หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง? การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ และเป็นเรื่องที่หมอได้เน้นย้ำกับคนไข้อยู่เสมอครับ เพราะนอกจากฝีมือของหมอแล้ว ผลลัพธ์หลังฉีดจะออกมาเป็นอย่างไร อยู่ได้นานแค่ไหน มีผลข้างเคียงหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองอย่างการเลือกรับประทานอาหารด้วยเช่นกัน
ดังนั้นเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนไข้เอง ในบทความนี้หมอจะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินไรบ้าง? ตลอดไปจนถึงข้อควรรู้อื่น ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดอยู่ได้นานขึ้นครับ
บทความแนะนำ
เจาะลึก ฟิลเลอร์คืออะไร ?หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง? เพื่อยืดอายุของฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้น คนไข้ควรเอาใจใส่ในเรื่องอาหารการกินมากเป็นพิเศษครับ ซึ่งอาหารต้องห้ามที่หมอแนะนำให้ควรเลี่ยงมีดังนี้
อาหารหมักดองชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผักดอง ผลไม้ดอง ปลาร้า คนไข้ควรงดในช่วง 2 อาทิตย์แรกหลังฉีด เนื่องจากอาหารที่มีกรรมวิธีในการดองมักจะมีสิ่งปนเปื้อนที่อาจจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบได้
ควรเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด หวานจัด เค็มจัด หรืออาหารที่มีโซเดียมสูงครับ เนื่องจากอาหารเหล่านี้มักจะดูดน้ำในร่างกาย ส่งผลให้ตัวบวมหรือที่เราเรียกว่าภาวะบวมน้ำ รวมไปถึงอาหารที่มีรสเผ็ดมาก ๆ จนทำให้หน้าแดง อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีรสหวาน เช่น ชานม น้ำหวาน หรือแม้กระทั่งนมวัวก็ควรเลี่ยงครับเพราะจะไปกระตุ้นการอักเสบบนผิวหน้าได้ง่าย ทำให้แผลบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์หายได้ช้า
อาหารอีกประเภทหนึ่งที่ควรเลี่ยงหลังฉีดฟิลเลอร์ คืออาหารจำพวกของร้อน ของปิ้งย่างที่ต้องหน้าเตาเป็นเวลานาน ๆ ครับ เนื่องจากความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์ละลายหรือเกิดการหดตัวได้ ยิ่งถ้าหากคนไข้ที่ฉีดฟิลเลอร์ปากมาก็ต้องระวังเป็นพิเศษครับ เพราะเวลาทานอาหารบริเวณปากจะสัมผัสกับความร้อนมากกว่าจุดอื่น
อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ จำพวกหอยลวก ปลาร้า ซาซิมิ อาหารญี่ปุ่น ยำกุ้งสด เนื้อที่ปรุงไม่สุกหรือกึ่งสุกกึ่งดิบก็ควรเลี่ยงครับ เพราะอาหารเหล่านี้มักมีสิ่งปนเปื้อนอย่างพยาธิหรือเชื้อโรคที่ส่งผลให้แผลที่เกิดจากรอยเข็มหายช้า หรือทำให้แผลติดเชื้ออักเสบได้
ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง? ที่หมออยากให้เลี่ยงมากที่สุดคือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดครับ เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ ยาดอง วอดก้า วิสกี้ เป็นต้น ควรงดไปเลย 14 วันหลังฉีด หรือถ้าหากใครที่อยากดื่มจริง ๆ หรือเลี่ยงไม่ได้ก็ควรเว้นระยะ 2-3 วันครับ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีผลข้างเคียงโดยตรง เช่น อาการบวมแดง อักเสบ
เมื่อดื่มไปแล้วจะทำให้หลอดเลือดขยายตัว เลือดสูบฉีดมากขึ้น อาการบวมจากเข็มก็จะหายช้าลง ที่สำคัญคือทำให้ฟิลเลอร์สลายไวกว่าเดิมด้วยครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์คนไข้ต้องดูแลและปฏิบัติตนตามที่หมอแนะนำไว้ข้างต้นอย่างเคร่งครัด และให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานอาหาร เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และคงผลลัพธ์อยู่ได้นานยิ่งขึ้นครับ ส่วนใครที่อยากศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถศึกษาได้จากบทความที่หมอเคยเขียนไว้เลยครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : รวมวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้เข้าที่เร็ว อยู่ได้นานขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกินอะไร ?
- น้ำเปล่าน้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป ดังนั้นควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอตามปกติคือวันละ 1.5-2 ลิตรครับ
- ผัก ผลไม้ ควรเลือกทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง อย่างผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ กี่วี สับปะรด รวมไปถึงวิตามินเออย่างผักใบเขียวต่าง ๆหรือผักจำพวกแครอท ฟักทองเป็นต้น เนื่องจากอาหารเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ที่จะไปช่วยฟื้นฟูให้แผลจากเข็มหายไวขึ้นครับ
- อาหารที่มีโปรตีนสูง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว ลดความเสี่ยงที่จะอักเสบหรือแผลติดเชื้อได้ หลังฉีดฟิลเลอร์หมอแนะนำว่าให้เพิ่มโปรตีนมากกว่าปกติอย่างน้อยหนึ่งเท่าตัวครับเพื่อร่างกายจะสร้างเนื้อเยื่อได้ อาหารโปรตีนสูงตัวอย่างเช่น ไก่ ปลา ไข่ขาว ธัญพืช เป็นต้น
ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ที่อาจเกิดขึ้นได้
บางรายอาจมีอาการบวมเล็กน้อย หรือมีจุดแดงเล็ก ๆ ที่เกิดจากเข็มครับ แต่อาการจะดีขึ้นภายในระยะเวลาประมาณ 3-5 วัน เราสามารถใช้รองพื้นธรรมดา เพื่อปกปิดรอยเข็ม หรือรอยบวมแดงได้ หากภายใน 3 วัน อาการบวมยังไม่ดีขึ้นและมีแนวโน้มแย่ลง ควรติดต่อกลับมาที่คลินิก หากเกิดรอยช้ำ หรือรอยบวม ไม่ควรใช้ความร้อนประคบ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ละลาย
หลังจาก 14 วัน อาการบวมจะหายไปเกือบ 100% ถ้ามีรอยช้ำอยู่ก็จะจางลงเรื่อย ๆ ฟิลเลอร์จะเริ่มกลืนตัวเข้ากับผิวของเรา สามารถใช้ชีวิต กินอาหาร ออกกำลังกายได้ตามปกติ แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนโดยตรงเป็นเวลานาน เพื่อให้ฟิลเลอร์มีอายุการใช้งานที่มากขึ้น
ข้อควรระวัง สำหรับคนที่ต้องการเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์
ถึงแม้ว่าฟิลเลอร์จะมีความปลอดภัย ฉีดแล้วสลายหมด 100% โดยไม่มีสารตกค้าง แต่ก็ใช่ว่าสารชนิดนี้จะสามารถใช้ได้กับทุกคน การฉีดฟิลเลอร์มีข้อจำกัดคือ
- คนที่เคยมีประวัติแพ้สารฟิลเลอร์หรือแพ้ยาชาอย่างรุนแรง
- บุคคลที่อยู่ในภาวะเลือดไหลไม่หยุด
- สตรีตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
- เคยมีประวัติเป็นเริมที่ปาก สำหรับผู้ที่ต้องการ ฉีดฟิลเลอร์ที่ปาก ควรได้รับการปรึกษาจากแพทย์
สรุป
นอกจากการเลือกหมอ คลินิก หรือยี่ห้อฟิลเลอร์แท้แล้ว การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ คนไข้ควรรู้ว่าหลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง? หรือกินอะไรได้บ้าง เพราะต่อให้หมอทำออกมาดีแค่ไหน แต่คนไข้ไม่ปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะออกมาไม่เป็นที่น่าพึงพอใจได้เช่นกัน
ดังนั้นเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน และเห็นผลเป็นธรรมชาติ ไม่มีผลข้างเคียง เราควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะจะทำให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจมากที่สุดครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 24 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ