สิวที่คาง
ใครที่กำลังประสบปัญหา สิวที่คาง หรือกังวลที่จะเกิดปัญหานี้ บทความนี้หมอมีวิธีการรักษาสิวที่คางและวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดสิวที่คางมาฝากครับ รวมถึงเล่าสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่คางซ้ำ ๆ ทำอย่างไรก็ไม่หาย เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาสิว และได้วิธีการรักษาสิวที่คางอย่างตรงจุดและเห็นผล
สารบัญ
สิวที่คาง คืออะไร ? มีลักษณะอย่างไร ?
สิวที่คาง นับว่าเป็นโรคทางผิวหนังชนิดหนึ่ง โดยมักจะเกิดขึ้นอยู่ซ้ำ ๆ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง รวมถึงอาจสร้างความรำคาญใจ หรือความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน เมื่อหายแล้วอาจยังทิ้งรอยดำ รอยแดงไว้ให้ตามรักษาอีก ถือว่าเป็นปัญหาผิวที่ควรรีบหาทางแก้ไขครับ
โดยสิวที่คาง สามารถพบได้ตามบริเวณคาง ใต้คาง และอาจลามไปจนถึงสันกราม มีลักษณะเป็นตุ่มนูนบนผิวหนัง โดยอาจพบเป็นสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวไม่มีหัว สิวเสี้ยน หรือสิวผด หรือในคนที่มีปัญหาสิวรุนแรงอาจพบได้ทั้งหมด
เป็นสิวที่คางซ้ำ ๆ เกิดจากอะไร ?
สิวที่คางเกิดขึ้นซ้ำ ๆ หรือเป็นแล้วไม่หายขาดสักที เกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งความผิดปกติภายในร่างกายและปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดสิวโดยที่เราไม่รู้ตัว ได้แก่
- ฮอร์โมน
สิวที่คางเกิดจากสาเหตุนี้เป็นหลักครับ ในคนที่มีระดับฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเทอโรนสูงมากเกินไป กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้เกิดการอักเสบ และเกิดเป็นสิวที่คางซ้ำ ๆ
หรือในผู้หญิงก่อนช่วงมีประจำเดือน 1-2 สัปดาห์ ระดับฮอร์โมนเพศหญิงแอนโดรเจนมีความแปรปรวน ส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติทางด้านร่างกาย เช่น ปวดหลัง ปวดท้อง เจ็บเต้านม และสิวที่คางก็เป็นหนึ่งในอาการข้างเคียงที่พบได้มากครับ
- บริเวณ T-Zone
คางอยู่บริเวณ T-Zone (หน้าผาก คาง และจมูก) ที่มีต่อมผลิตไขมันมากกว่าบริเวณอื่นของใบหน้า ทำให้เกิดสิวได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น โดยเฉพาะในคนที่มีผิวหน้ามัน ผิวผสมครับ
- มลภาวะ ฝุ่นควัน
การที่ต้องเจอกับมลภาวะ ฝุ่นควันในทุก ๆ วัน ทำให้เกิดสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ที่ผิว หากล้างหน้าไม่สะอาด จะทำให้เกิดการอุดตันของสิ่งสกปรก เกิดเป็นสิวผด สิวอุดตันที่คางได้ครับ
- หน้ากากอนามัย
ในปัจจุบันที่ทุกคนหันมาใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรคกัน อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้บางคนเกิดปัญหาผิวหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ครับ เช่น การใส่หน้ากากอนามัยซ้ำ ๆ ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกและเชื้อโรค หรือใช้หน้ากากอนามัยที่ไม่มีคุณภาพก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว จนเกิดเป็นสิวที่คาง สิวกรอบหน้า สิวที่ปาก
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต
พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่เราทำซ้ำด้วยความเคยชิน อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวโดยที่เราไม่รู้ตัวได้ครับ เช่น การนั่งเท้าคาง การใช้มือสัมผัสใบหน้าหรือคางอยู่บ่อย ๆ นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีความเครียดสะสม เป็นต้น
ชนิดของสิวที่พบได้บ่อยบริเวณคาง
ก่อนอื่นหมออยากให้ทุกคนได้รู้จักกับชนิดของสิวที่พบได้บ่อยบริเวณช่วงคางครับ เพื่อที่จะหาวิธีรักษาปัญหาสิวที่คางได้อย่างตรงจุด
สิวอุดตันที่คาง
สิวอุดตันที่คาง เกิดจากการอุดตันของไขมัน และสิ่งสกปรกที่รูขุมขน ทำให้ไขมันที่ต่อมไขมันผลิต ไม่สามารถออกมาได้จนเกิดการอุดตันครับ โดยจะเห็นเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ หรือก้อนแข็งใต้ผิว สิวอุดตันเหล่านี้หากปล่อยไว้ และไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นสิวอักเสบได้ในอนาคต
สิวอักเสบที่คาง
สิวอักเสบที่คาง เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของรูขุมขนและต่อมไขมัน หรือพัฒนามาจากสิวอุดตันที่เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium acnes จนเกิดการอักเสบ โดยสิวอักเสบมีหลายประเภทตามระดับความรุนแรง เช่น สิวหัวหนอง สิวซีสต์ เป็นต้น สิวอักเสบที่คางสามารถหายเองได้ครับ แต่ใช้ระยะเวลานาน และถ้าหากรักษาไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดสิวอักเสบเรื้อรัง รอยแผล หรือหลุมสิวตามมาได้ครับ
สิวไม่มีหัวที่คาง
สิวไม่มีหัว เกิดจากการอุดตันภายในชั้นลึกของผิว พบได้มากในบริเวณหน้าผากและคางครับ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง ไม่มีหัว ไม่มีหนอง รู้สึกเจ็บได้เมื่อสัมผัส สิวลักษณะนี้แนะนำว่าไม่ควรบีบเค้นเอง เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น และรู้สึกเจ็บได้มากครับ
สิวเสี้ยนที่คาง
สิวเสี้ยน ลักษณะคล้ายกับสิวอุดตันแต่ไม่ใช่สิวครับ แต่เป็นกลุ่มขนเล็ก ๆ คล้ายเสี้ยนโผล่ออกมาจากผิวหนังอยู่กระจุกตัวกัน มักเกิดกับคนที่มีรูขุมขนกว้าง มีปัญหาหน้ามัน โดยจะพบได้มากในบริเวณ T-zone ทำให้คางก็เป็นบริเวณพบได้สิวเสี้ยนได้มากครับ
สิวผดที่คาง
สิวผดที่เกิดขึ้นบริเวณคาง มีลักษณะเป็นผื่นใสเล็ก ๆ ไม่มีหัว อาจทำให้รู้สึกคัน ๆ แสบ ๆ ได้ มีสาเหตุมาจากสภาพอากาศที่ร้อน การเผชิญกับมลพิษ ฝุ่นควันเป็นประจำ โดยจะพบได้บ่อยในคนที่ผิวแพ้ง่ายครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : สิวผดคืออะไร ? ป้องกัน รักษาอย่างไรได้บ้าง เพื่อไม่ให้กลับมาขึ้นเรื้อรัง
รักษาสิวที่คางด้วยตัวเอง ทำได้อย่างไรบ้าง ?
หากไม่ได้มีปัญหาสิวที่คางเยอะ สามารถรักษาสิวด้วยตัวเองด้วยวิธีต่อไปนี้ เพื่อไม่ให้สิวขึ้นหนักกว่าเดิมครับ
- ล้างใบหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เพื่อไม่ให้ใบหน้าแห้งจนเกินไปแล้วผลิตน้ำมันออกมามากกว่าเดิมครับ
- เลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ห้ามแคะ แกะ และบีบสิวเองโดยเด็ดขาด
- ใช้สกินแคร์รักษาสิวให้เหมาะสมกับสภาพผิว โดยควรเลี่ยงสกินแคร์ที่เป็น oil-base จะทำให้ผิวมันและเกิดการอุดตันมากยิ่งขึ้น
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีความอ่อนโยนต่อผิว ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี ซิลิโคน
- งดการแต่งหน้าหนัก ๆ หรือถ้าหากจำเป็นจริง ๆ หลังแต่งควรทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาด
- รักษาความสะอาดของเครื่องนอน เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง รวมถึงผ้าเช็ดตัว ควรเปลี่ยนทุก ๆ 2-3 วัน เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกและเชื้อโรค
- ใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์สำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย และควรเปลี่ยนทุกวัน ไม่ใช้ซ้ำ
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดสิว เช่น ของมันของทอง นอนพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด รวมถึงหยุดจับใบหน้า คางระหว่างวัน
รักษาสิวที่คางให้หายขาด ด้วยวิธีการทางการแพทย์ มีวิธีไหนบ้าง ?
ถ้าหากรักษาสิวที่คางด้วยตัวเองแล้วยังไม่เห็นผล เป็นหนักกว่าเดิม หรือเกิดการอักเสบรุนแรง อาจเป็นเพราะสิวที่คางเกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย ไม่ใช่พฤติกรรมเพียงอย่างเดียวครับ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม โดยอาจต้องมีการใช้วิธีการทางการแพทย์ร่วมด้วย จะช่วยให้สิวที่คางหายได้เร็วขึ้น และลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำ ๆ ที่จุดเดิม ๆ
1. รักษาสิวที่คางด้วยการทายา
ในคนที่มีปัญหาสิวที่คางไม่มาก ไม่ได้อักเสบรุนแรง สามารถใช้ยาทารักษาสิวเบื้องต้นได้ โดยยาชนิดทาที่พบได้บ่อยในการรักษาสิว เช่น
- benzoyl peroxide 2.5-5% ช่วยให้หัวสิวหลุดออกได้ง่าย ลดการอุดตันของรูขุมขน
- salicylic acid ลดการอุดตันและการอักเสบ
- retinol ลดการอุดตันของรูขุมขน ผลัดเซลล์ผิว
- ยาปฏิชีวนะ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นตัวการทำให้เกิดสิวอักเสบ
ทั้งนี้ก่อนใช้ยาควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพราะบางตัวอาจใช้ร่วมกันไม่ได้ครับ เช่น retinol กับ benzoyl peroxide ไม่ควรใช้ร่วมกันโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิว
และหลังจากทายาเหล่านี้อาจจะทำให้ผิวแห้ง ผิวบางขึ้น ไวต่อแดดได้ในระยะแรก แนะนำให้ใช้มอยเจอไรเซอร์เพื่อคงความชุ่มชื้นให้กับผิวและทาครีมกันแดดควบคู่กันไปด้วย
2. รับประทานยาเพื่อรักษาสิวที่คาง
ในคนที่มีปัญหาสิวที่คางอักเสบระดับปานกลางจนถึงรุนแรงมาก ทายาแล้วยังไม่ได้ผล หมออาจต้องปรับเปลี่ยนการรักษาโดยให้รับประทานยารักษาสิวร่วมด้วยครับ
- Doxycycline และ Tetracycline ยาสำหรับลดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว
- Isotretinoin ช่วยลดการอักเสบ ยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน
- ยาฮอร์โมน ช่วยปรับระดับฮอร์โมนให้อยู่ในสภาวะปกติ
หลังรับประทานยารักษาสิวอาจมีอาการข้างเคียง เช่น ปากแห้ง ผิวแห้ง ผมร่วง อาเจียน จึงควรอยู่ในการดูแลของแพทย์และเภสัชกร ไม่ควรซื้อมารับประทานเองครับ นอกจากนี้วิธีรักษาสิวด้วยการรับประทานยาไม่เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ครับ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้
3. กดสิวที่คาง
เป็นการเคลียร์สิวอุดตันด้วยการใช้เข็มหรืออุปกรณ์ในการกดหัวสิวออกมา เหมาะสำหรับใช้กดสิวอุดตัน ซึ่งสิ่งสำคัญในการกดสิว คือ ควรเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ต้องมีความสะอาด และกดอย่างถูกวิธี เพราะหากกดไม่ถูกวิธี กดหนองออกไม่หมด หรือมีความสะอาดไม่มากพอ อาจจะทำให้เกิดการอักเสบมากกว่าเดิม สิวไม่หาย หรือสิวเห่อกว่าเดิมได้ครับ
4. ฉีดสิวที่คาง
การฉีดสิว คือ การฉีดยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์เข้าที่ตุ่มสิวโดยตรง เพื่อช่วยลดการอักเสบ และทำให้สิวยุบตัวได้เร็วขึ้น ใช้ในสิวอักเสบที่มีขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นเม็ดบวมแดง
ข้อแนะนำในการฉีดสิวคือ ควรฉีดโดยแพทย์เท่านั้นครับ เพราะต้องมีการควบคุมปริมาณยาให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม การกำหนดความลึกของเข็มขณะฉีดสิวแต่ละจุด
นอกจากนี้ไม่ควรฉีดสิวบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวบางลง เป็นสิวได้ง่ายกว่าเดิม หรือเกิดเป็นไตแข็ง ๆ ใต้ผิวหนัง โดยวิธีนี้จะไม่ใช่วิธีแรกที่หมอแนะนำให้ทำครับ เพราะไม่ใช้วิธีแก้ปัญหาสิวที่ต้นเหตุ แต่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้สิวยุบไว ๆ หรือต้องรีบใช้ใบหน้าเท่านั้น
5. รักษาสิวที่คางด้วย มาเด้คอลลาเจน เมโสหน้าใส
มาเด้คอลลาเจน เป็นหนึ่งในยี่ห้อของเมโสหน้าใส ตัวยาประกอบไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ และวิตามินต่าง ๆ ช่วยขับสารพิษออกจากผิว ลดผิวอักเสบ ผื่นแพ้ สิว โดยเฉพาะสิวผด และทำให้ skin barrier หรือเกราะป้องกันผิวแข็งแรงขึ้น ลดโอกาสการเกิดสิวได้ในอนาคต
โดยหลังฉีดมาเด้คอลลาเจน จะเริ่มเห็นผลประมาณ 3 วันว่าสุขภาพผิวดีขึ้น สิวผดลดน้อยลง หน้าขาวกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น
โดยการฉีดมาเด้คอลลาเจนเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เพราะเห็นผลได้ค่อนข้างเร็วเมื่อฉีดอย่างต่อเนื่อง เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง และราคาไม่สูงมากครับ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฉีดมาเด้คอลลาเจน ราคาโปรโมชั่น ฟื้นฟูผิวหน้าให้ขาวใส ผิวแข็งแรง สุขภาพดี
6. เลเซอร์รักษาสิวที่คาง
เลเซอร์รักษาสิวที่คาง เป็นการใช้พลังงานแสงเลเซอร์ยิงฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ลดการอักเสบ และลดการทำงานของต่อมไขมัน ช่วยให้สิวยุบตัวลงได้เร็วขึ้น ลดโอกาสการเกิดสิวในอนาคต โดยจะเห็นผลดีเมื่อได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องครับ
ปัจจุบันเลเซอร์รักษาสิวมีหลายประเภทให้เลือกตามชนิดของสิวและสภาพผิวของแต่ละคน เช่น Co2 Laser, Dual Yellow, Omnilux เป็นต้น
เมื่อสิวที่คางหายแล้ว ทิ้งรอยดำ รอยแดง หลุมสิวไว้ เราสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยการทาครีมลดรอย มาส์กหน้า หรือทำหัตถการความงามเพื่อฟื้นฟูและบำรุงผิวให้เห็นผลไวและชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น
- Rejuran ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยสิว รักษาหลุมสิวให้ตื้นขึ้นได้เล็กน้อย
- ฉีดฟิลเลอร์งานผิว Belotero Revive ช่วยเติมน้ำให้ผิว ผิวเรียบเนียน รักษาหลุมสิวให้ตื้นขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน
- Exosome กระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิว แก้หน้าเหี่ยว ริ้วรอย รอยสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ
- ฟิลเลอร์หลุมสิว ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น ปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียน อิ่มน้ำ
สำหรับวิธีลดรอยสิวอื่น ๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : ลดรอยสิว รักษารอยแดง รอยดำให้จางลง เลือกวิธีไหนดี แบบไหนเห็นผลไว
วิธีป้องกันการเกิดสิวที่คางอย่างเห็นผล
วิธีการป้องกันการเกิดสิวที่คาง หรือป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ สามารถทำได้ด้วยการหมั่นดูแลรักษาใบหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ ใช้สกินแคร์และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวของเรา โดยเน้นสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น และไม่ลืมที่จะพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด
ที่สำคัญการทำให้ผิวของเรามีสุขภาพดี จะช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวได้มากเลยครับ ไม่ว่าจะบริเวณคางและจุดอื่น ๆ โดยอาจจะเริ่มด้วยดื่มน้ำเยอะๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานวิตามินบำรุง หรือทำหัตถการความงามควบคู่กันไปด้วย สำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง
- ฉีดโบท็อกกระชับรูขุมขน ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวที่คางได้ครับ เป็นการแก้ไขที่ต้นเหตุของการเกิดสิว นั่นก็คือรูขุมขนกว้าง โดยการฉีดโบท็อก สามารถช่วยกระชับรูขุมขนกว้างให้เล็กลง ต่อมไขมันลดขนาดลง ลดปัญหาหน้ามันที่ทำให้เกิดสิวได้ง่าย สำหรับใครที่สนใจหมอได้เขียนรายละเอียดเพิ่มเติมไว้แล้วที่บทความ ฉีดโบท็อกกระชับรูขุมขนเห็นผลชัดเจนไหม เหมาะกับใคร ฉีดแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน ?
- ฉีดวิตามินผิว เป็นการฉีดวิตามินที่มี Vitamin C เป็นส่วนประกอบหลักเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรง ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน สร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นให้ผิว เป็นวิธีที่ช่วยบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้นได้ด้วยครับ
- ฉีดเมโสหน้าใส เป็นการฉีดสารบำรุงจากธรรมชาติ อาหารผิว และวิตามินต่าง ๆ เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว และยังสามารถลดรอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิว ให้ผิวดูกระจ่างใสเรียบเนียน ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย หากฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ตัวยาของแท้
โดยหมอได้เขียนวิธีเลือกคลินิกไว้แล้วที่ ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงเจอยาปลอม คลิกอ่านได้เลยครับ
โดยข้อดีของการฉีดเมโส คือ หลังฉีดเมโสหน้าใส เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด และเห็นผลได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อฉีดอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงฉีดเมโสหน้า ราคาย่อมเยาครับ และมีหลายสูตรหลายยี่ห้อ การเลือกใช้หมอจะเป็นผู้ประเมินตามปัญหาและสภาพผิวของคนไข้ เช่น ยี่ห้อ Tensonez ช่วยให้ผิวขาวใส ลดฝ้า ยี่ห้อมาเด้คอลลาเจน บำรุงผิวให้ดูสุขภาพดีแบบเร่งด่วน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ สิวที่คาง
Q. สิวที่คางเป็นหนองทำอย่างไร ?
สิวที่คางมีหัวหนองอยู่ข้างบนตุ่ม เป็นสิวที่มีการอักเสบมากกว่าสิวอักเสบตุ่มนูนแดง ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นแทรกซ้อน หากพบสิวประเภทนี้สามารถใช้วิธีกดสิวเพื่อเอาหัวสิวและหนองออกได้ครับ แต่ไม่แนะนำให้กดเอง เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น
Q. ทำไมสิวที่คางขึ้นไม่หาย ?
สิวที่คางขึ้นไม่หาย ขึ้นซ้ำ ๆ ที่เดิม เพราะว่ายังรักษาไม่ตรงจุดกับสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาครับ อีกสาเหตุคือ ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้เกิดสิว หรือในบางคนไม่ใช่สิวที่คางครับ แต่เป็นโรคทางผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) ลักษณะอาการที่พบได้คือ รอยแดง ตุ่มแดง ตุ่มหนอง ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นสิวที่คางก็มีครับ
Q. สิวที่คางบอกโรคอะไรได้ไหม ?
สิวที่คางบ่งบอกถึงการทำงานที่ผิดปกติของกระเพาะอาหาร ลำไส้ หรือระบบย่อยอาหาร หากเกิดสิวที่บริเวณนี้บ่อย ๆ หมอแนะนำให้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยเน้นอาหารที่มีกากใยสูง ง่ายต่อการย่อย เช่น ผัก ผลไม้ และเลี่ยงอาหารที่มีรสจัดครับ
สรุป
สิวที่คาง เกิดได้จากทั้งปัจจัยภายในร่างกายหรือปัจจัยภายนอกอย่างเช่น พฤติกรรม มลภาวะต่าง ๆ การที่จะรักษาสิวที่คางให้หายขาดและเห็นผลจึงควรแก้ไขที่ต้นเหตุของปัญหา โดยแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อทำการหาสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดสิว และแนะนำวิธีการรักษาสิวที่เหมาะสม เพราะหากปล่อยไว้นานอาจทำให้เกิดปัญหาสิวเรื้อรัง มีรอยดำ รอยแดงตามมา หรือถึงขั้นเกิดเป็นหลุมสิวลึกครับ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้ง 28 สาขา หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ