ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ ? กี่วันเห็นผลชัดเจน ?
ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่? หนึ่งในข้อสงสัยที่คนไข้ต้องการรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งจริง ๆ แล้วหลังฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนทันทีครับ และจะเข้าที่ใน 2-3 สัปดาห์หลังฉีด
สำหรับข้อสงสัยอื่น ๆ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ต้องพักฟื้นหรือไม่? ควรดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างไร? หมอมีคำตอบและข้อแนะนำทั้งหมด ในบทความนี้ครับ
สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ ?
ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์ทันทีประมาณ 70-80% ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น คนไข้สามารถใช้หน้าได้ตามปกติครับ
โดยหลังฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการบวมเล็กน้อย เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ปกติ หลังฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน ? ต้องรอให้ฟิลเลอร์ผสานเข้ากับผิวก่อน ซึ่งจะค่อย ๆ หายบวมไปเอง ประมาณ 4-5 วัน และเห็นผลลัพธ์ฟิลเลอร์เข้าที่ชัดเจน ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ฟิลเลอร์จึงเป็นหัตถการที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และเห็นผลชัดเจนหลังทำ
ปัจจุบัน “ฟิลเลอร์” แท้ สาร Hyaluronic Acid ถูกนำมาใช้ในวงการความงามเพื่อปรับรูปหน้า เติมเต็มหรือเสริมส่วนที่บกพร่องให้กลับมาอ่อนเยาว์ เต่งตึงได้อีกครั้ง โดยฟิลเลอร์แท้จะมีความปลอดภัยสูง และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนครับ
บทความแนะนำ
ตัวอย่าง รีวิวฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 cc + ฟิลเลอร์ใต้ตา 1 cc เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ
ด้านอายุการใช้งาน อายุฟิลเลอร์จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นที่ใช้ครับ โดยทั่วไปอยู่ได้ 6-24 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และเทคนิคในการฉีดของแพทย์ การดูแลตัวเองของคนไข้ รวมถึงความเหมาะสมตามลักษณะใบหน้าของแต่ละบุคคล
แพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่า ผิวและจุดที่คนไข้ต้องการฉีดเหมาะกับฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนรุ่นใด ซึ่งหมอเคยเขียนข้อมูลอายุฟิลเลอร์ในแต่ละจุดไว้แล้ว สามารถติดตามอ่านได้ที่ ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ในแต่ละจุด แต่ละยี่ห้อ
รู้พฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้าลง
ฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ใช้เวลาไม่นานครับ แต่หากทำพฤติกรรมที่เสี่ยงทำให้อาการบวมยุบช้าลง อาจส่งผลต่อระยะเวลาการเข้าที่ของฟิลเลอร์ได้ครับ
- การสัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีดบ่อย ๆ และการถูกความร้อนโดยตรงเป็นเวลานาน อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง หรือได้ผลลัพธ์ไม่ตรงตามต้องการ
- การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ทำให้หลอดเลือดขยายตัว และเกิดอาการบวมช้ำมากขึ้นหลังฉีด รอยเขียวช้ำหายบวมช้า และพฤติกรรมเหล่านี้ยังทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร
- การรับประทานอาหารที่ส่งผลต่ออาการบวม การรับประทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารหมักดอง ของแสลงที่มีกรรมวิธีทำที่ไม่สะอาด มีการปนเปื้อนของเชื้อโรค อาจทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อหลังฉีดได้
หรือการรับประทานอาหารที่มีรสหวานจัด รสเค็มจัด รสเผ็ดจัด อาจทำให้เกิดการบวมช้ำมากขึ้น ฟิลเลอร์เข้าที่ช้าลงครับ
ข้อควรรู้ เพื่อฉีดฟิลเลอร์อย่างปลอดภัย
- ฉีดฟิลเลอร์แท้เท่านั้น
เพื่อให้ฉีดฟิลเลอร์อย่างปลอดภัย หัวใจสำคัญคือการใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น โดยจะต้องเป็น Hyaluronic Acid ที่ได้มาตรฐาน มี อย.รับรอง ฉีดแล้วสลายหมด ไม่มีสารตกค้าง ก่อนฉีดฟิลเลอร์ คนไข้ควรศึกษา วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์ HA (Hyaluronic Acid) แท้ที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันไม่ให้เจอฟิลเลอร์ปลอม ที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ เช่น อาการอักเสบติดเชื้อ ฟิลเลอร์ไหลย้อยไม่เป็นทรง
- เลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีด
ฟิลเลอร์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามเทคโนโลยีการผลิต ควรเลือกให้เหมาะกับตำแหน่งที่ฉีด และระดับปัญหาของแต่ละคนฟิลเลอร์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามเทคโนโลยีการผลิต ควรเลือกให้เหมาะกับตำแหน่งที่ฉีด และระดับปัญหาของแต่ละคน
โดยแต่ละตำแหน่งหมอมีรุ่น/ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่แนะนำดังนี้ครับ
- ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ควรเลือกฟิลเลอร์ตัวที่อยู่ได้นานที่สุด เช่น Juvederm Ultra Plus, Restylane Volyme
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ควรเลือกฟิลเลอร์เนื้ออ่อน เพราะจะทนต่อการขยับได้ดี ฉีดแล้วเรียบเนียนไปกับผิว ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เช่น Juvederm Volift, Restylane Volyme, Belotero Intense
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความคงตัว ดูเป็นธรรมชาติฉีดแล้วผิวไม่ฟูมากจนเกินไป Restylane รุ่น Defyne, Vital Light หรือ Juvederm Volite
- ฉีดฟิลเลอร์คาง ควรเลือกฟิลเลอร์ที่เนื้อแน่น มีความคงตัวสูง เช่น Juvederm Voluma, Restylane Perlane Lyft
- ฟิลเลอร์ปาก ควรเลือกฟิลเลอร์เนื้อที่มีความนิ่ม ละเอียด ยืดหยุ่นสูง เช่น Juvederm Voluma, Restylane Kysse
- ฟิลเลอร์หน้าผาก ควรเลือกฟิลเลอร์เนื้อเนียนละเอียด ให้ผลลัพธ์ดูธรรมชาติ เช่น Juvederm Volbella Restylane รุ่น Vital
นอกจากฟิลเลอร์ที่แนะนำไปข้างต้นแล้ว ยังมีฟิลเลอร์รุ่น/ยี่ห้อ ๆ ที่สามารถนำมาใช้ฉีดแก้ปัญหาผิว เติมเต็มริ้วรอย ปรับรูปหน้าได้เช่นกันครับ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี อเมริกา ยุโรป เกาหลี สรุปครบยี่ห้อยอดนิยม ต่างกันอย่างไร ?
ทำความรู้จักกับฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid
แบรนด์ยอดนิยมที่ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. มีความปลอดภัย
- ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์
ต้องมั่นใจว่าแพทย์ผู้ที่จะฉีด เป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ทางกายวิภาค มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้องเหมาะสม เป็นแพทย์ตัวจริงที่สามารถสอบประวัติของแพทย์ได้ รวมถึงควรมีรีวิวเคสคนไข้ ที่เคยเข้ามารับการบริการ มากพอสมควร เพื่อเพิ่มความมั่นใจครับ
โดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ เลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับตำแหน่งที่ฉีด และไม่มีเทคนิคที่ถูกต้อง อาจทำให้เสี่ยงเกิดปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน ผลลัพธ์ที่ได้ดูไม่เป็นธรรมชาติได้ครับ
- คลินิกที่รับบริการต้องได้มาตรฐาน
สุดท้ายคลินิกที่รับบริการต้องได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตและได้รับการรับการอนุญาตอย่างถูกต้อง มีอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ที่สะอาดปลอดภัย เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น อักเสบ ติดเชื้อ หากไม่มีความสะอาดมากพอครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ดูแลอย่างไรให้เข้าที่ไวขึ้น ?
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่เห็นผลเร็ว หากมีการดูแลตัวเองหลังฉีด และปฏิบัติตามข้อควรที่หมอแนะนำ โดยหลัก ๆ แล้วควรเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้อาการบวมหายช้า หรือเกิดอาการอักเสบ ดังนี้ครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ทันที
- อาจมีอาการบวมแดง เชียวช้ำหรือคันได้ในจุดที่ฉีด คนไข้ห้ามแกะ เกา หรือนวดในบริเวณนั้น ๆ โดยอาการจะดีขึ้นได้เองใน 3 วัน
- เลี่ยงความร้อนทุกชนิด รวมถึงกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด จะช่วยลดอาการบวมได้เร็วขึ้น
- ควรนอนหงายอย่างน้อย 2 คืน การนอนคว่ำกดทับหน้า อาจทำให้เกิดการกดทับและทำให้ตำแหน่งของฟิลเลอร์มีการคลาดเคลื่อนได้ครับ
- ดื่มน้ำผัก ผลไม้ สมุนไพรช่วยลดบวม เช่น น้ำฟักทอง น้ำมะพร้าว น้ำใบบัวบก
หลังฉีด 24 ชั่วโมง
- งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม
- หลีกเลี่ยงการกดทับในบริเวณที่ฉีด เช่น หากเพิ่งฉีดฟิลเลอร์หน้าผากก็ไม่ควรใส่หมวก หรือหากฉีดฟิลเลอร์คางก็ไม่ควรนั่งเท้าคาง
หลังฉีด 7-14 วัน
- เลี่ยงการดื่มแอลลกอฮอล์ และการงดสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะทำให้ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
- เลี่ยงการรับประทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารหมักดอง และอาหารรสจัด อาจทำให้เกิดอาการอักเสบได้ง่าย บวมช้ำมากขึ้น
ข้อควรรู้ : มีหลายงานวิจัยที่ระบุว่าสารชื่อ Bromelain ที่อยู่ในแกนสับปะรด สามารถกินเพื่อช่วยให้อาการปวดบวมช้ำหลังฉีดฟิลเลอร์หายได้ไวขึ้นอย่างชัดเจน
ข้อปฏิบัติหลังฉีดให้ฟิลเลอร์ ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ อยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด การดูแลตัวเองและพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน หมอมี 4 วิธียืดอายุให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานมาแนะนำครับ
- ดื่มน้ำมาก ๆ ตามปกติคือ วันละ 1.5-2 ลิตร เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน
- อยู่ในที่มีอากาศเย็น และเลี่ยงความร้อนทุกชนิด เช่น การตากแดดเป็นเวลานาน ๆ การอบซาวน่า การออกกำลังกายหนัก ๆ
- งดการบีบ นวดและขยับใบหน้าเยอะ
- งดการทำทรีทเมนต์ เลเซอร์ร้อนทุกชนิด เช่น RF Thermage อย่างน้อย 1 เดือน
อ่านบทความเพิ่มเติม : [ข้อห้าม-ข้อปฏิบัติ] ก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ ก่อน-หลังร้อยไหม เพื่อให้ผลอยู่ได้นานขึ้น
สรุปฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผลชัดเจน ทำไมบางคนถึงไม่เห็นผล ?
การฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนหลังทำครับ เข้าที่เร็ว ใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์เท่านั้น จึงไม่ต้องกังวลว่าฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ ต้องรอนานไหม การฉีดฟิลเลอร์จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีในการปรับรูปหน้า มีความปลอดภัย ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกให้ตื้นขึ้น และใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงได้ครับ
ส่วนคนที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หรือไม่เห็นผล เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ฟิลเลอร์ที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน ฉีดโดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ รวมถึงละเลยการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
ดังนั้นก่อนฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหัตถการ วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ รวมไปถึงวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่ไว เห็นผลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และผลลัพธ์อยู่ได้นานครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง Inbox Facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ