หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ได้รับความนิยม ทั้งฉีดเพื่อลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า “ฟิลเลอร์ปาก” ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนเข้ามาฉีดปรับแต่งให้รูปปากให้อวบอิ่ม สวยงามตามเทรนด์ในปัจจุบัน และยังมีหลายคนที่ไม่รู้วิธีการดูแลตัวเองที่ดีหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรทำอย่างไร ? ห้ามกินอะไรบ้าง? หมอมีข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก มาแนะนำครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ดูแลตนเองอย่างไร ?
เพื่อให้หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ทุกคนสามารถดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม หมอแนะนำให้ปฏิบัติ ดังนี้
ห้ามนวด คลึง และหลีกเลี่ยงการสัมผิสบริเวณปาก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ห้ามนวด คลึง บีบ หรือปั้นทรงปากด้วยตัวเองครับ เนื่องจากจะยังมีรอยเข็ม รอยช้ำ และเนื้อฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี หากสัมผัสแรง ๆ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ และปากเสียรูปทรงได้
โดยฟิลเลอร์ปากจะยุบบวมและเห็นผลชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์ หากระหว่างนี้มีอาการระคายเคืองมาก ปวด บวม และไม่หายใน 3 วัน ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหรือรับยาทานเพิ่มครับ
งดการใช้หลอดดูดน้ำ และสูบบุหรี่
การฉีดฟิลเลอร์ปากให้ได้รูปทรงที่สวยงาม ไม่ว่าจะปากกระจับ ปากสายฝอ. ที่สำคัญคือการจัดหรือปั้นทรงปากของหมอ ดังนั้นหลังฉีดเมื่อได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจแล้ว ควรระวังการขยับรูปปาก เช่น การดูดน้ำจากหลอด การสูบบุหรี่ การจูบ เพราะอาจทำให้ปากที่ปั้นมาเสียทรงได้ (แนะนำให้งดอย่างน้อย 12 ชั่วโมง)
หลังฉีดฟิลเลอร์ ผิวจะมีความเซนซิทีฟมากกว่าปกติ ความร้อนจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว แดง เป็นผื่น การดื่มเครื่องดื่มร้อน ๆ จะให้ปากต้องสัมผัสกับความร้อนโดยตรงและทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้น หรือเกิดอาการเจ็บหรืออักเสบได้
งดรับประทานยาและอาหารเสริมบางชนิด
ในยาที่ออกฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด อาหารเสริม หรือวิตามินที่มีส่วนประกอบของกรดผลไม้ จะส่งผลให้คนไข้มีภาวะช้ำได้ง่ายกว่าปกติ ดังนั้นทั้งก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรงดรับประทาน แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก กินอะไรได้บ้าง ?
จริง ๆ แล้ว หลังฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถรับประทานอาหารได้ปกติครับ แต่อย่างที่หมอบอกไปข้างต้นว่า อาหารบางชนิดกินอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้นจึงมีอาหารที่แนะนำให้หลีกเลี่ยงในช่วงแรก ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้แก่
- อาหารหมักดอง
- อาหารรสจัด
- อาหารร้อน ปิ้งย่าง ชาบู
- อาหารดิบ/สุก ๆ ดิบ ๆ
โดยหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว เช่นไก่ ปลา ไข่ขาว ธัญพืช และเสริมด้วยผลไม้ ผักใบเขียว แครอท ฟักทอง อาหารเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน และช่วยฟื้นฟูให้แผลจากเข็มหายเร็วขึ้น
อ่านบทความเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แล้วปากบวม ทำอย่างไร ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แล้วปากบวมเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ครับ เนื่องจากผิวริมฝีบางค่อนข้างบาง เมื่อฉีดฟิลเลอร์จึงมีอาการบวมเข็ม แต่จะค่อย ๆ หายไปเองใน 4-5 วัน ก่อนจะยุบบวมและหายเป็นปกติใน 2 สัปดาห์ครับ
หากมีอาการปวด บวม แดงมาก และเป็นหนักขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อให้วินิฉัยและรักษาโดยเร็วครับ เพราะอาจเกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ โดยเฉพาะในกรณีฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้มีการตรวจสอบฟิลเลอร์ก่อนฉีด
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน ? มีวิธีปฏิบัติตัวอย่างไร ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากทาลิปได้ไหม ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ทาลิปสติกได้ครับ อาจจะเว้นบริเวณรอยเข็มไว้หนึ่งคืน และไม่ทาลิปแรงเกินไป
สำหรับคนที่ฉีดฟิลเลอร์ปาก ก็คงหวังให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ทั้งนี้เมื่อได้ทรงปากที่สวยตามความต้องการแล้ว การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ก็เป็นอีกปัจจัยที่จะรักษาทรงปากให้สวยงามและอยู่ได้นานขึ้นครับ
สรุป
ในการฉีดฟิลเลอร์ ไม่เพียงแต่ต้องใส่ใจตั้งแต่การเลือกคลินิก เลือกหมอ เลือกฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมเท่านั้น แต่การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากก็เป็นอีกครึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อปากทรงสวย ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 24 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ