซึ่งโมเลกุลนี้มีผลต่อการ กระจายตัวยา ถ้าออกแบบให้ยากระจายตัวกว้าง ก็จะทำให้เห็นผลไวขึ้นครับ
- การดื้อโบท็อก : เกิดจากร่างกายคนไข้เองได้สร้างภูมิคุ้มกันออกมาต่อต้านโบท็อกซ์มากกว่าปกติ ทำให้การฉีดครั้งต่อ ๆ ไปไม่ได้ผล หมอจะแบ่งระดับความรุนแรง ดังนี้ครับ
สรุป
หลังฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก
อย่างไรก็ตาม การฉีดโบท็อกควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ครับ เพราะมีหลาย ๆ เคสที่เคยฉีด botox ไม่เห็นผล ซึ่งเกิดจากวิธีการฉีดการฉีดที่หมอได้กล่าวไปในตอนต้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก หมออยากให้ศึกษาข้อมูลในเบื้องต้นก่อนครับ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามกับคลินิกเสริมความงามที่สนใจ และถ้าแพทย์มาตอบเอง จะทำให้ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนชัดเจนครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 30 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ