ฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง ?
ฉีดฟิลเลอร์แล้ว…ห้ามกินอะไรบ้าง ? หนึ่งในประเด็นของคำถาม ที่หลายคนเกิดอาการสงสัย V square clinic ขอแนะนำเทคนิคการดูแลตัวเอง หลังการฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง เพื่อการดูแลตัวเองให้ดี ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง …มากฝากกันครับ
เลือกอ่าน
ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง ?
1 สัปดาห์ก่อนการฉีดฟิลเลอร์
- งดทานยา แอสไพริน, NSAIDs เช่น ibruprofen diclofenac ponstan
- งดทานอาหารเสริมและวิตามินบางประเภท เช่น St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng, และ Vitamin E
- งดยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A), Retinols, Retinoids, Glycolic Acid, หรือครีมในกลุ่ม “Anti-Aging” ทุกชนิด
24 ชั่วโมงก่อนการฉีดฟิลเลอร์
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
หลังการฉีดฟิลเลอร์
- ถ้าเกิดอาการบวม ควรกินยาแก้ปวด หรือยาลดบวมที่ทางคลินิกได้ให้มา งดดื่มเครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
สิ่งที่ควรงดทาน 14 วันหลังการทำฟิลเลอร์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ ยาดอง วอดก้า วิสกี้ ทั้งหมด
- งดอาหารปิ้งย่าง หรืออาหารที่ใบหน้าของเราต้องอยู่ใกล้ หรือสัมผัสกับความร้อน เช่น หมูกระทะ จิ้มจุ่ม ชาบู
- งดอาหารที่มีรสจัด โดยเฉพาะอาหารที่เผ็ดมากๆ เพราะจะทำให้หน้าแดง หรือเลือดสูบฉีดเยอะ
- งดอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยาย เช่น ปลาร้า มะม่วงดอง หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง
- งดอาหารที่มีรสหวานมากๆ เพราะจะกระตุ้นการอักเสบ
- งดอาหารที่ไม่สด อาหารดิบ อาหารที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุก เพราะมีพยาธิบางตัวที่สามารถไปเพิ่มการอักเสบหลังจากการฉีดฟิลเลอร์
- งดสูบบุหรี่ หรือสารชนิดต่างๆ ที่จะขยายหลอดเลือด เพราะจะทำให้อาการบวมในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์หายช้าลง
อาการที่เกิดขึ้นหลังการฉีดฟิลเลอร์
บางรายอาจมีอาการบวมเล็กน้อย หรือมีจุดแดงเล็กๆที่เกิดจากเข็ม แต่จะดีขึ้นเรื่อยๆภายในระยะเวลาประมาณ 3-5 วัน เราสามารถใช้รองพื้นธรรมดา เพื่อปกปิดรอยเข็ม หรือรอยบวมแดงได้
หากภายใน 3 วัน อาการบวมยังไม่ดีขึ้นและมีแนวโน้มแย่ลง ควรติดต่อกลับมาที่คลีนิค หากเกิดรอยช้ำ หรือรอยบวม ไม่ควรใช้ความร้อนประคบ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ละลาย
หลังจาก 14 วัน อาการบวมจะหายไปเกือบ 100% ถ้ามีรอยช้ำอยู่ก็จะจางลงเรื่อยๆ ฟิลเลอร์จะเริ่มกลืนตัวเข้ากับผิวของเรา สามารถใช้ชีวิต กินอาหาร ออกกำลังกายได้ตามปกติ แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนโดยตรงเป็นเวลานาน เพื่อให้ฟิลเลอร์มีอายุการใช้งานที่มากขึ้น
สิ่งที่ควรระวัง สำหรับคนที่ต้องการเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์
- ไม่เคยมีประวัติแพ้สารฟิลเลอร์อย่างรุนแรง
- ไม่มีประวัติแพ้ยาชาอย่างรุนแรง
- ไม่อยู่ในภาวะเลือดไหลไม่หยุด
- ไม่ตั้งครรภ์
- ไม่อยู่ในช่วงให้นมบุตร
- ไม่เคยมีประวัติเป็นเริมที่ปาก สำหรับผู้ที่ต้องการ ฉีดฟิลเลอร์ที่ปาก ควรได้รับการปรึกษาจากแพทย์
การฉีดฟิลเลอร์ ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ไม่เป็นอันตราย มีมาตรฐาน และได้ความรับความปลอดภัยสูงหากคุณใช้ฟิลเลอร์ ที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากองค์การอาหารและยา(อย.) แต่มีผู้ที่ต้องการใช้บริการบางส่วน อยากได้ราคาประหยัด จึงหันไปพึ่งพาคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ได้รับสารฟิลเลอร์ปลอม จนเป็นอันตรายต่อร่างกาย
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ คืออะไร ? อันตรายหรือไม่ พร้อม ข้อดี-ข้อเสีย
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มและปรับแต่งรูปหน้าให้กลับมาอวบอิ่มและสดใสอีกครั้ง ฉีดฟิลเลอร์จะช่วยลดเลือนริ้วรอย หรือร่องหลุมต่างๆที่ลึก และยากแก่การแก้ไข ใช้เวลาเพียง 10-15 นาที
ข้อมูลมูลเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ อันตรายไหม ? มาฟังคำตอบได้ที่นี่ บอกชัดทุกเรื่อง
ฟิลเลอร์เป็นการศัลยกรรมความงามที่รวดเร็ว และเห็นผลทันทีหลังการฉีด มีผลข้างเคียงน้อยมาก และมีการดูแลรักษาตัวเองที่ง่าย มากกว่าการศัลยกรรมรูปแบบอื่นๆ ทำให้ได้รับความนิยมสูง อีกหนึ่งสิ่งที่คนไข้ต้องคำนึงถึง คือ การเลือกสถานบริการที่มีความปลอดภัยสูง และเทคนิคการฉีดโดยแพทย์ผู้เชียวชาญ
V Square Clinic สถานบริการความงามที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ความปลอดภัย มีบริการมากถึง 14 สาขา แพทย์ผู้ชำนาญทุกคนได้รับการคัดเลือกพิเศษ อย่างน้อยต้องมีประสบการณ์ 5-10 ปี ในสายงานเฉพาะทาง จึงจะได้รับเข้าทำงานใน V Square Clinic
เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่า เมื่อเข้ารับบริการจาก V Square Clinic จะทำให้คุณประทับใจในคุณภาพ คืนความงามอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยเทคโนโลยีความงามและนวัตกรรมทางการแพทย์
ข้อมูลมูลเพิ่มเติม : วิธีเบื้องต้นในการดู Filler ว่าเป็นของแท้หรือไม่
สามารถ Comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ